องศาหน้าไม้ของ Driver ที่บอก หรือ Mark อยู่บนหัวไม้ (Sole) เช่น 9.5 หรือ 10.5 องศานั้น แต่พอเข้าเครื่องวัดองศาหน้าไม้จริงๆแล้ว ออกมาเป็น 12 องศา หรือบางท่านคิดว่ามีองศาหน้าไม้ที่ 8.5 หรือ 9 องศา จะทำให้ไดร์ฟลูกได้พุ่งต่ำกว่า และมีระยะวิ่ง (Carry Distance) แต่กลับได้องศาหน้าไม้สูง เป็น 11 หรือ 12 องศาก็พบเห็นอยู่บ่อยๆ
หากท่านสังเกตว่า Driver ของท่านที่มีองศาที่ต่ำแล้ว แต่ไดร์ฟออกไปแล้ว กลับมีมุมเหิน หรือ Fight Ball ที่สูง ซึ่ง บางท่านก็อาจจะมึนงงอยู่บ้าง ว่าเป็นเพราะสาเหตุใดและอยากจะเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ ทั้งก้าน และหัวไม้ เพื่อให้ได้ตามต้องการ
.jpg)
จากข้อความข้างต้นจะเห็นถึงสาเหตุ และปัจจัยที่ทำให้ได้ระยะนั้นต้องสัมพันธ์กันอย่างสอดคล้องและลงตัว หากท่านยังไม่เข้าถึงหลักการเกิดทำให้เกิดระยะขององศาหน้าไม้ในกีฬากอล์ฟนี้แล้ว จะยกตัวอย่างเปรียบเทียบง่ายๆเพื่อให้ท่านเข้าใจยิ่งขึ้น
สมมุติการยืนลดน้ำต้นไม้ด้วยสายยางลดน้ำ ซึ่งท่านยืนห่างจากโค่นต้นไม้ประมาณ 5 เมตร และเปรียบแรงดันน้ำที่แรง (เมื่อเปิดปั๊มน้ำ) นั้นเหมือนกับความเร็วหัวไม้ที่สูง ท่านจะสามารถฉีดลดน้ำต้นไม้ไปที่โค่นต้นด้วยมุมองศาของสายยางที่ไม่ต้องยก หรือปรับมุมให้สูง ก็สามารถฉีดลดน้ำได้ถึงโค่นต้นได้อย่างง่ายดาย แต่ในทางกลับกัน หากปิดปั๊มน้ำ และมีแรงดันน้ำที่ต่ำ ท่านจำเป็นต้องปรับมุมของสายยางลดน้ำนั้น ให้มีมุมองศาที่สูงขึ้นกว่าเดิม ถึงจะลดน้ำให้ได้ถึงโค่นต้นไม้ที่ห่างออกไป 5 เมตรได้
เพราะฉนั้นการที่มีความเร็วหัวไม้ที่ต่ำ (Low Speed) แล้ว แต่กลับต้องการองศาหน้าไม้ที่ต่ำ (Low Loft Angle) ด้วย ก็จะไม่ช่วยให้สร้างอัตราสปิน และมุมเหิน (Launch Angle) ที่สูงขึ้นได้เลย และระยะที่ได้ก็ไม่ได้เต็มประสิทธิภาพที่ควรจะได้ครับ ลองนำไม้กอล์ฟนั้นมาตรวจเช็คองศาหน้าไม้ (Loft Angle) / จุดดีดก้าน (Shaft Bend Profile) กับ Professional Club Fitting ดูก่อนซิครับว่าเป็นเพราะอะไร แล้วควรแก้ไขอย่างไร ก่อนการตัดสินใจเปลี่ยนอุปกรณ์อีกครั้ง แบบไม่มีจุดหมายปลายทาง ซึ่งอาจจะได้แบบเดิม (แต่เป็นของใหม่) กลับมาใช้อีกก็ได้ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น