6 พฤศจิกายน 2565

รอวงสวิงดีก่อน แล้วค่อยไปทำฟิตติ้งไม้กอล์ฟ (Clubfitting)

 ⭕ คำถามที่ถูกถามเป็นประจำ และบ่อยมากๆ ซึ่งเป็น คำถามซ้ำๆเดิมๆเกี่ยวกับเรื่องฟิตติ้งไม้กอล์ฟ ที่แรกๆก็ยังไม่มีประสบการณ์ที่จะตอบถามนั้นให้ชัดเจน จนได้เรียนรู้จากประสบการณ์ และศึกษาเพิ่มเติมของการทำฟิตติ้งไม้ฯ ที่นักกอล์ฟหลายๆท่านยังมีสิ่งที่ยังไม่เข้าใจ และสงสัยเกี่ยวกับการทำฟิตติ้งไม้กอล์ฟ

⭕ คือ "ต้องรอให้วงสวิงดีก่อนแล้วค่อยทำฟิตติ้งไม้กอล์ฟจะดีกว่าใช่ไหมครับ?" เป็นคำถามที่ถูกถามเป็นประจำโดยเฉพาะจากนักกอล์ฟมือใหม่ถึงมือปานกลาง ซึ่งกีฬากอล์ฟนั้นเป็นกีฬาที่ต้องใช้ การจดจำของกล้ามเนื้อ (Memory Muscle) ที่ต้องการฝึกซ้อมบ่อยๆเป็นประจำ และสม่ำเสมอให้เกิดการสวิงเป็นไปตามอัตโนมัติ ควบคู่กับอุปกรณ์ที่ใช้ฝึกให้มีวงสวิงที่ดีขึ้นได้

⭕ สเปคไม้กอล์ฟไม่เหมือนกับสเปคไม้แบดมินตัน ไม้เทนนิส หรือไม้ปิงปอง ที่ไม่จำเป็นต้องมีรายละเอียดซับซ้อน ดังนั้น การฝึกซ้อมกอล์ฟควรมีสเปคไม้ฯที่เหมาะสมของแต่ละคน ที่มีน้ำหนักไม้ฯ หนัก/เบา ก้านอ่อน/แข็ง ขนาดกริ๊ปเล็ก/ใหญ่พอดีกับขนาดมือ หรือ องศามาก/น้อย ที่แตกต่างกันในแต่ระดับความสามารถที่จำเป็นที่จะต้องให้ความสำคัญควบคู่ไปกับวงสวิง ตั้งแต่มือใหม่ จนถึงระดับอาชีพ

⭕ คำตอบก็คือ "ท่านจะมีสเปคไม้กอล์ฟแบบไหนอย่างไรที่จะนำไปสร้างวงสวิงที่ดีขึ้นให้ได้" เพราะวงสวิงของท่านจะจดจำสเปคไม้กอล์ฟนั้นที่ท่านใช้ตลอดฝึกซ้อม และหากเมื่อท่านเปลี่ยนสเปคไม้ฯ โดยไม่มี Club Fitter ที่ดีแนะนำได้ถูกต้องต่อการนำไปพัฒนาวงสวิง ก็เท่ากับว่าท่านต้องเปลี่ยนวงฯไปอีกแบบสับสนวนไปวนมา เพราะการปรับวงสวิงเข้าหาไม้กอล์ฟเป็นเรื่องง่ายแบบไม่รู้ตัว และสับสนว่าเป็น เพราะไม้กอล์ฟหรือวงสวิงกันแน่ที่ควรปรับ (Is it me or my equipments?)

