11 กุมภาพันธ์ 2555

การปรับแต่งชุดเหล็ก (Iron Fitting) ให้ได้ระยะตามต้องการ

ท่านนักกอล์ฟเคยสังเกตุระยะของเหล็กแต่ละเบอร์ของท่านหรือเปล่าครับว่า ท่านสามารถตีได้ระยะที่ห่างกันของเหล็กแต่ละเบอร์อยู่ 10-15 หลา เช่น เหล็ก 4 ตีได้ 180 หลา / เหล็ก 5 ควรได้รยะ 165-170 หลา และเหล็ก 6 ควรได้ 155-160 หลา เพราะระยะห่างในเหล็กแต่ละเบอร์จาก เหล็ก 4 (บางท่านอาจเริ่มด้วยเหล็ก 5) ถึง ชุดเวทจ์ (Wedged set) ควรห่างกันประมาณ 10-15 หลา เนื่องจากระยะความกว้างของกรีนส่วนใหญ่จะมี 10-15 หลา นับจากขอบกรีนของแต่ละด้าน เพราะฉนั้นช๊อตเข้าหากรีน (Shot Approach) หรือช๊อตทำคะแนนควรจะมีระยะที่ครอบคลุม ระยะห่างดังกล่าวให้ได้ จนถึงระยะลูกสั้นต่ำกว่า 60 หลา ที่เข้าหากรีน

ในชุดเหล็กนั้น เหล็กแต่ละเบอร์จำเป็นต้องมีความรู้สึกของวงสวิงที่เหมือนกัน ไม่แตกต่างกันมาก เพราะหากท่านมีระยะในเหล็กแต่ละเบอร์ห่างกันเกินไปมากกว่า 15 หลา ท่านจะขาดความแม่นยำของการตีเข้าหากรีน หมดโอกาสในการทำเบอร์ดี้ (Birdy Putt) หรือ GIR (Green In Regulation) สเปคอุปกรณ์ของชุดเหล็กมีผลกระทบต่อระยะที่ห่างกัน


มุมองศาหน้าไม้ (Loft Angle) ที่ไล่ระดับองศาที่ห่างกันอย่างเหมาะสมถูกต้อง จะเป็นตัวกำหนดระยะห่างที่สัมพันธ์กัน ของชุดเหล็ก ควรวัดกับเครื่องวัดองศาหน้าไม้ให้ได้ค่าองศาที่แน่นอน (Actual Loft Angle) เหล็กแต่ละเบอร์ เพราะจะกำหนดระยะห่างที่ใกล้เคียงต้องการ ตามความเร็วหัวไม้ (Club Head Speed) ของแต่ละคน (ใบเหล็กจะมีค่าองศา Loft & Lie ที่เปลี่ยนแปลงตามเวลาการใช้งานของมัน โดยเฉพาะใบเหล็กนิ่ม หรือ เหล็ก Forged เมื่อใช้ไประยะเวลาหนึ่งแล้ว)



มุมเอียงสันไม้กับคอไม้ (Lie Angle) เป็นตัวกำหนดทิศทางของลูก หลังจากการ Impact แล้ว ซึ่งมีผลสัมพันธ์กับความยาวก้าน (Length) เพราะก้านที่ยาว หรือสั้นไป จะทำให้ Lie Angle เปลี่ยนตามไปด้วย


ความยาวก้าน (Length) ซึ่งเป็นตัวกำหนดการ Impact ได้อย่างลงตัว ของแต่ละคน หากความยาวก้านที่ไม่เหมาะสมแล้ว ก็จะมีการ Impact ทีตรงกลางหน้าไม้ได้ยากกว่า ซึ่งความยาวของชุดเหล็กตาม Standard จากโรงงานมานั้น ส่วนใหญ่แล้วจะไม่เหมาะสมกับนักกอล์ฟทั่วไป (น่าเสียดายนักกอล์ฟจำเป็นต้องใช้ตามที่ซื้อมานั้น และปรับวงสวิงให้เข้ากับไม้ฯ)
Note: ก้านกราไฟท์ (Graphite Shaft) ในชุดเหล็กให้ความรู้สีกในการดีดที่ดีกว่าก้านเหล็ก (Steel Shaft) โดยเฉพาะนักกอล์ฟที่ต้องการระยะเพิ่ม และไม่เหนื่อยแรงใน 9 หลุมหลัง แต่กลับไม่ได้รับความสนใจ หรือเข้าใจไม่ถูกต้อง


Swing weight vs MOI matching
สวิงเวทจ์ (Swing Weight) ที่ให้ความรู้สึกที่หนัก หรือเบาไปในเหล็กแต่ละเบอร์จะมีผลต่อการสวิงที่ไม่ราบรื่น ที่ควรมีจังหวะ (Tempo) เดียวกัน เช่น หากหนักไปก็จะทำให้ท่านใช้แรงดึงลงมาตอน Down swing มากกว่าปกติ ซึ่งจะเห็นได้ชัดในเหล็กยาว เพราะฉนั้นในส่วนนี้ MOI (Moment of Inertia) matching จึงมีส่วนสำคัญในการคำนวณหา Swing weight ที่เหมาะสมในปัจจุบัน รวมไปถึงการจัดแนวดีด (Spine Alignment) ที่ถูกต้องโดยเฉพาะในก้านเหล็ก (Steel Shaft) จะช่วยในความรู้สึกของการสวิงที่นุ่มนวล และได้ระยะที่ดีขึ้นอีกด้วย

ขนาดกริ๊ป (Grip Size) ที่ไม่ได้ขนาดพอดีกับมือจะทำให้ผลงานการ Impact ลูกนั้นผิดเพื้ยนจากทิศทางที่ต้องการจะให้ไปอย่างไม่รุ้ตัว ขนาดของกริ๊ปควรต้องพอดีกับขนาดมือ ไม่ใหญ่หรือเล็กไป ควรต้องเท่ากันในทุกๆไม้กอล์ฟ (ยกเว้น Putter)

จากที่กล่าวมาแล้วนั้น ท่านได้เคยลองนำชุดเหล็กของท่านมาตรวจสอบและปรึกษากับ Professional Clubfitting บ้างหรือยัง ว่าท่านมีระยะห่างในเหล็กแต่ละเบอร์อย่างไร มีปัญหาในระยะใดบ้าง ควรปรับองศาหน้าไม้ ดัด Loft & Lie หรือทำความยาวก้านให้ Matching กับท่านเอง  ซึ่ง Standard Spec ที่มาจากโรงงาน และที่วางจำหน่ายบนชั้นขายนัั้น รับรองว่าไม่สามารถให้ท่านมี Spec ที่ตรงกับการสวิงของท่านได้ครับ (Never Standard, Custom Clubfitting Only)

//////  ปรับไม้กอล์ฟเข้าหาวงสวิง จะดีกว่าปรับวงสวิงเข้าหาไม้กอล์ฟ่ไหมครับท่าน  ////////

ไม่มีความคิดเห็น: