18 มีนาคม 2556

การเลือกก้าน Driver ที่มีความอ่อน/แข็ง (Flex) เหมาะสมกับนักกอล์ฟ

🔻มีนักกอล์ฟหลายท่าน อาจจะมากกว่า 70-80% ที่ยังไม่เข้าใจเรื่องความอ่อน / แข็งของก้านไม้กอล์ฟ (Shaft Flex) และเข้าใจกันว่า ก้านไม้กอล์ฟจำแนกความอ่อนแข็งออกเป็นเพียงตัวอักษรบอกไว้บนก้านฯเท่านั้น ตัวอย่างเช่น Flex R (Regular) / S (Stiff) / X (Extra Stiff) นอกจากนี้ ก้านฯบางยี่ห้อยังจำแนกเป็น R1 / R2 / SR / L (Lady) หรือ Firm ซึ่งนักกอล์ฟก็จะจดจำว่าตัวเองเคยใช้ก้าน R  แล้วตีได้ดี ได้ความรู้สึกอ่อน/แข็งระดับหนึ่ง และชอบ เมื่อไรต้องการเปลี่ยนไม้กอล์ฟ หรือก้านไม้กอล์ฟ ก็จะเลือกก้านที่บอกตัวอักษรแค่เป็น  R (Regular) เท่านั้น ก็น่าจะเพียงพอแล้วกับความต้องการแล้วใช่ไหม??

ก้านไม้กอล์ฟไม่มี Flex ที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน
🔻คราวนี้ท่านนักกอล์ฟควรจะเลือกความอ่อน/แข็ง (Flex) ของก้านไม้กอล์ฟที่มีความอ่อน/แข็งตามที่เคยคิดไว้อย่างนั้นหรือเปล่า ที่ท่านจะได้ก้านที่เหมาะสม และชอบเหมือนอย่างเคยกับท่านจริงๆ ในเมื่อก้านไม้กอล์ฟในท้องตลาดก็มีเป็นหลายสิบยี่ห้อ / หลายรุ่น และ รุ่นละหลาย Spec อีกอ่ะครับ แล้วก้าน Flex R (Regular) จะมีความอ่อนกว่าก้านไม้กอล์ฟที่มี Flex S (Stiff) และก้านฯ X (Extra Stiff) ก็จะแข็งกว่าก้านฯที่ มี Flex S  เป็นอย่างนั้นในทุกๆก้านไม้กอล์ฟ ของทุกๆยี่ห้อหรือเปล่าล่ะ เช่น ก้าน R ของรุ่นหนึ่ง จะอ่อน/แข็ง เท่ากันกับอีกรุ่นหนึ่งไหม?????

🔻ก้านไม้กอล์ฟที่จำหน่ายในท้องตลาดนั้น Flex จะไม่มีความเป็นมาตรฐานในการจำแนกเรื่องของความอ่อน/แข็ง (Flex) ที่บอกเอาไว้บนตัวอักษรไว้บนก้านฯเลย (R/S/SR/X...) ถึงแม้ว่าก้านฯนั้นจะผลิตมาจากบริษัทเดียวกันก็ตาม แต่ผลิตมาคนละรุ่น / เวลา และยิ่งไปกว่านั้น เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับก้านฯ กับต่างบริษัท ที่มี Flex เดียวกัน ยิ่งมีความอ่อน/แข็งที่ไม่เหมือนกันเลย เพราะแต่ละบริษัทที่ผลิตก้านก็มีเทคนิค และจุดเด่นในการผลิตที่แตกต่างกัน รวมถึงแผนการตลาดที่ไม่เหมือนกันอีกด้วย
Frequency Analyzer

การวัดความอ่อน/แข็งของก้านไม้กอล์ฟนั้น ที่ถือได้ว่าเป็นมาตรฐานในวงการ Professional Club Fitting จะมีเครื่องวัดที่เรียกันว่า "Frequency Analyzer Machine" หรือเครื่องวัดความถี่ หรือวัดการดีดของก้านฯ ว่ามีจำนวนการดีดขึ้น-ลง ต่อ นาที ว่ามีจำนวนเท่าไร มีการเรียกเป็นหน่วยว่า CPM (Circle Per Minute) ค่านี้จะผันแปรตามความยาวก้าน (Shaft Length)  เช่นก้านที่สั้นลงจะมีความถี่ หรือการดีด ต่อรอบนาทีที่มากขึ้น หากเปรียบเทียบก้านฯ 2 ก้านว่ามี Flex ที่เหมือน หรือต่างกันอย่างไร ควรจะต้องมีความยาวที่เหมือนกัน และมีน้ำหนักถ่วงปลายก้านฯ หรือน้ำหนักหัวไม้ (Club  Head Weight) เหมือนกัน ท่านก็จะทราบว่าก้านฯนั้นจะมีความอ่อน/แข็ง (Flex) ที่เหมือน หรือต่างกันอย่างไร

🔻คราวนี้สมมุติว่าท่านชอบก้านฯ โมดิฟายยี่ห้อดังสักตัวหนึ่ง ซึ่งเพื่อนของท่านใช้แล้วว่าดี และท่านก็พอใจกับก้านฯนั้นเมื่อได้ลองตี (สมมติว่าเป็น Flex R) และท่านก็อยากจะได้ก้านฯแบบนั้นบ้าง เพื่อที่จะให้ได้ความรู้สึก / การทำงานของก้านฯ แบบที่เคยลองมา แต่พบว่า เมื่อได้เปลี่ยนก้านฯนั้นมาแล้วกลับไม่เป็นอย่างที่คิดไว้เลย มันเป็นเพราะอะไร ในเมื่อเป็นก้านฯแบบเดียวกัน และก็ Flex เดียวกัน (ที่บอกบนก้าน) พอสรุปที่ไม่เหมือนกัน และควรพิจารณาสิ่งเหล่านี้ประกอบดังนี้

  1. น้ำหนักหัวไม้ (Club Head Weight) : น้ำหนักหัวไม้ที่ หนัก / เบา ไม่เหมือนกัน
  2. ขนาดของหัวไม้ หรือ การออกแบบจุดศูนย์ถ่วง (Club Head Volume or Center Of Gravity) : ขนาดปริมาตร / CC ไม่เหมือนกัน, การกระจาย Deeper COG, ใกล้/ไกล หน้าไม้ หรือ ความสูง/ต่ำหน้าไม้ (Vertical COG) หรือ Deep / Shallow Face
  3. ความยาวก้าน (Shaft Length) : ความยาวกำหนดความแม่นยำ และ สวิงเวทที่ต่างกัน
  4. น้ำหนักรวมไม้กอล์ฟ (Total Weight) : เป็นผลมาจาก น้ำหนักหัวไม้ และน้ำกริ๊ป รวมกับน้ำหนักก้านฯ และจุดดีดก้าน (Kick Point) ที่ต่างไป
  5. การประกอบไม้ (Club Assembly) เช่น ตัดทำความยาวก้าน / Swing weight / Tip Trimming / ขนาดกริ๊ป / Spine Alignment 
🔻เพราะฉนั้นสรุปได้ว่าก้านฯที่มี Flex ที่บอกบนก้านไม้กอล์ฟนั้น อาจเชื่อถือไม่ได้เลย เมื่อนำก้านนั้นมาประกอบเป็นไม้กอล์ฟแล้ว (Completed Club) ความอ่อนแข็งของก้านก็จะเปลี่ยนไป (ยังไม่รวมเรื่อง Spec การผลิตของแต่ละบริษัทที่แตกต่างกัน) ควรนำมาวัดหาค่า CPM จะแน่นอนกว่าครับ ท่านจะได้ก้านไม้กอล์ฟที่เป็นส่วนสำคัญ และเป็นตัวแปรหลักที่เหมาะกับท่านจริงๆ จะดีกว่าทดลองหาไม้กอล์ฟที่มีก้านทีเป็น Standard Spec ลองไปเรื่อยๆ กว่าจะลงตัวคงเสียเวลา และอาจเสียเงินเปล่าด้วยครับ

🔻หากท่านต้องการทราบว่าท่านควรมีก้านไม้กอล์ฟที่มีความอ่อน/แข็ง (Flex) หรือมีค่า CPM เท่าไรที่จะเหมาะสมกับ จังหวะ และวงสวิงของท่าน ควรปรึกษาร้าน Professional Club Fitting จะมีคำตอบที่ดีที่สุด

(ก้านฯกราไฟท์ที่ใช้มาระยะเวลาหนึ่งอาจเปลี่ยนความอ่อน/แข็ง (Flex) ได้ ขึ้นอยู่่กับความถี่/บ่อยในการใช้งาน)

✅ติดตามเรื่องฟิตติ้งไม้กอล์ฟน่ารู้✅

https://youtube.com/c/TOMTOMIYACLUBFITTING

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

very good advice