24 พฤษภาคม 2555

ค่าแรงต้านทานการบิดตัวก้าน (Torque) กับการเลือกก้านไม้กอล์ฟ

มีนักกอล์ฟหลายท่านต้องการจะปรับแต่งไม้ฯ (Modify) และอยากได้ก้านไม้กอล์ฟที่ Modify ให้มี Torque ที่ต่ำ เพราะคิดว่า Toque ที่ต่ำจะดีกว่าก้านไม้กอล์ฟที่มี Torque ที่สูง ซึ่ง Torque ที่ต่ำจะให้การควบคุมได้ดีกว่าไกลกว่า ก้านฯที่มี Torque สูง ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดความสับสนในหมู่นักกอล์ฟทั่วไปว่า Torque แบบไหนที่ควรมี

ค่าแรงต้านการบิดตัวก้านฯ (Torque) เป็นความต้านทานของการบิดตัวก้านฯ จากแรงภายนอก อาจเปรียบให้เห็นภาพลักษณะง่ายๆก็คล้ายการม้วนบิดผ้า (ที่รีดน้ำออก) ผ้าผืนเล็กบาง (บิดง่าย) ผ้าหนา (บิดยาก) และมีค่าของการบิดตัวนี้เป็นองศา (Degree) ส่วนใหญ่จะพูดถึงค่า Torque ในก้านฯกราไฟท์มากกว่าก้านเหล็ก สาเหตุเพราะก้านเหล็กมีค่า Torque ที่น้อย เพราะทำจากวัสดุที่เป็นเหล็ก ซึ่งมีผลต่อการบิดตัวก้านน้อย (ยาก) ด้วยเนื้อวัสดุเอง และการทำให้การผลิตก้านเหล็กให้มีค่า Torque ที่ไม่ต่างกันมาก ซึ่งไม่เหมือนกับการผลิตก้านกราไฟท์ ซึ่งเป็นวัสดุมีความผันแปรมากกว่าเหล็ก สามารถผลิตค่า Torque ได้หลายหลากมากกว่า สามารถผลิตก้านฯที่มีค่าที่แตกต่างกันมากกว่าเหล็ก (ค่า Torque ในเหล็กประมาณ 2.5-3.5 องศา / กราไฟท์ อยู่ระหว่าง 3.5 - 5.5 หรือ 6.0) เพื่อให้เหมาะสมกับนักกอล์ฟในแต่ละคนที่มีความเร็วของวงสวิงที่ต่างกัน
(** ไม่มีค่า Torque ที่เป็นมาตรฐาน เช่นเดียวกับค่า Flex ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตจะกำหนด**)

การบิดตัวก้าน (Torque) เกิดจากการเปลี่ยนระนาบหน้าไม้ (Club Face) ด้วยแรง (Speed) ในขณะ Down Swing ด้วยความเร็ว หรือจังหวะในการ Down สวิงของนักกอล์ฟในแต่ละคนไม่เหมือนกัน

หากมีความเร็วในการ Down swing เข้า Impact ที่มาก ก็ควรมีก้านฯที่มี การบิดตัวก้านฯ (Torque) ต่ำ เพราะ Torque ที่ต่ำจะสามารถรับแรงต้านได้ดี ซึ่งจะรักษาหน้าไม้ให้คงที่มากกว่า การที่มีก้านฯที่มี Torque สูง และในทางกลับกัน นักกอล์ฟที่มีความเร็วที่ต่ำ ควรมีก้านฯที่มี Torque สูง (หากไปใช้ก้านฯที่ Torque ต่ำแล้วจะทำให้ เกิดความกระด้าน ก้านฯทำงานในการดีดตัวได้ไม่เต็มประสิทธิภาพที่ควรเป็น)

การผลิตก้านไม้กอล์ฟที่กำหนด Torque นั้น ก้านที่มีผนังก้านฯที่หนา จะมีน่ำหนักก้านมาก จะมีค่า Torque ที่ต่ำ และก้านที่มีน้ำหนักน้อย ผนังก้านบาง จะมีค่า Torque ที่สูง โดยธรรมชาติของการผลิต แต่ผู้ผลิตก้าน Modify จะผลิตก้านฯพิเศษที่มีน้ำหนักเบา แต่มีค่า Torque ที่ต่ำด้วย และวางขายในราคาแพงๆอยู่ทั่วไป ซึ่งถามว่าจำเป็นไหมท่านนักกอล์ฟ ควรมีก้านแบบนั้น (นอกจากมีความต้องการพิเศษ และเฉพาะจริงๆ เท่านั้น)

