31 ตุลาคม 2559

ทำไม Custom Club Fitting จึงมีความสำคัญกว่า Standard Spec

ไม้กอล์ฟที่ผลิตออกมาวางจำหน่ายในหลายๆรุ่น หลายๆแบนด์ ซึ่งในปัจจุบันนี้ยิ่งผลิตออกมาเร็วกว่าเดิมมาก อาจพูดได้ว่า หัวปี ท้ายปี เลยก็ว่าได้และในแต่ละรุ่นก็มีปัจจัยในการเปลี่ยนการออกแบบเพียงเพื่อการตลาด ซึ่งก็ไม่ต่างไปจากเดิมมากนัก ผลิตออกมาทีละมากๆ มีให้เลือก Flex และ องศาหน้าไม้เพียง 2 แบบเท่านั้น ( flex R/S และ 9.5 / 10.5) ซึ่งสำหรับกีฬากอล์ฟ ควรต้องมีรายละเอียดของสเปคที่เหมาะสมในแต่ละคนที่ไม่เหมือนกันในมากกว่านี้

ไม้กอล์ฟที่เป็น Standard Spec ทั่วไปที่ควรให้ความสนใจ และท่านนักกอล์ฟรู้ว่านั้นมีผลอย่างไรกับการเล่นกอล์ฟของตัวท่านเองมุมองศาหน้าไม้ (Loft Angle) : ที่เป็นตัวหลักในการกำหนดระยะ แต่ไม้กอล์ฟที่วางจำหน่ายมีให้เลือกเพียง 2 แบบ แต่ในความจริงความสามารถนักกอล์ฟมีอยู่มากกว่านั้น ตัวอย่างเช่น มีความเร็วหัวไม้ (Club Speed) ที่แตกต่างกัน เช่น มากกว่า 100 MPH / 90-100 MPH /80-90 MPH และต่ำกว่า 80 MPH ก็ควรจะมีองศาหน้าไม้ให้เลือกมากกว่านั้น
  1. ความยาวก้าน (Club Length) : ความยาวก้านที่วางจำหน่าย ยิ่งมีเพียงความยาวเดียวในไดร์ฟ / แฟร์เวย์ / หรือชุดเหล็ก-เวดจ์ ที่วางจำหน่ายกัน แต่สรีะร่างกายนักกอล์ฟมีมากกว่านั้น ทำไมต้องใช้ความยาวก้านที่เหมือนกันด้วย จึงทำให้นักกอล์ฟปรับตัวเข้ากับไม้กอล์ฟเสียส่วนใหญ่ การพัฒนาวงสวิงจึงไปได้ไม่ดีเท่าที่ควร เพราะความยาวก้านที่ยาวเกินกว่าทักษะ และความสามารถ แล้วยากที่จะตีลูกได้ตรงกลางหน้าไม้ได้บ่อยได้
    ปรับวงสวิง เข้ากับไม้กอล์ฟ
  2. มุมเอียงคอไม้ (Lie Angle) : ความยาวก้านไม้กอล์ฟ และส่วนสูงของนักกอล์ฟจะไม่ค่อยสัมพันธ์กัน กับความยาวก้านที่วางจำหน่ายเป็น Standard Spec ทำให้การอิมแพค และทิศทางไม่เป็นไปตามที่ได้เล็ง หรือต้องการ และจะพยายามปรับวงสวิง ไม่ค่อยปรับไม้กอล์ฟ เพื่อพัฒนาวงสวิง
  3. น้ำหนักก้าน (Shaft Weight) : ส่วนนี้ก็นับว่าเป็นส่วนที่สำคัญไม่แพ้ความยาวก้านฯ เพราะความแข็งแรงร่างกายแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน นักกอล์ฟส่วนใหญ่ก็จะเลือกเปลี่ยนทั้งชุด จาก Standard to Standard Spec เพื่อที่ให้ได้ไม้กอล์ฟที่เบา หรือหนักขึ้นให้เหมาะสมกับความแข็งแรง และความสามารถตัวเอง จะไม่นิยมเลือกปรึกษากับร้าน Professional Club Fitting ก็จะเปลี่ยนสเปคก้านไปเรื่อยๆจนกว่า โชคดีและเจอลงตัว
  4. ขนาดกริ๊ป (Grip Size) : นักกอล์ฟส่วนใหญ่ มากกว่า 80% ไม่ได้ให้ความสำคัญกับ ขนาดกริ๊ป เพราะคิดว่าไม้กอล์ฟทีวางจำหน่ายก็น่าจะใช้ได้จับกริ๊ปดูแล้วก็น่าจะตีได้ เนื่องจากขนาดมือของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน ขนาดกริ๊ป จึงมีความสำคัญในกีฬากอล์ฟอย่างมาก เพราะกริ๊ปเป็นส่วนเดียวของไม้กอล์ฟที่สัมผัสกับผู้เล่น และการอิมแพคที่ดี ควรต้องมีขนาดกริ๊ปไม้กอล์ฟที่พอดีกับขนาดมือของผู้เล่นด้วยครับ ซึ่งทิศทาง และระยะ เมื่อมีการอิมแพคที่ดีจะตามมาเมื่อขนาดกริ๊ปที่พอดี
  5. การประกอบไม้กอล์ฟที่ดี (Club Assembly) : ก็จะได้สเปคที่กล่าวมาแล้วได้ ซึ่งยังไม้ร่วมถึงจัดความยาวก้านที่เหมาะสม / แนวการดีดก้าน และการปรับสวิงเวท ให้ MOI matching อีกด้วย ซึ่งจะทำให้นักกอล์ฟมีสเปคที่เหมาะสมกับตัวเองจริงๆ ไม่ใช่เพียงเลือกซื้อไม้กอล์ฟที่วางจำหน่าย แค่เปลี่ยนแบนด์ เปลี่ยนรุ่นเท่านั้น ก็จะไม่ได้สเปคตามที่ตัวเองต้องการ
    ความยาวก้าน และ Lie Angle 
ลองศึกษา และพิจารณาดูนะครับ ว่าสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเองตรงไหนถึงจะเพียงพอ เพื่อต้องการออกรอบในแต่ละครั้งไม่เสียเวลา กับสกอร์ที่ไม่ได้มีการพัฒนาขึ้น เพียงแค่นั้นก็พอใจ

17 ตุลาคม 2559

ควรพิจารณา สเปคหัวไม้ สเปคก้าน และทักษะการสวิง เมื่อต้องการเปลี่ยนสเปคไม้กอล์ฟ

มีนักกอล์ฟหลายท่านเข้าใจผิดเป็นจำนวนมาก เกี่ยวกับการเลือกไม้กอล์ฟ หรือ การเปลี่ยนก้านไม้กอล์ฟเพื่อให้ไม้กอล์ฟที่ตัวเองซื้อเป็นสเปคโรงงานมา (Standard Spec) ให้เพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น หรือเรียกกันภาษาชาวบ้านว่า " โมฯไม้ " หรือ โมดิฟายไม้กอล์ฟ บางท่านเรียกให้ดูหรูหน่อยว่า "ฟิตติ้งไม้กอล์ฟ"

หัวไม้มีให้เลือกมากมายๆ จะพิจารณาอย่างไรดี
จากการโฆษณาขายไม้กอล์ฟของแบนด์ในตลาด หรือแบนด์ที่ยอมลงทุนสูง ที่ให้สปอนเซอร์กับนักกอล์ฟอาชีพใช้ในการแข่งขันนั้น ย่อมได้เปรียบทางการตลาด แต่ความเป็นจริงการผลิตไม้กอล์ฟ (โดยเฉพาะไดร์ฟเวอร์) ออกกันมาวางจำหน่ายนั้นเป็นแฟชั่น หัวปี ท้ายปีเลยก็ว่าได้ ซึ่งสเปคหัวไม้กอล์ฟ และก้านไม้กอล์ฟที่ติดมาก็ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของนักกอล์ฟส่วนใหญ่ได้ แค่มีให้เลือกสเปคก้าน และองศาหน้าไม้เพียง 2 แบบ ( Flex R หรือ Flex S / องศา 9.5 หรือ 10.5) ซึ่งเป็นการผลิตทีละมากๆ และก็เป็นข้อจำกัดในการเลือกเพื่อให้ได้สเปคที่เหมาะสมกับนักกอล์ฟในแต่ละคน ตามหลักการวิชา (Custom Club Fitting) ที่เป็นสากลจริงๆ ซึ่งไม่ใช่แค่เพียง การโมฯไม้ ที่เพียงแค่เปลี่ยนก้านไม้กอล์ฟ หรือกริ๊ปเท่านั้น

หัวไม้กอล์ฟ ย่อมทำงานร่วมกับก้านไม้กอล์ฟ และฝีมือ ทักษะความสามารถของนักกอล์ฟในแต่ละคน หากมีหัวไม้กอล์ฟที่องศาต่ำ แต่มีก้านที่อ่อน และมี Club Speed ที่ต่ำจะไดร์ฟให้ได้ระยะเพิ่มขึ้นนั้น หากต้องการเปลี่ยนเฉพาะก้านอย่างเดียว จะไม่ช่วยอะไรได้มากเท่าที่ควร จำเป็นต้องพิจารณาหัวไม้ด้วยเพื่อให้เข้ากันกับก้าน และทักษะฝีมือ ซึ่งจะพบเห็นส่วนมากนักกอล์ฟต้องการเปลี่ยนเฉพาะก้านอย่างเดียวก็น่าจะเพียงพอแล้ว ซึ่งก็พอได้ แต่ได้แค่เพียงครึ่งทางเท่านั้น ยิ่งหากได้พบโฆษณาสรรพคุณขายก้าน ก็ยิ่งง่ายในการตัดสินใจเปลี่ยนก้านอย่างเดียว แต่ผู้ขายก็มีหน้าที่ขาย ไม่ได้แนะนำเรื่องหัวไม้เลย เพียงแค่ขายก้าน เปลี่ยนก้านได้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว

ก้านไม้กอล์ฟก็มีเป็นร้อย อันที่เหมาะสมเป็นอันไหน
ตลาดเปลี่ยนก้านไม้กอล์ฟปัจจุบันนี้เป็นที่นิยมกันอย่างมากๆ และทำกำไรได้มากกว่า ตลาดหัวไม้กอล์ฟ เพราะต้นทุนก้านจะต่ำกว่า และหากท่านติดตามอ่านบทความมาตลอด จะพอทราบว่าการเลือกก้านควรมีวิธีอย่างไร Flex R ของแบนด์หนึ่ง จะมีค่าเท่ากัน Flex R ของอีกแบนด์ไหม ด้วยความยาวก้าว และน้ำหนักหัวไม้ที่เท่ากันหรือไม่อย่างไร 

ดังนั้นการเลือกเปลี่ยนก้านไม้กอล์ฟ อย่างเดียวจะช่วยให้ท่านนักกอล์ฟได้ประสิทธิภาพสูงสุดหรือไม่ หากไม่ได้พิจารณาหัวไม้ และทักษะในการสวิงของท่านไปพร้อมกัน แนะนำปรึกษาร้าน Professional Club Fitting ที่สามารถให้ความรู้ และตอบคำถามเรื่องไม้กอล์ฟ และวิเคราะห์การสวิงได้ จะไม่เสียเวลาที่คุ้มค่ากว่าครับ
 

2 ตุลาคม 2559

ความยาวก้านที่ยาวขึ้น จะเป็นประโยชน์กับการได้ระยะของท่านหรือไม่??

ความยาวก้าน (Shaft Length) คงไม่ใช่ประเด็นหลักในการสร้างระยะ (Distance) อย่างที่นักกอล์ฟหลายท่านเข้าใจ แต่สิ่งหลักที่สามารถสร้างระยะได้ การที่อิมแพคเข้ากึ่งกลางหน้าไม้ (Center Impact) ได้บ่อยมากขึ้น มีเปอร์เซ็นต์เสริฟลูกกอล์ฟจากแท่นทีออฟ ให้อยู่ในแฟร์เวย์มากขึ้น ได้ระยะที่เหมาะสมกับทักษะความเร็วหัวไม้ที่ทำได้ อย่างที่เคยกล่าวไปแล้วว่า ค่า Smash factor ที่ดีจะสร้างระยะได้ดี ไม่ใช่มีความเร็วหัวไม้ที่ดีอย่างเดียว แต่ ค่าของความเร็วลูกกอล์ฟ (Ball Speed) ที่ออกจะหน้าไม้ต้องดีด้วย นั่นก็คือ การอิมแพคด้วยความเร็ว และอิมแพคที่ดี (แม่นกลางหน้าไม้) เพื่อส่งพลังไปยังลูกกอล์ฟที่ดีได้

แต่ถ้าท่านคิดว่า ความยาวก้านที่เพิ่มขึ้น จะช่วยให้ท่านได้ระยะเพิ่มขึ้นด้วย ต้องมาคิดใหม่ว่าท่าน สามารถอิมแพคเข้ากลางหน้าไม้ได้มากน้อยอย่างไร เพื่อสร้าง Ball Speed ให้ดีขึ้น และมีค่า Smash Factor ที่ดีที่สุดได้ สมมุติในสนามกอล์ฟจริง 14  หลุม ไม่นับพาร์ 3 ท่านเสริฟได้ระยะที่ควรได้กี่หลุม กับความยาวก้านที่ยาวขึ้น ไม่ใช่ท่านยืนตีที่เดิมอย่างในสนามไดร์ฟ และบอกว่าท่านได้ระยะมากกว่าไกลกว่า เมื่อก้านที่ยาวกว่า ตีโดนกลางหน้าไม้ทุกๆครั้ง นั่นคงไม่สามารถมาเปรียบเทียบกันได้ เพราะยังไม่รวมความเหนื่อยล้า / การเปลี่ยนแท่นทีออฟในทุกหลุม ซึ่งค่าของความสม่ำเสมอจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด

มีคำถามว่า ทำไมนักกอล์ฟชอบเหล็กสั้น มากกว่าเหล็กยาว ควบคุมได้มากกว่าเหล็กยาว และน้ำหนักมากกว่าเหล็กยาวเสียอีก แต่หยิบมาทีไรมั่นใจทุกๆครั้ง เพราะความยาวก้านที่ทำให้เกิดความแม่นยำได้มากกว่านั้นเอง และปล่อยให้องศาหน้าไม้ และความเร็วสปีดของเราทำงาน เพื่อให้ได้ระยะนั้นเอง

ซึ่งในปัจจุบันนี้ มีการผลิต และจำหน่าย ชุดเหล็กที่มีความยาวเท่ากันทั้งหมด (Single Length Irons คลิกดู)   ซึ่งได้พิสูจน์อย่างเป็นวิทยาศาสตร์แล้วว่า ความยาวที่ไม่ได้มีผลหลักในการสร้างระยะ แต่องศาหน้าไม้ และความแม่นยำที่ตีเข้ากลางหน้าไม้ได้บ่อยครั้งมากกว่า ที่จะเป็นผลดีในการให้ระยะ มากกว่าความยาวก้านที่หลายๆท่านเข้าใจ

ชุดเหล็กผลิตมาโดยเฉพาะที่มีน้ำหนักใบเหล็กเท่ากัน เพื่อประกอบให้มีความยาวก้านเท่ากัน มีน้ำหนักรวมไม้กอล์ฟเท่ากัน และมีสวิงเวทเหมือนกัน เพียงองศาหน้าไม้ต่างกันเท่านั้น จะให้ความพิเศษที่ทำให้นักกอล์ฟเล่นกอล์ฟในช๊อตขึ้นกรีนในแน่นอนขึ้นมั่นใจขึ้น ด้วยระยะที่เหมือนเดิม และจะไกลขึ้นเมื่อมีการอิมแพคที่มั่นใจขึ้น เมือความยาวก้านไม่ได้ได้มาเป็นอุปสรรคในการควบคุมลูกกอล์ฟให้ไปยังเป้าหมายที่เล็งไว้