⭕ ข้อแนะนำ : สเปคไม้กอล์ฟอาจเป็นองค์ประกอบส่วนน้อยที่สำคัญของเกมส์กอล์ฟแค่ 30% และวงสวิงเป็นองค์ประกอบหลัก 70% แต่ถ้าหากส่วน 30% ที่จะนำไปเพิ่ม หรือลดในส่วนของ 70% (ที่ระดับโปรฯยังไม่เต็ม) แต่เขาเหล่านั้นไม่กังวลกับสเปคไม้ฯ 30% ที่ทำมาแล้ว ก็จะไปมุ่งมั่นกับการฝึกซ้อมเรื่องวงสวิงอย่างเดียวให้ดี ซึ่งความแตกต่างระหว่าง โปรฯ กับสมัครเล่น ในเรื่องฟิตติ้งไม้กอล์ฟนั้น ท่านลองพิจารณาว่าหลักวิธีคิด และวิธีนำไปใช้นั้นให้มีประสิทธิภาพอย่างไร🏌🎉

28 ตุลาคม 2565

"ใช้สเปคไม้กอล์ฟที่ไม่เหมาะสมกับการสวิงของตัวเอง สามารถทำให้เปลี่ยนวงสวิงได้"

เชื่อไหมครับว่า "ใช้สเปคไม้กอล์ฟที่ไม่เหมาะสมกับการสวิงของตัวเอง สามารถทำให้เปลี่ยนวงสวิงได้" ซึ่งจะพัฒนาวงสวิงได้ยากขึ้น และวงสวิงอาจแย่ลงกว่าเดิมอีกด้วย

หลายท่านซื้อไม้กอล์ฟตามความเชื่อที่ได้รับข้อมูลจากสื่อต่างๆว่าสรรพคุณรุ่นใหม่นี้จะทำให้ได้ระยะเพิ่มขึ้น ตีไกลขึ้น ตีง่ายขึ้น แต่ลองมองการผลิต และวางจำหน่ายไม้กอล์ฟในแต่ละปีที่ผ่านมาสิครับ ได้ออกวางตลาดในแต่ละรุ่นบ่อยมากๆ เรียกกันว่าเป็นแฟชั่นไม้กอล์ฟกันเลย เพิ่งออกรุ่นนี้ เมื่อต้นปี ปลายปีมาอีกรุ่นแล้ว

วงสวิงที่เปลี่ยนตามไม้กอล์ฟ
ประเด็นสำคัญที่ทำให้นักกอล์ฟสวิงไม้กอล์ฟที่ไม่เหมาะกับตัวเอง หลักๆมีอยู่  4 อย่างที่มองเห็นได้ชัดที่สเปคมาตรฐานไม้กอล์ฟตอบโจทย์นักกอล์ฟทุกคนไม่ได้

1. ความยาวก้าน (Club Length) : ความยาวก้านที่ผลิตมาเหมือนกันส่วนใหญ่ จะมีความยาวก้านเกินความจำเป็น ส่งผลให้ Back swing มีระนาบที่แบน (Flat) เพราะไม่เช่นนั้นตีหลังลูกบ่อย ก็เลยต้องปรับตัวเองให้เข้ากับไม้ฯ โดยชดเชยการยืนแอสเดรสใหม่ หรือเล็งทิศทาง/เป้าหมายเผื่อ ทำให้แนวการเล็งทิศทางก่อนการสวิงไม่ปกติ ซึ่งสูญเสียการควบคุม (Control) หรือการเล็ง กับการสวิง ออกไปไม่เข้าเป้าตามที่เล็งไว้

2. ขนาดกริ๊ป (Grip size) : มือนักกอล์ฟแต่ละคนนั้น ขนาดมือย่อมไม่เท่ากันทุกคน หากขนาดของกริ๊ปไม้กอล์ฟที่ใหญ่กว่าขนาดมือ ทำให้การจับกริ๊ปได้ไม่กระชับ ส่งผลให้การอิมแพคไม่หนักแน่ หน้าไม้จะเปิดขณะอิมแพคได้ง่ายกว่า ทิศทางไม่เป็นไปตามที่เล็งไว้ ชดเชยด้วยการยืนแอดเดรสที่ปิดมากกว่าปกติ
สำหรับขนาดกริ๊ปที่เล็กเกินไป จำเป็นต้องจับ/กำกริ๊ปให้มากกว่าปกติ เกิดการเกร็งกล้ามเนื้อ ส่งผลให้หน้าไม้ปิดขณะอิมแพค เพาร์เวอร์การอิมแพคลดลง

3. องศาหน้าไม้ (Loft Angle) : ในไดร์ฟเวอร์จะมีองศา 9.5-10.5 ซึ่งค่อนข้างจำกัดโดยเฉพาะนักกกอล์ฟมือใหม่ หรือนักกอล์ฟอาวุโสซึ่งความสามารถในการตีให้ลูกกอล์ฟลอยออกจากหน้าไม้นั้นเป็นไปได้ยาก และควบคุมทิศทางได้ยากอีกด้วย ประกอบกับความยาวก้านที่ยาวเกินไป ทำให้มุมปะทะหน้าไม้เป็นมุมกด (Descending) คล้ายการตีในเหล็ก อัตราการหมุนยกตัว (Spin rate) นั้นสูงมากเกินได้

นอกจากนั้น องศาหน้าไม้ในชุดเหล็กไม่มีให้เลือกในรุ่นเดียวกัน (นักกอล์ฟไม่เคยเลือกซื้อองศาหน้าไม้ในชุดเหล็กด้วยซ้ำ) เพราะมีสเปคเดียวกันหมด ดังนั้นนักกอล์ฟมือใหม่ / อาวุโส / ผู้หญิง จึงตี และควบคุมเหล็กยาว ได้ยากกว่า เพราะองศาหน้าไม้ที่น้อยเกินไปที่ทำให้ลูกกอล์ฟยกตัวในอากาศในง่าย การพัฒนาวงสวิงในเหล็กยาว หรือไม้กอล์ที่ยาวและมีองศาหน้าไม้น้อยให้ดีขึ้นได้ยากกว่า

4. น้ำหนักรวมไม้กอล์ฟ (Total weight) : น้ำหนักก้านเป็นตัวควบคุมน้ำหนักรวมไม้กอล์ฟ เมื่อน้ำหนักรวมที่เบาเกินไปซึ่งทำให้นักกอล์ฟสวิงได้สบายจริง แต่ต้องการระยะที่เพิ่มขึ้นนั้น ไม่ค่อยจะสัมพันธ์กันเท่าไร เมื่อมวลที่เบาสวิงได้เร็วขึ้นจริง แต่การปะทะกับลูกกอล์ฟที่หนักแน่ มีพลังที่จะส่งลูกกอล์ฟออกไปให้ได้ระยะที่ไกล และควบคุมได้นั้นมาด้วยกันหรือเปล่า

เพราะน้ำหนักรวมที่เบา หรือหนักเกินไป จะไปปรับจังหวะการสวิง (Swing Tempo) และแนวสวิง (Swing Path)ของแต่ละคน เช่นคนที่มีจังหวะการสวิงที่เร็วกระชับแต่มาใช้มวลที่เบา การอิมแพคจะไม่หนักแน่นที่ควรเป็น การควบคุมทิศทาง และระยะที่ได้จะมาสัมพันธ์กันได้ยาก ซึ่งนักกอล์ฟหลายคนก็เลยต้องปรับจังหวะการสวิงให้ช้าลงแทนเพื่อชดเชยมวลไม้กอล์ฟที่เบา แทนที่จะเปลี่ยนน้ำก้านเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ โดยใช้จังหวะการสวิงแบบเดิมจะดีกว่านะครับ