จากที่เคยพูดเรื่องก้านฯไป นักกอล์ฟที่มีความเร็วหัวไม้ที่ต่ำ (Low/Slow Club Head Speed) หรือมีความแข็งแรงร่างกายน้อย (เป็น Weekend Golfer หรือ ไม่ใช่นักกีฬา) ก็ควรจะมีน้ำหนักก้านฯ ให้เบา ง่ายต่อการควบคุม และการสร้างสปิน ให้ลูกยกตัวสูงให้ได้ เพื่อเป็นที่มาของระยะ (Maximum Distance) และนักกอล์ฟที่มีความเร็วหัวไม้ที่สูง (High/Fast Club Head Speed) ควรใช้ก้านฯที่มี Torque ที่ต่ำ

Torque กับ Speed ที่เหมาะสมกัน จะเป็นตัวควบคุมหน้าไม้ในการปะทะลูก (Solid Impact) ได้ดีที่สุด Torque ไม่ได้หมายถึง การทำให้เกิดระยะ แต่เป็นผลทำให้ Impact ได้ดี และการ Impact ดีจะส่งผลตามมาเรื่องระยะ แต่ไม่ใช่ปัจจัยหลัก ที่จะเลือกโมดิฟาย Torque เพื่อระยะ

การที่จะตอบเป็นตัวเลขเลยนั้นว่า ควรมีค่า Torque เท่าไร กับ ความเร็วที่ ช้า หรือ เร็วนั้นคงไม่ได้ครับ เพราะค่า Torque ไม่ได้กำหนดมาตรฐานมา และขึ้นอยู่กับการประกอบก้านฯด้วยว่ามีการปรับแต่งอย่างไร กับปลายก้าน (Tip Trimming) และความต้องการความนุ่มนวลของก้านฯอย่างไร Professional Club Fitting Shop ต้องทราบ เพราะร้านทำไม้ฯ ทั่วไปส่วนใหญ่จะไม่ค่อยปรับแต่งที่ปลายก้าน คือมาอย่างไร ก็ไปอย่างนั้น จะปรับแต่งที่โคนก้าน (Butt Trimming) เพื่อความยาวเท่านั้น และจะทำความยาวมาตรฐาน 45-46 นิ้วออกมา ทำก้านโมดิฟายแล้วก็ไม่ทราบข้อมูล นักกอล์ฟอีกว่าควรปรับแต่งอย่างไร (ก็ซื้อมา ขายไปนั้นเอง)

ขอเล่าประสบการณ์หน่อย : มีนักกอล์ฟมือดีท่านหนี่งมาใช้บริการ มีก้าน Premium เป็น Brand name ด้วยใน Driver มีน้ำหนักก้าน 55 กรัม และมี Torque ที่ 3.5 องศา (Spec ก้านแบบนี้ราคาจะสูง) ซึ่งนักกอล์ฟท่่านนี้ มีความเร็วหัวไม้ฯ 100 Mph  ซึ่งดูแล้วก้านฯไม่ Match กับความเร็วหัวไม้เลย จากการสอบถามแล้ว ต้องการให้มี Torque ต่ำ เพื่อเพิ่มการควบคุมหน้าไม้ (ก้านไม่ดิ้น, ภาษาโปรฯเขาเรียกกัน) แต่ดูความเร็วหัวไม้ (Club Head Speed) ที่มี กับ น้ำหนักก้านแล้ว ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งที่ทำให้เกิดระยะ และการควบคุมได้เต็มที่ หากได้ก้านฯที่มีน้ำหนักมากกว่านี้ 65-70 กรัม ซึ่งก้านฯที่มีน้ำหนักมากขึ้นส่วนใหญ่จะมี Torque น้อยลงอยู่แล้ว และจะได้ก้านที่มีคุณภาพเหมาะสมกว่า และราคาจะถูกกว่าด้วยครับ (เป็นตัวอย่างสำหรับนักกอล์ฟที่ต้องการ Torque ต่ำ แต่ไม่ได้ประโยชน์จะมันเลยเต็มที่เลย)

ไม่มีความคิดเห็น: