มีนักกอล์ฟส่วนใหญ่บ่นหลายครั้งว่า ชอบพัตต์ตบ (Pull Putting Stroke) เข้าซ้ายอยู่ประจำ (คนถนัดขวา) และไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร เป็นเพราะการพัตต์ หรือว่าเป็นเพราะอุปกรณ์ ซึ่งทำให้ไม่รู้สาเหตุที่แท้จริงว่าเป็นเพราะอะไรจะได้แก้ใขให้ถูกต้องซะที บ้างก็โทษตัวเองว่าพัตต์ไม่ดี บ้างก็โทษอุปกรณ์ และหาเรื่องเปลี่ยนพัตต์เตอร์ใหม่ (ซึ่งที่บ้านก็มีอยู่หลายอันแล้ว)
คราวนี้ลองตรวงเช็คลักษณะพัตต์เตอร์ของท่านที่มีอยู่ในถุงกอล์ฟตอนนี้ซิว่ามีลักษณะ และเหมาะกับการพัตต์ของท่านไหมอย่างไร ซึ่งสามารถตรวจเช็คได้อย่างง่ายๆได้ ว่าหน้า Putter ของท่านเป็นแบบไหน จะได้เลือกใช้ได้อย่างถูกต้องเสียที
พัตต์เตอร์หน้าสแควร์ (Face Balance Putter)
พัตต์เตอร์หน้าสแควร์ จะมีลักษณะการออกแบบให้มีจุดศูนย์ถ่วง (Center Gravity) ของหัวพัตต์เตอร์ไกลจากหน้าไม้ ทำให้เกิดความเสถียร / มั่นคง เมื่อมีการพัตต์ ทำให้หน้าไม้สแควร์กับแนวเล็งได้มากขึ้น
หน้าตาของพัตต์เตอร์แบบนี้จะสังเกตได้ง่ายมาก จะมีลักษณะใบกว้าง และลู่มาด้านท้าย เมื่อนำก้านพัตต์มาวางบนขอบโต๊ะแล้ว หน้าไม้จะสแควร์กับระนาบพื้น สิ่งนี้เองซึ่งเป็นต้นแบบของการคิดค้น และพัฒนาการออกแบบมายัง ใบเหล็ก และหัวไม้ Driver/Fairway ในปัจจุบันนั้นเอง ที่มีปริมาตรเพิ่มขึ้นถึง 460CC ให้ความเสถียรหัวไม้มากขึ้น ที่เราเรียกกันว่าค่า MOI (Moment Of Inertia) นั่นเอง
พัตต์เตอร์แบบนี้เหมาะกับนักกอล์ฟที่มีลักษณะ หรือสไตล์การพัตต์ (Putting Stroke) แบบสแควร์ (Square Stroke) คือ การพัตต์ทั้ง In & Out อยู่ในแนวเส้นตรง (Backward Square และ Forward Square)
พัตต์เตอร์หัวตก (Non-Face Balance Putter)
พัตต์เตอร์แบบนี้จะมีจุดศูนย์ถ่วง (Center Gravity) ของใบพัตต์เตอร์อยู่ใกล้กับหน้าไม้มากกว่า น้ำหนัก Balance ไปอยู่ที่ปลาย (Toe) มากกว่า ซึ่งทำให้ความเสถียรหน้าไม้ (Stabilization) ก็จะน้อยกว่าพัตต์เตอร์แบบแรก การพัตต์ให้สแควร์จะยากกว่า ซึ่งเป็นลักษณะท่านคุ้นตาในพัตต์เตอร์แบบนี้มานานแล้ว เป็นการออกแบบมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน
ลักษณะก็คล้ายๆ กับการออกแบบใบเหล็กที่เป็น Blade หรือ หัวไม้ Driver / Fairway เมื่อก่อนที่มีปริมาตรน้อย ซึ่งในปัจจุบันนี้จะได้รับความนิยมน้อยลงเช่นเดียวกัน
เหมาะกับนักกอล์ฟที่มีลักษณะการพัตต์ (Putting Stroke) แบบบานประตู (Swing Stroke) คือแนวการพัตต์คล้ายการเปิดบานประตู ซึ่งเมื่อพัตต์ลูกกอล์ฟแล้วจะทำให้หน้าไม้กลับมาสแควร์ได้ดีกว่า
เพราะฉนั้นลองพิจารณาเลือกดู หรือลองใช้พัตต์เตอร์แบบใดแบบหนึ่ง ที่เป็นเหตุ เป็นผลดังที่กล่าวมาแล้วว่า อันไหนที่จะเหมาะกับการพัตต์ของท่าน เพราะลักษณะของการออกแบบอุปกรณ์ และการเลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมเท่านั้น จะทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดกับนักกอล์ฟในแต่ละคนไปครับ
(**อย่างน้อยหากได้ลดการพัตต์จากปกติ 2 สโตรกบ้าง ใน 18 หลุม = 36 สโตรก ก็จะเป็นการดีกว่าไหมครับ**)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น