⭕ การที่จะทำให้ไม้กอล์ฟนั้นตีได้ไกลขึ้นจริง ควรจะต้องคำนึงถึงความสามารถของนักกอล์ฟแต่ละคนที่แตกต่างกัน กับไม้กอล์ฟนั้นๆเสียก่อนว่า มีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้นักกอล์ฟ กับไม้กอล์ฟนั้นเข้ากันได้ดี และตีไกลขึ้นบ้าง ซึ่งพอกล่าวได้ดังนี้
- องศาหน้าไม้ (Loft Angle)
- ความยาวก้าน (Club Length)
- น้ำหนักรวมไม้กอล์ฟ (Total Weight)
- จุดดีดก้าน (Shaft Bending Profile)
- ความเร็วหัวไม้ (Club Head Speed) และแนวสวิง (Swing Path)
⭕ ปัจจัยทั้ง 5 ประการมีส่วนสำคัญในการพิจารณาให้นักกอล์ฟหนึ่งคน กับ ไม้กอล์ฟที่จะทำให้ตีไกลขึ้น ให้ได้ระยะตามที่ตนเองควรจะได้ (Maximum Capacity) หากไม่ได้พิจารณาโดยนำเอาหลักการเหล่านั้นมาสรุปเป็น Spec ไม้กอล์ฟหนึ่งไม้ ก็อาจจะทำให้นักกอล์ฟคนนั้น ยิ่งตีสั้นลงกว่าเดิมได้ หรือเปอร์เซ็นต์ในการได้ระยะไกลขึ้นน้อยลง เช่น การเสริฟ 14 หลุมจาก 18 หลุมที่ใช้ Driver บน Tee Box อาจไกลและอยู่ใน Fairway เพียง 2-3 หลุมเท่านั้น อย่างนี้เรียกว่าไม่เกิดผลประโยชน์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเลย (อย่างนี้จะเรียกว่าตีไกลได้หรือเปล่าครับ ????) อย่าลืมนะครับว่า ท่านไม่ได้แข่งตีไกล (Longest Distance) ไม่นับลูกไกลที่สุด แต่ท่านเล่นกอล์ฟเป็นคะแนนที่น้อยช๊อตที่สุด (Lowest Scoring)
⭕ องศาหน้าไม้ (Loft Angle) : เป็นตัวที่กำหนดมุมเหิน (Launch Angle) ตัวแรกที่ควรให้ความสำคัญ เพราะมุมเหินลูกกอล์ฟที่ดี และเหมาะสมที่จะทำให้ได้ระยะที่ดี และไกลขึ้น แต่น่าเสียดายในท้องตลาดมี Driver ที่มีมุมองศาหน้าไม้ที่จำกัด เพียง 2-3 แบบอย่างมาก เช่น 9.5 / 10.5 องศา หรือ (9 หรือ 10) ซึ่งไม่สามารถหาองศาที่มากขึ้นกว่านั้นได้ และนักกอล์ฟสมัครเล่นทั่วไป คิดว่ามุมองศาหน้าไม้ที่ต่ำจะทำให้ลูกวิ่งได้ระยะบนพื้นได้ระยะไกลขึ้น (แต่ไม่คิดถึงมุมเหินในอากาศที่เป็นปัจจัยหลักในการสร้างระยะ)
ตัวอย่างเช่น นักกอล์ฟที่มีความเร็วหัวไม้ Driver ต่ำกว่า 85 MPH (Slow Club Head Speed) หากใช้องศาหน้าไม้ ต่ำกว่า 10 หรือ 11 องศา จะไม่สามารถสร้างสปินให้ลูกกอล์ฟยกตัวขึ้นในอากาศได้นาน และมีมุมเหินที่ดีได้ แทนที่จะได้ระยะที่มากขึ้นกลับจะน้อยลงด้วยซ้ำ ซึ่งในท้องตลาดจะหน้าองศาหน้าไม้ที่สูงกว่านั้นลำบากมาก เพราะปัจจัยการผลิตและการตลาด ซึ่งเคยยกตัวอย่างไปแล้วว่า บางท่านสามารถตี หัวไม้ Fairway#3 Loft 15 องศา ไกลกว่า หรือเท่ากับ Driver ที่มี Loft 9.5 หรือ 10.5 องศา ก็พบเห็นอยู่ทั่วๆไปมาก
Center Impact is the best power |
