ถ้าท่านทราบสเปคก้าน และเลือกก้านที่เหมาะกับตัวเองได้แล้ว เช่น
1. น้ำหนักก้าน (Raw shaft weight) : น้ำหนักก้านเปล่าก่อนตัด (Uncut) เหมาะสมกับความแข็งแรง และทักษะความสามารถ ซึ่งน้ำหนักก้านจะเป็นตัวแปรของ น้ำหนักรวมไม้กอล์ฟ (Total Weight)
2. ความอ่อน/แข็งโคนก้าน (Butt Shaft Flex) : ควรมีค่าเป็น CPM (ใช่ค่า R, S, X) ควรเป็นตัวเลขต่อความยาวก้านที่เท่ากัน ให้เหมาะกับทักษะ (Skill) และจังหวะการสวิง (Swing Tempo)
3. Bending point (Tip Flex) : จุดงอตัวดีดปลายก้านที่มีเป็นค่า CPM เช่นเดียวกัน กับความอ่อนแข็งที่โคนก้าน ให้เหมาะกับน้ำหนักหัวไม้ และตำแหน่งการคลายมือก่อนการอิมแพค (Late Unhinge Wrist) ที่จะกำหนดมุมเข้าบอล และมุมเหิน (Launch Angle) ตามมา
4. พิจารณาก้านฯร่วมกับหัวไม้ / ใบเหล็ก / น้ำหนักหัวไม้ / ตำแหน่ง C.G./ องศาหน้าไม้ / Face angle ที่จะนำก้านไปประกอบใช้ให้เหมาะกับฝีมือตัวเอง
5. การประกอบก้าน (Club Assembly) : ก้านที่เหมาะต้องประกอบก้านให้ได้สเปค ตรงกับทักษะ และสรีระที่แตกต่างกัน เช่น สวิงเวท / ความยาวก้าน / ขนาดกริ๊ป และจัดวางแนวดีดที่มีประสิทธิภาพสูงสุด (Neutral Bending Position)
6. ราคา (Price) : เป็นประเด็นสุดท้ายที่ควรพิจารณาเลือกก้านเพื่อนำไปใช้จริง (ใช่ไปโชว์) ควรประหยัดกว่าก้านที่มีสเปค 1-5 ที่กล่าวมาเหมือนกัน
แล้วชื่อแบรนด์ หรือสีสรร บนตัวก้าน จะยังจำเป็น หรือสำคัญต่อการเลือกเพื่อนำไปใช้จริงอีกหรือเปล่าครับ??
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น