สรุปได้สเปคไม้กอล์ฟที่ไม่เหมาะสมหลักๆที่สามารถเปลี่ยนวงสวิงท่านได้ เหล่านี้ยังไม่รวมรายละเอียดอีกหลายอย่างที่ยังไม่ได้กล่าวถึง เช่น Swing Weight / Lie Angle / Club Face Angle / Flex / Shaft Bending Profile / Club Head design ที่ควรเลือก หรือนำมาปรับ/แต่งให้เหมาะสมกับวงสวิงท่านเอง ซึ่งบางครั้งก็เป็นเรื่องยากในการเข้าใจในเรื่อง ตัด/ปรับ/แต่ง ไม้กอล์ฟ (Club Fitting) ได้ในเร็ววัน เพราะนักกอล์ฟส่วนใหญ่มีความคิดว่าไม้กอล์ฟชื่อดังในตลาดที่รู้จักกัน เค้าต้องทำให้ได้คุณภาพที่ดีมาแล้ว ปรับวงสวิงตัวเองดีกว่าไม่ต้องเสียเงินไปกับการปรับ/แต่งไม้กอล์ฟอีก หรือซื้อมาขายไป เปลี่ยนยี่ห้อจนกว่าจะได้ไม้กอล์ฟที่ถูกใจ นั้นก็คงต้องใช้เวลามากหน่อยนะครับ

****มีวงสวิงที่เป็นมาตรฐาน ย่อมดีกว่าใช้ไม้กอล์ฟที่เป็นมาตรฐานนะครับ (วงสวิงผิดมาตรฐาน ติดแล้วแก้ยากกว่า แก้สเปคไม้กอล์ฟให้เข้ากับตัวเองนะครับ)****

18 ตุลาคม 2565

สเปคหัวไม้ไดร์ฟเวอร์ ไม่สามารถให้ประโยชน์โดยลำพัง

⭕ ในเชิง ClubFitting ส่วนผสมที่สัมพันธ์กัน และเป็นที่มาของระยะในไดร์ฟเวอร์นั้น มาจากความสูง-ต่ำของ มุมเหิน (Launch Angle) และ อัตราการหมุนลูกกอล์ฟ (Spin Rate) ที่ดีแล้ว ซึ่งยังจะต้องขึ้นอยู่กับ มุมปะทะบอล (Attack Angle) และ จุดปะทะหน้าไม้ (Impact Position) ที่ดีด้วย ที่เหมาะกับ ความเร็วหัวไม้ (Club Speed) ของทักษะการสวิงแต่ละคน ที่แตกต่างกันที่ทำได้

⭕ แต่ถ้าหากมองที่การออกแบบหัวไม้ ( Club Head Design) เพียงอย่างเดียว ประเด็นหลักๆของมุมเหินนั้นก็น่าจะขึ้นอยู่กับ องศาหน้าไม้ (Loft Angle) และ ตำแหน่งจุดศูนย์ถ่วงบนหัวไม้ (Center Gravity) ที่จะสร้างมุมเหินที่แตกต่างกันของแต่ละวงสวิง เพื่อให้ได้ระยะที่มีประสิทธิภาพสูงสุด (หัวไม้มีวัสดุการผลิตที่เหมือนกัน)

⭕ นอกจากนั้นอุปกรณ์ที่มีผลกระทบสำคัญอีกส่วนหนึ่งกับสเปคหัวไม้ที่จะทำให้ได้ระยะ และเป็นมุมเหินที่ดีได้นั้น นั่นก็คือ ความอ่อนแข็งปลายก้าน (Tip Flex) ที่จะต้องทำงานร่วมกับองศาหน้าไม้ หรือจุดศูนย์ถ่วงหัวไม้ และมุมปะทะลูก ให้ออกมาเป็น องศาหน้าไม้ขณะอิมแพค (Dynamic Loft Angle) ที่ทำให้ลูกกอล์ฟออกจากหน้าไม้กลายเป็นมุมเหินท้ายสุดนั่นเอง

⭕ จากส่วนผสมดังกล่าวที่จะทำให้เกิดเป็นระยะที่ดีนั้น ไม่ใช่มีเพียงเฉพาะสเปคหัวไม้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ที่จะสามารถทำให้เกิดระยะที่ดีที่สุดได้ (Optimum Distance) ซึ่งยังต้องมีส่วนประกอบอื่นๆดังกล่าวข้างต้นที่ดีอีกด้วย ที่เกี่ยวข้องกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับนักกอล์ฟหนึ่งคน