⭕ น้ำหนักรวมไม้กอล์ฟ (Total Weight) : มวล + ความเร็ว (ชนกระแทก) = ระยะทาง เป็นหลักเกณฑ์ทางวิทยาศาสตร์ที่ยากต่อการปฏิเสธ ไม้กอล์ฟที่เบาใช่คำตอบที่จะทำให้นักกอล์ฟทุกความสามารถตีไกลได้ขึ้นเสมอไป ซึ่งเคยเห็นนักกอล์ฟมือดีหลายคน มีความเร็วหัวไม้ มากกว่า 95 MPH แต่ใช้ไม้กอล์ฟที่มีน้ำหนักเบากว่าความสามารถตนเองที่มีอยุ่ เพราะคิดว่าก้านเบาจะเพิ่มความเร็วหัวไม้ได้ แต่การถ่ายทอดพลังงาน ไปยังลูกกอล์ฟก็จะน้อยลง ผลงานเลยไม่เต็มประสิทธิภาพที่ควรได้ หรือได้ระยะไม่ไกลขึ้นเท่าที่ควรได้ เพราะควรให้ความสำคัญกับน้ำหนักรวม ที่เหมาะสมกับความสามารถ จึงจะได้ประสิทธิภาพ และได้ระยะมากที่สุด ดังนั้น น้ำหนักรวมที่มีให้เลือกอยู่ แบบเดียว ก็ไม่ใช่คำตอบกับนักกอล์ฟที่มีความแตกต่าง ที่จะทำให้ตีได้ไกลขึ้นเลยในทุกๆคน (แชมป์ตีไกลทุกคน ไม่เคยมีน้ำหนักก้านไดร์ฟเวอร์ที่เบา 50 กรัมอยู่ในมือ)
มุมเหินที่ให้ระยะที่แตกต่างกัน |
นอกจากนั้นการดีดของก้านควรอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุด (Neutral Bending Position) เพราะก้านไม้กอล์ฟ ไม่ได้กลม ราบเรียบตลอด 360 องศา ควรจัดวางก้านไม้กอล์ฟให้อยู่ในตำแหน่งที่งอตัวดีดที่ดีที่สุด หากการประกอบก้านฯแต่ละครั้งที่ไม่มีคุณภาพ ก็จะทำให้ประสิทธิภาพในการดีดก้านลดลง
ก้าน Low Kick ให้มุมของลูกสูง และอัตราสปินสูงด้วย การยกตัวลอยของลูกฯในอากาศดี เหมาะกับ นักกอล์ฟที่มีความเร็วหัวไม้ต่ำ น้อยกว่า 90 MPH และ Mid หรือ High Kick ให้มุมของลูกต่ำ อัตราสปินก็ต่ำด้วย การยกลอยของลูกฯน้อย เหมาะกับ นักกอล์ฟที่มีความเร็วที่สูง มากกว่า 90 MPH
⭕ ความเร็วหัวไม้ฯ (Club Head Speed) และ แนวสวิง (Swing Path) : ซึ่งส่วนนี้เป็นส่วนทักษะ และความสามารถของนักกอล์ฟล้วนๆ ที่จะสร้างความเร็วหัวไม้ฯ และมีแนวสวิง ที่ทำให้มีการปะทะลูกกอล์ฟที่ดีสมบูรณ์แบบที่สุด ซึ่งจะทำให้ลูกกอล์ฟออกจากหน้าไม้ที่มีพลังเต็มที่สูงสุด มีมุมเหินในอากาศที่ดี / มีอัตราสปินที่เหมาะสม / มุมปะทะลูกฯ / การส่งพลัง หรือการถ่ายทอดพลังงาน ด้วยความเร็วที่ดีที่สุด ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยหลักในการทำให้นักกอล์ฟหนี่งคนตีได้ไกล เท่าที่ความสามารถที่ทำได้
ความเร็วหัวไม้ฯ กับระยะที่ควรได้ |
(คงไม่บอกนะครับว่าขอเพียงให้โดนดีเพียงช๊อตเดียว ลูกเดียวเท่านั้นที่ไกล ก็พอแล้ว โดยไม่สนใจช๊อตอื่นที่ไม่ดีสักกี่ลูกฯก็ตาม)
⭕ สรุปไม้ Driver อันที่นักอล์ฟตีไกลได้มากกว่า 280 หลา ใช่จะเหมาะกับนักกอล์ฟทุกคนได้ เพราะไม้กอล์ฟ ควรต้องมี Spec เหมาะกับนักกอล์ฟในแต่ละคนที่แตกต่างความสามารถกันไป ลองพิจารณาว่าไม้ฯตีไกลที่ท่านจะใช้ได้ควรเป็นแบบไหนจึงจะเหมาะกับท่านที่สุด ควรใช่หลักการพิจารณาดังกล่าว ถึงจะมีไม้กอล์ฟตีไกลของท่านเองจริงๆ !!!!!
***ไม่มีนักกอล์ฟตีไกลคนไหนที่่ไดร์ฟได้ระยะแครี่ มากกว่า 280 หลา และมีความเร็วหัวไม้ต่ำกว่า 100 MPH โดยมีน้ำหนักก้านที่เบากว่า 60 กร้ม และมีการดีดก้านเป็น Low Kick*** (ตีในสภาพสนามปกติ ไม่มีลมสนับสนุน)***
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น