2 สิงหาคม 2556

ไดร์ฟให้ได้ระยะไกลขึ้น ควรมี High Launch และ Low Spin

ความเข้าใจของนักกอล์ฟส่วนใหญ่ที่อยากไดร์ฟให้ได้ระยะไกลขึ้น ส่วนใหญ่แล้วจะใช้องศาหน้าไม้ (Loft Angle) ของไดเวอร์ให้มีองศาที่น้อย/ต่ำ (ต่ำกว่า 10.5 องศา) เพราะคิดว่าจะได้วิถึของลูกกอล์ฟที่ไดร์ฟออกไปได้มุมเหินที่ต่ำ เพราะคิดว่าจะทำให้ลูกวิ่งได้ดีกว่า และได้ระยะกว่าองศาหน้าไม้ที่มาก/สูง โดยเฉพาะนักกอล์ฟที่มีความเร็วหัวไม้ (Club Head Speed) ที่ไม่เกิน < 95 MPH ซึ่งเป็นการเข้าใจที่ไม่ถูกต้องนัก เพราะมุมเหิน (Trajectory) ที่ได้ระยะที่ดีควรต้องสูงพอดี และลอยอยู่ในอากาศ (Optimum Launch Angle) ก่อนลูกกอล์ฟจะค่อยๆลดระดับลง และตกลงสู่พื้น (Carry Distance)

ความเร็วหัวไม้ (Club Head Speed) ก่อให้เกิดอัตราสปิน (Spin Rate) และอัตราสปินก่อให้เกิดการยกตัวของลูกกอล์ฟให้ลอยสูงขึ้น (Launch Angle) ซึ่งความเร็วหัวไม้สูง/เร็ว ก็เกิดอัตราสปินที่มาก แต่การสปินที่มากเกินไป ก็ไม่เกิดประโยชน์เพื่อให้ได้ระยะ ลูกกอล์ฟก็จะลอยสูงเกินไป และตกหยุด ก็จำเป็นจะต้องลดอัตราสปินลง(Reduce Spin) เพื่อให้ได้มุมเหินที่เหมาะสม (Optimum Launch Angle) ซึ่งในทางตรงกันข้ามนักอล์ฟที่มีความเร็วหัวไม้ที่ต่ำ/ช้า ก็ต้องสร้างอัตราสปิน (Create Spin) ให้มากขึ้น เพื่อลูกกอล์ฟยกตัวให้สูงได้มุมที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ระยะที่มากขึ้น (ไม่ใช่ต้องการให้บอลลอยต่ำ โดยใช้องศาหน้าไม้ที่ต่ำ แต่มีความเร็วหัวไม้น้อย/ต่ำ มีสปินน้อย ก็ไม่เกิดระยะที่มากขึ้นเช่นเดียวกัน)

ระดับมุมเหิน (Trajectory) ที่ดีที่สุดคือ มุม B

การที่จะไดร์ฟให้ได้ระยะนั้นต้องมีปัจจัยสำคัญ คือ ให้มุมเหินสูง (High Launch Angle) และ สปินต่ำ (Low Spin) แต่นักกอล์ฟทั่วไปคิดว่า ควรมีมุมเหินต่ำ (Low Launch Angle) มีองศาหน้าไม้ต่ำ และ มีสปินต่ำ (Low Spin) เพื่อต้องการให้ลูกตกและวิ่งต่อ ซึ่งเป็นไปได้ยากมาก



มุมปะทะที่เกิดสปินมาก
การสร้างให้บอลมีมุมที่สูง หรือต่ำนั้น สิ่งที่ควรพิจารณา คือ มุมองศาหน้าไม้ (Loft Angle) / มุมปะทะหน้าไม้ (Angle of Attack) เพราะฉนั้นควรเช็ควงสวิงของท่านนั้นเป็นแบบไหน เพื่อวิเคราะห์ให้ได้องศาหน้าไม้ และความอ่อน/แข็งของก้านไม้กอล์ฟที่เหมาะกับท่านที่สุด จากที่ได้พบเห็นทั่วไปนักกอล์ฟที่ใช้องศาหน้าไม้ต่ำ (8.5-9.5) ก็ยังมีมุมเหินที่สูง / ตกหยุดก็พบเห็นได้ ก็อาจเป็นเพราะมีมุมปะทะที่กดลง (Descending) หรือมีก้านอ่อน หรือเบากว่าความเร็วหัวไม้ที่ทำได้ ควรเลือกองศาหน้าไม้ให้สูงขึ้น / ก้านแข็ง หรือ หนักขึ้น / ปรับตำแหน่งการจรดแอสเดรส หรือความสูงของที (Tee Height)

นอกจากนั้นจุดดีดก้าน (Shaft Bend Profile) และน้ำหนักก้านไม้กอล์ฟ (Shaft Weight) ก็มีส่วนสำคัญ และเกี่ยวข้องกับองศาหน้าไม้ และมุมปะทะหน้าไม้ด้วยเช่นเดียวกัน ที่จะทำให้เกิดมุมเหินที่ดีที่สุด (Optimum Launch Angle) เพื่อให้ได้ระยะอย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่ควรจะได้และต้องการที่สุด ของนักกอล์ฟในแต่ละคนที่แตกต่างกัน เช่นก้านที่มีจุดดีดต่ำ (Low Bend Profile) และก้านน้ำหนักเบา/อ่อน ทำให้เกิดมุมเหิน และสปินสูง และในทางตรงข้ามก้านที่มีจุดดีดสูง (High Bend Profile) และน้ำหนักมาก/แข็ง ก็จะได้มุมเหิน และสปินที่ต่ำ

เพราะฉนั้นนักกอล์ฟที่ต้องการ หรือกำลังมองหาว่าไม้กอล์ฟแบบไหน ที่ตอบโจทย์ที่ท่านต้องการได้ จึงความนำไม้กอล์ฟ และวงสวิงของท่านมาตรวจสอบกับ Professional Club Maker ที่สามารถอธิบาย และจัดไม้กอล์ฟที่เติมประสิทธิภาพให้ท่านได้มากที่สุด เพราะไม้กอล์ฟที่เป็น Standard Spec จากบนชั้นวางขายไม้กอล์ฟคงตอบสนองกับวงสวิงที่มีความแตกต่างได้กับนักกอล์ฟในทุกๆคนครับ

ไม่มีความคิดเห็น: