ซึ่งได้พบเห็นกันอยู่เสมอในนักกอล์ฟหลายคน ที่มีความเร็วหัวไม้ (Club head speed) ที่ดี และ Impact และ Flight Ball ก็ดี แต่กับไม่ได้ระยะ เพราะใช้ไม้กอล์ฟมีมวล หรือน้ำหนักที่ไม่เหมาะกับความต้องการของนักกอล์ฟผู้นั้น
(ตัวอย่าง สมมุติการทดลองว่าท่านขว้างตะปู หรือ น็อต สิ่งไหนจะได้พลัง (Impact Power) เป็นที่มาของระยะได้มากกว่ากัน)
นักกอล์ฟที่สามารถ Drive ได้ระยะ 270 หลาขึ้นไปนั้น ไม่มีคนไหนเลย ที่มีความเร็วหัวไม้ (Club Head Speed) ต่ำกว่า 100 MPH และใช้ก้านน้ำหนักต่ำกว่า 60 กรัม เพราะค่าความสัมพันธ์ดังที่กล่าว จำเป็นต้องสอดคล้องและสมดุลซึ่งกันและกัน ถึงจะได้ผลงานที่ดีออกมา
ไม้กอล์ฟในปัจจุบันที่วางขายอยู่นั้น จะมีก้านไม้ฯเบา (50-60 กรัม) มีความยาวก้านที่เกินความจำเป็น (45.5 - 46.5 นิ้ว) ซึ่งความยาวก้านที่ยาวไปนั้น จะทำให้ความแม่นยำลดลง เป็นสาเหตุทำให้ท่านไม่สามารถตีลูกกอล์ฟได้ตรงกลางหน้าไม้ (Center Impact) ได้บ่อยครั้งมากขึ้น ซึ่งเป็นผลทำให้ได้ระยะที่ได้ลดลง กว่าีที่ควรเป็น
น้ำหนัก (Weight) ในไม้กอล์ฟในหนึ่งไม้ มีอยู่ 2 ค่า คือ มวล หรือ น้ำหนักรวม (Total Weight) และ สวิงเวทจ์ (Swing Weight) ซึ่งสวิงเวทจ์เป็นค่าของความรู้สึกของความรู้สีกหัวไม้ และเป็นผลตามมาของกระจายมวลบนไม้กอล์ฟนั้นๆ (Weight Distribution) สวิงเวทจ์ของไม้กอล์ฟที่เท่ากัน อาจจะมีมวล(น้ำหนัก) ที่ต่างกันได้ เพราะไม่ควรยึดสวิงเวทจ์ที่เคยชอบมาเป็นปัจจัยหลักเมื่อเปลี่ยน หรือปรับแต่งอุปกรณ์ใหม่
เพราะฉนั้น น้ำหนักก้านไม้กอล์ฟ (Shaft Weight) จะเป็นตัวหลักสำคัญในการควบคุมน้ำหนักของมวลทั้งหมด (Total Weight) บนไม้กอล์ฟ ในการถ่ายทอดพลังงาน (Energy Transition) จากนักกอล์ฟไปยังลูกกอล์ฟ เพื่อให้ได้งานที่เป็นระยะออกมา
การปรับแต่งไม้กอล์ฟ และเลือกส่วนประกอบไม้กอล์ฟ (Club Fitting) ที่ดี และเหมาะสมเท่านั้น ที่จะสามารถจัดสรร / ปรับแต่ง / ทำสิ่งเหล่านั้นให้ท่านได้ เพราะไม้กอล์ฟที่ได้จากบนชั้นวางขายไม้กอล์ฟทั่วไป ที่มี Spec เดิมๆมาจากโรงงาน (One Size Fit All) ไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างให้ตรงประเด็นได้ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น