การที่ไม้กอล์ฟหนึ่งไม้ ที่จะส่งเสริมให้นักกอล์ฟหนึ่งคนตีไกลระยะที่ไกลเท่าที่จะทำได้นั้น ต้องมีปัจจัยหลายส่วนของสเปกไม้กอล์ฟ รวมกับสเปกของนักกอล์ฟ หรือทักษะการสวิงของนักกอล์ฟคนนั้น ไม่ใช่ไม้กอล์ฟที่วางขายตามห้างฯต่างๆ หรือแบนด์ต่างๆที่ลงโฆษณาว่าเป็นไม้กอล์ฟตีไกล ตีได้ระยะมากขึ้นนั้นเป็นไม้กอล์ฟที่มีสเปกให้เลือกเพียง องศาหน้าไม้ (Loft Angle) ที่ 9.5 หรือ 10.5 และมีความอ่อนแข็งก้านเพียง Flex R (Regular) และ Flex S (Stiff) เท่านั้น แต่ความแตกต่างทางด้านสรีระร่างกาย และทักษะความสามารถทางกีฬาของนักกอล์ฟนั้นมีอยู่มากกว่า การเลือกใช้เพียง 1 หรือ 2 สเปคของไม้กอล์ฟเท่านั้นที่จะทำให้นักกอล์ฟนั้นตีได้ไกล และได้ระยะมากขึ้น
ความยาวก้าน (Club Length) เป็นส่วนที่แบนด์ต่างๆ นำมาเป็นปัจจัยหลักในการขาย และนักกอล์ฟหลายๆท่านก็เชื่อว่า ความยาวก้านจะทำให้ตีได้ไกล และได้ระยะมากขึ้น แต่ในทางหลักการ และการทดสอบไม่ใช่คำตอบสุดท้ายที่ถูกต้อง เพราะก้านที่ยาวขึ้น ความแม่นยำจะลดลง ไม่ทำให้นักกอล์ฟอิมแพคตรงกลางหน้าไม้ฯ (Off center impact)ได้บ่อยขึ้น ความผิดพลาดก็จะสูงตามไปด้วย
หลายท่านอาจจะพูดว่า ความยาวก้านยาวขึ้นทำให้ความเร็วหัวไม้ (Club Head Speed) มากขึ้นด้วย อันนี้เป็นคำพูดที่ถูกต้องก็ต่อเมื่อ ความเร็วหัวไม้ที่เร็วขึ้น จำเป็นต้องอิมแพคตรงกลางหน้าไม้ถึงจะทำให้ส่งพลังไปยังลูกกอล์ฟได้ดีที่สุดที่เรียกกันว่า (Ball Speed) ต่อให้ความเร็วหัวไม้เร็วขึ้น หรือมากขึ้น ถ้าอิมแพคไม่ตรงกลางหน้าไม้ฯ แล้วก็ได้ผลงานที่ไม่มีประสิทธิภาพเต็มร้อย ภาษาฟิตติ้งเรียกกันค่านี้ว่า "Smash Factor" ควรคำนึงถึงค่าความเร็วลูกกอล์ฟที่ออกจากหน้าไม้ว่าอย่างไรที่จะทำให้ได้ไกลขึ้น และได้ระยะมากขึ้น ซึ่งความเร็วหัวไม้นั้นเป็นเพียงค่าเริ่มต้นเท่านั้นครับ
เพราะฉนั้นท่านนักกอล์ฟลองพิจารณาดูสิครับว่า ท่านควรมีก้านไม้กอล์ฟยาวเท่าไรที่จะเหมาะกับท่าน หรือท่านต้องการ ความยาวก้านสัก 48-50นิ้ว ในไดร์เวอร์ของท่านก็ได้นะครับ ว่าความยาวก้านไม้กอล์ฟจะทำให้ท่านตีได้ไกลขึ้นอย่างที่คำพูดดังกล่าว........................?
(ติดตามไม้กอล์ฟตีไกล ในตอนต่อไปนะครับ)
25 สิงหาคม 2557
16 สิงหาคม 2557
ความยาวก้าน และความอ่อนแข็งก้าน มีผลต่อ Lie angle
ซึ่งทำให้นักกอล์ฟหลายท่าน ปรับวงสวิงของตัวเองให้เข้ากับไม้กอล์ฟ เช่น ทิศทางลูกกอล์ฟออกไปทางซ้าย ก็พยามจะเล็งการตีมาทางขวา หรือยืน Address ให้ปิดเพื่อชดเชยวิถีของการตีที่ไปทางซ้าย ซึ่งท่านนักกอล์ฟก็ยังไม่เคยตรวจเช็คอุปกรณ์ตัวเองเลย แต่กลับไปปรับวงตัวเองให้เข้ากับไม้กอล์ฟแทน และแย่ไปกว่านั้นท่านจะติดวงสวิงที่ผิดๆ จนแก้ไขได้ยากในภายหลัง
นอกจากนั้นความอ่อน/แข็งก้าน หรือการจัดแนวดีดก้านที่เหมาะสม (บางท่านเรียก การจัด Spine) ก็มีผลต่อ Lie angle เช่นเดียวกัน เพราะในขณะที่ Down Swing น้ำหนักหัวไม้ และแรงสวิงจะส่งผลให้ก้านงอตัวก่อนการอิมแพค (หรือ Droop effect) เพราะบางครั้งเวลายืนจรดไม้ฯ มองด้วยตาเปล่าอาจจะเห็นว่า Lie angle ดูพอดี หรือระนาบเดียวกับพื้น แต่จะวัดผลไม่ได้ในขณะยืนจรด ควรตรวจสอบ Lie angle ตอน Down swing เข้าอิมแพคลูกด้วย ถึงจะทราบว่าไม้กอล์ฟ/ก้านไม้กอล์ฟนั้น ทำให้ Lie angle เปลี่ยนไปด้วยหรือไม่
เพราะฉนั้นควรตรวจเช็ค Lie angle ที่มีความยาวก้าน และความอ่อน/แข็งให้เหมาะสมกับวงสวิงของท่านจะดีกว่ามั้ยครับ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)