⭕ เพราะฉนั้นควรพิจารณาเลือกสเปครวมไม้ไดร์ฟเวอร์ (แทนที่จะเลือกเฉพาะสเปคหัวไดร์ฟเวอร์) ที่ให้เหมาะกับการใช้จริง  เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดกับตัวเอง เพราะลำพัง สเปคหัวไม้ไดร์ฟเวอร์เพียงอย่างเดียว ไม่ได้ช่วยให้บรรลุวัตถุประสงค์ด้วยตัวมันเองได้ครับ

8 กันยายน 2565

สเปคไม้กอล์ฟเปลี่ยนวงสวิงได้

🔺 ท่านทราบหรือไหมครับว่า กีฬากอล์ฟเป็นกีฬาของความคุ้นเคย คุ้นชิน และ การจดจำของกล้ามเนื้อ (Memory Muscle) ที่ทำซ้ำๆ บ่อยๆติดต่อกันมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งทักษะร่างกายก็จะพยายามปรับจดจำการเคลื่อนไหวร่างกายให้สามารถตีได้กับไม้กอล์ฟอันนั้นๆ แต่จะเป็นผลในทางลบ หรือบวก ขึ้นอยู่กับสเปคอุปกรณ์นั้น จะช่วยเสริม หรือบั่นทอนวงสวิง

🔷 สเปคความยาวก้าน / น้ำหนักรวมไม้ฯ / ขนาดกริ๊ป / แนวดีดก้าน / ความอ่อนแข็งก้าน / ขนาดรูปทรงหัวไม้ใบเหล็ก / องศาหน้าไม้ / มุมหน้าไม้ / สวิงเวท ฯลฯ สเปคเหล่าจะเป็นตัวกำหนดในการพัฒนาวงสวิง หากไม่มีการพิจารณาคัดเลือกที่ดี หรือ ใช้ไม้กอล์ฟสำเร็จรูป แบบ OEM (Original Manufacturer Equipment) ที่วางจำหน่ายสำเร็จรูปทั่วๆไป มาฝึกซ้อมพัฒนาวงสวิง แล้วท่านคงเดาได้เลยครับ ทักษะวงสวิง/สรีระของทุกๆคนที่ใช้ จะออกสำเร็จรูปเหมือนๆกันทั้งหมดนั้นได้อย่างไร??

🔺ตัดความกังวลใจเรื่อง สเปคไม้กอล์ฟ ออกไปซะที เลือกไม้กอล์ฟที่มีสเปคฯเหมาะกับคุณจริงๆ มาฝึกซ้อม และใส่ใจกับการพัฒนาวงสวิงเพียงอย่างเดียว จะได้ไม่ต้องโทษไม้กอล์ฟ หรือโทษวงสวิง เมื่อเวลาตีไม่ดี ตีไม่ได้ ซึ่งจะทำให้การเล่นนั้นสับสน จับต้นชนปลายไม่ถูกว่าเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ครับ

🔶 Clubfitting ก็คงไม่มีความหมายใดๆเลยกับนักกอล์ฟในทุกๆระดับที่ต้องการพัฒนาวงสวิงจริงๆ เพราะสเปคไม้กอล์ฟย่อมติดตัวควบคู่ไปกับวงสวิงเสมอ แม้เป็นเพียงเปอร์เซ็นต์ที่น้อยก็ตาม แต่มันจะช่วยพัฒนา หรือบั่นทอนวงสวิงของคุณ ในแต่ละการฝึกซ้อมตลอดการเล่นกอล์ฟของคุณเสมอ อยู่ที่การเลือกใช้ไม้กอล์ฟของคุณนั่นเองครับ

