
ซึ่งส่วนใหญ่แล้วร้านซ่อม หรือขายอุปกรณ์กอล์ฟ จะชอบมากเพราะสามารถทำยอดขาย Grip ได้ด้วย ถ้าหากแนะนำเปลี่ยนทั้งชุดได้ก็ยิ่งดี ซึ่งไม่จำเป็นต้องถอดหัวไม้เพื่อทำ Swing Weight เพราะเป็นวิธีที่ยากกว่า และรายได้น้อยกว่าการเปลี่ยน Grip มากทีเดียว วิธีนี้จึงเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ที่ไม่ได้ช่วยแก้ไขทำงานของก้านฯให้มีประสิทธิภาพขึ้นเลย
ต้องทำความเข้าใจเสียก่อนว่า ค่าของ Swing weight ที่เปลี่ยนแปลง และมีผลกระทบต่อการดีดของก้านฯนั้น (CPM) จะต้องเกิดกับการเปลี่ยนแปลงน้ำหนักของ หัวไม้ (Club Head Weight) และ น้ำหนักก้าน (Shaft Weight) หรืออะไรก็ตามที่มีการเปลี่ยนต่อจุดดีดเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับน้ำหนัก Grip ที่เปลี่ยนไปจะไม่มีผลกระทบ
ค่าการดีดก้านฯ (Frequency kick) ที่มีค่าเป็น CPM (Circle Per Minute) จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อน้ำหนัก Grip ที่เปลี่ยนไป เพราะการวัด CPM ต้องยึดจับโคนก้านฯไว้ด้านหนึ่งไว้ที่ความกว้าง 5 นิ้ว
(ค่า CPM จะมากขึ้น เมื่อ Swing weight ลดลง และค่า CPM น้อยลง เมื่อ Swing weight เพิ่มขึ้น)


( ตย. Driver ที่มี Swing weight ที่ D2 เหมือนกัน 2 ไม้ฯ จะให้ความรู้สีกในการสวิงที่ต่างกันได้ เพราะขึ้นอยู่กับ น้ำหนักรวม (Total weight) / ความยาวก้านฯ (Shaft Length) และ คุณลักษณะก้าน (Bend Profile) ก้านฯนั้นๆที่ต่างกัน เช่น Tip Firm หรือ Butt Firm)
เมื่อพูดถึง Grip ท่านนักกอล์ฟควรคำนึงถึง ขนาดกริ๊ป (Grip Size) จากขนาดมือของท่านให้มากกว่า การมองหาการเปลี่ยนน้ำหนัก Grip มาเพื่อผลให้เกิด Swing weight ตามต้องการเท่านั้น ซึ่งในปัจจุบัน Grip เบา นั้นจะมีผนังกริ๊ปที่บาง (Thin Wall-thickness) และก็ราคาแพงกว่ากริ๊ปปกติเสียอีก ซึ่งหากทำ Grip Size ให้ได้ขนาดกับเท่ากับมือของตัวเอง ก็ทำยาก และแถมความทนทานก็สูงกริ๊ปปกติไม่ได้
ปรีกษา Professional Club Fitter เท่านั้นจะดีกว่าครับ ว่าท่านต้องการอะไร กับไม้กอล์ฟที่ท่านใช้อยู่ เช่น หนักไป เบาไป / สั้นไป ยาวไป / ก้านแข็งไป หรือ อ่อนไป / ระยะที่ควรได้ หรือ มุมเหินที่ต้องการ คือสามารถปรับ ก่อน เปลี่ยนได้หรือไม่?? หากก้านฯเดิมยังปรับแต่งได้ แต่โดนแนะนำให้เปลี่ยนก้านใหม่ หรือ เปลี่ยนกริ๊ปเบาทั้งชุด โดยไม่ได้สอบถามเหตุผล หรือ Factors อื่นที่เกี่ยวข้อง ที่มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลง Spec ไม่กอล์ฟท่าน หากเป็นเช่นนี้แล้วท่านเข้าร้านผิดแน่นอนครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น