ก้านไม้กอล์ฟไม่มี Flex ที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน |
🔻ก้านไม้กอล์ฟที่จำหน่ายในท้องตลาดนั้น Flex จะไม่มีความเป็นมาตรฐานในการจำแนกเรื่องของความอ่อน/แข็ง (Flex) ที่บอกเอาไว้บนตัวอักษรไว้บนก้านฯเลย (R/S/SR/X...) ถึงแม้ว่าก้านฯนั้นจะผลิตมาจากบริษัทเดียวกันก็ตาม แต่ผลิตมาคนละรุ่น / เวลา และยิ่งไปกว่านั้น เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับก้านฯ กับต่างบริษัท ที่มี Flex เดียวกัน ยิ่งมีความอ่อน/แข็งที่ไม่เหมือนกันเลย เพราะแต่ละบริษัทที่ผลิตก้านก็มีเทคนิค และจุดเด่นในการผลิตที่แตกต่างกัน รวมถึงแผนการตลาดที่ไม่เหมือนกันอีกด้วย
Frequency Analyzer |
การวัดความอ่อน/แข็งของก้านไม้กอล์ฟนั้น ที่ถือได้ว่าเป็นมาตรฐานในวงการ Professional Club Fitting จะมีเครื่องวัดที่เรียกันว่า "Frequency Analyzer Machine" หรือเครื่องวัดความถี่ หรือวัดการดีดของก้านฯ ว่ามีจำนวนการดีดขึ้น-ลง ต่อ นาที ว่ามีจำนวนเท่าไร มีการเรียกเป็นหน่วยว่า CPM (Circle Per Minute) ค่านี้จะผันแปรตามความยาวก้าน (Shaft Length) เช่นก้านที่สั้นลงจะมีความถี่ หรือการดีด ต่อรอบนาทีที่มากขึ้น หากเปรียบเทียบก้านฯ 2 ก้านว่ามี Flex ที่เหมือน หรือต่างกันอย่างไร ควรจะต้องมีความยาวที่เหมือนกัน และมีน้ำหนักถ่วงปลายก้านฯ หรือน้ำหนักหัวไม้ (Club Head Weight) เหมือนกัน ท่านก็จะทราบว่าก้านฯนั้นจะมีความอ่อน/แข็ง (Flex) ที่เหมือน หรือต่างกันอย่างไร
🔻คราวนี้สมมุติว่าท่านชอบก้านฯ โมดิฟายยี่ห้อดังสักตัวหนึ่ง ซึ่งเพื่อนของท่านใช้แล้วว่าดี และท่านก็พอใจกับก้านฯนั้นเมื่อได้ลองตี (สมมติว่าเป็น Flex R) และท่านก็อยากจะได้ก้านฯแบบนั้นบ้าง เพื่อที่จะให้ได้ความรู้สึก / การทำงานของก้านฯ แบบที่เคยลองมา แต่พบว่า เมื่อได้เปลี่ยนก้านฯนั้นมาแล้วกลับไม่เป็นอย่างที่คิดไว้เลย มันเป็นเพราะอะไร ในเมื่อเป็นก้านฯแบบเดียวกัน และก็ Flex เดียวกัน (ที่บอกบนก้าน) พอสรุปที่ไม่เหมือนกัน และควรพิจารณาสิ่งเหล่านี้ประกอบดังนี้
- น้ำหนักหัวไม้ (Club Head Weight) : น้ำหนักหัวไม้ที่ หนัก / เบา ไม่เหมือนกัน
- ขนาดของหัวไม้ หรือ การออกแบบจุดศูนย์ถ่วง (Club Head Volume or Center Of Gravity) : ขนาดปริมาตร / CC ไม่เหมือนกัน, การกระจาย Deeper COG, ใกล้/ไกล หน้าไม้ หรือ ความสูง/ต่ำหน้าไม้ (Vertical COG) หรือ Deep / Shallow Face
- ความยาวก้าน (Shaft Length) : ความยาวกำหนดความแม่นยำ และ สวิงเวทที่ต่างกัน
- น้ำหนักรวมไม้กอล์ฟ (Total Weight) : เป็นผลมาจาก น้ำหนักหัวไม้ และน้ำกริ๊ป รวมกับน้ำหนักก้านฯ และจุดดีดก้าน (Kick Point) ที่ต่างไป
- การประกอบไม้ (Club Assembly) เช่น ตัดทำความยาวก้าน / Swing weight / Tip Trimming / ขนาดกริ๊ป / Spine Alignment
🔻เพราะฉนั้นสรุปได้ว่าก้านฯที่มี Flex ที่บอกบนก้านไม้กอล์ฟนั้น อาจเชื่อถือไม่ได้เลย เมื่อนำก้านนั้นมาประกอบเป็นไม้กอล์ฟแล้ว (Completed Club) ความอ่อนแข็งของก้านก็จะเปลี่ยนไป (ยังไม่รวมเรื่อง Spec การผลิตของแต่ละบริษัทที่แตกต่างกัน) ควรนำมาวัดหาค่า CPM จะแน่นอนกว่าครับ ท่านจะได้ก้านไม้กอล์ฟที่เป็นส่วนสำคัญ และเป็นตัวแปรหลักที่เหมาะกับท่านจริงๆ จะดีกว่าทดลองหาไม้กอล์ฟที่มีก้านทีเป็น Standard Spec ลองไปเรื่อยๆ กว่าจะลงตัวคงเสียเวลา และอาจเสียเงินเปล่าด้วยครับ
🔻หากท่านต้องการทราบว่าท่านควรมีก้านไม้กอล์ฟที่มีความอ่อน/แข็ง (Flex) หรือมีค่า CPM เท่าไรที่จะเหมาะสมกับ จังหวะ และวงสวิงของท่าน ควรปรึกษาร้าน Professional Club Fitting จะมีคำตอบที่ดีที่สุด
(ก้านฯกราไฟท์ที่ใช้มาระยะเวลาหนึ่งอาจเปลี่ยนความอ่อน/แข็ง (Flex) ได้ ขึ้นอยู่่กับความถี่/บ่อยในการใช้งาน)
✅ติดตามเรื่องฟิตติ้งไม้กอล์ฟน่ารู้✅
1 ความคิดเห็น:
very good advice
แสดงความคิดเห็น