สังเกตุในการโปรโมตขายไม้กอล์ฟที่มีน้ำเบา เช่น ก้านเบา ไม่ถึง 40 กรัม / หัวไม้กอล์ฟเบา ไม่ถึง 190 กรัม และมีกริ๊ปเบา ไม่ถึง 30 กรัม เพื่อเป็นจุดขายทางการตลาด ซึ่งเป็นผลดีต่อนักกอล์ฟบางกลุ่มเท่านั้น โดยเฉพาะกลุ่ม Senior / Lady หรือนักกอล์ฟที่ไม่แข็งแรง หรือ มีทักษะความเร็วหัวไม้ไดร์ฟไม่เกิน 80 Mph ก็พอจะมีประโยชน์ได้ แต่นักกอล์ฟหลายๆท่านก็เข้าใจผิดว่า ไม้กอล์ฟที่มีน้ำหนักเบาน่าจะดี เพราะทำให้การสวิงได้ง่ายนั้นถูกต้องครับ
แต่กับการให้ได้ระยะเพิ่มขึ้น (Increase Distance) และการควบคุมทิศทาง และแม่นยำ (Accuracy) มันจะไม่มาพร้อมๆกันนะครับ คือ อาจได้อย่าง แต่ต้องเสียอย่าง
|
น้ำหนักก้านควบคุมน้าหนักรวมไม้กอล์ฟ |
นักกอล์ฟในทัวร์ หรือนักกอล์ฟสมัครเล่นที่แข็งแรง และมีทักษะการสวิงที่ดี ไม่ควรมีน้ำหนักไม้กอล์ฟที่เบากว่า ลองตรวจสอบดูก็ได้นะครับ หากมีความเร็วหัวไม้ (Club Speed) แตะ 100 Mph มีน้ำหนักก้านอยู่ในมือ ไม่เกิน 55 กรัม ถือได้ว่าไม่เหมาะสม สำหรับเรื่อง Flex และ Kick Point จะต้องมาดูจังหวะการสวิงประกอบ และวิเคราะห์เลือกไปพร้อมกับครับ
ความเร็ว(Speed) + มวล/น้ำหนัก(Mass) = ระยะทาง(Distance)
ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์สามารถนำมาเปรียบเทียบได้เลยครับ เพราะ 3 สิ่งนี้ความมีความพอเหมาะ พอควรต่อความสัมพันธ์กัน แต่สำหรับกีฬากอล์ฟยังมีปัจจัย เรื่อง
ความแม่นยำ (Accuracy) /
ความสม่ำเสมอ (Consistency) และ
ความรู้สึก (Feel) เข้ามาเกี่ยวข้องอีกด้วย ดังนั้นการเลือกมีไม้กอล์ฟที่เหมาะสม ย่อมไม่ใช่ไม้กอล์ฟที่ประกอบสำเร็จรูปที่วางขายอยู่ทั่วไป (Standard Spec) และคิดว่าน่าจะเหมาะสมกับเรานั้น ก็อาจจะใช่ แต่ผมขอใช้คำว่า " โชคดี " นะครับ
แนะนำควรปรึกษา
Professional Club Fitting ที่สามารถให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องไม้กอล์ฟก่อนตัดสินใจเลือกมี อย่างน้อยการตัดประกอบใหม่ (Custom Fitting) หรือ ปรับ/แต่ง (Modify / Re assembly) เพื่อให้ได้สเปคย่อมดีกว่าไม้กอล์ฟสำเร็จรูปทั่วไป เพราะไม้กอล์ฟไม่ใช่จะเปลี่ยนกันง่ายๆ แบบการเลือกซื้อเสื้อผ้านะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น