11 สิงหาคม 2565

การดีดก้านในชุดเหล็กที่ไม่เหมือนกัน ทำให้ขาดการควบคุมทิศทาง

ท่านนักกอล์ฟหลายท่านทราบกันดีว่า ช๊อตที่ทำคะแนนคือ ช๊อตที่ 2 ในหลุมพาร์ 4 / ช๊อตที่ 3 ในหลุมพาร์ 5 และ ช๊อตแรกในหลุมพาร์ 3 (ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นไม้ในชุดเหล็กทั้งนั้น) เพราะฉนั้นความแม่นยำ (Accuracy) และ ความสม่ำเสมอ (Consistency) ย่อมเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างยิ่ง ไม่ใช่เฉพาะวงสวิงอย่างเดียว แต่ไม้กอล์ฟที่ใช้ย่อมต้องมีการดีดก้าน และสเปคที่เข้ากับวงสวิงของตัวเราเองเป็นอย่างยิ่ง

ตามที่ได้ทราบกันมาแล้วว่า "ก้านไม้กอล์ฟ" ไม่ว่าก้านกราไฟท์ หรือ ก้านเหล็ก การผลิตนั้นไม่สามารถผลิตให้ได้กลม เนียนตลอด 360 องศา จึงเป็นสาเหตุให้การจัดวางก้านไม้กอล์ฟให้ตรงกับแนวดีดก้านนั้น จะเป็นสิ่งที่จำเป็นจะต้องทำ โดยเฉพาะในชุดเหล็กซึ่งความผิดพลาดในช๊อคของชุดเหล็กจะทำให้มีการแก้ไขในช๊อตต่อไป และสกอร์ หรือโอกาสการทำคะแนนมีเปอร์เซนต์ที่ไม่น่าจะเป็น

การดีดก้านที่ต่างแนวกัน ก่อนการอิมแพค
ทำไมต้องมาจัดแนวดีดก้านฯในชุดเหล็กให้เหมือนกันในทุกๆเบอร์ ก็เป็นเพราะในชุดเหล็กนั้นต้องการ ระยะ และทิศทางที่แม่นยำมากกว่า ไดร์ฟเวอร์หรือแฟร์เวย์วูด ด้วยซ้ำ จึงเป็นสาเหตุในการดีดก้านที่ออกมาให้เหมือนกัน การงอตัวดีดก้าน (Drooping หรือ Bending) นั้นย่อมเกิดขึ้นเมื่อก้านไม่ได้เสียบประกอบก้านในอยู่ในแนวดีดที่ดีที่สุด หรือแนวดีดก้านที่เหมือนกันในทุกๆเหล็ก จึงทำให้ก้านงอตัวดีดเมื่อเข้าสู่จุดอิมแพคที่ไม่เหมือนกัน ทำให้เกิดผลงาน / ทิศทาง และ Feeling ที่ต่างกัน ซึ่งท่านนักกอล์ฟลองสังเกตในชุดเหล็กที่เราใช้อยู่ (ชุดเดิมๆที่ซื้อมาจากห้าง ที่ยังไม่ได้ทำการปรับแต่ง) จะมีความรู้สึกอย่างที่บอกไป ว่า Feeling ไม่เหมือกันในทุกๆเหล็ก บางเหล็กนุ่มมือ ได้ระยะ/ทิศทาง ตามต้องการ แต่บางเหล็กอิมแพคแล้วไม่มั่นใจ หรือไม่อยากหยิบออกมาใช้เลย

Lie Angle ที่กำหนดทิศทาง
การดีดตัวก้านก่อนเข้าอิมแพค เป็นได้ทั้งสองแบบ (ตามรูป) งอตัวมาด้านหน้า คือหัวเหล็กนำก้านแนวนอน (Horizon) และ การ Droop ก้านแนวตั้ง (Vertical) หากการดีดที่ต่างกันในเหล็กแต่ละเบอร์ที่ไม่ได้จัดแนวดีด ซึ่งมีผลกับ Lie Angle ที่ทำให้ทิศทางไม่เป็นไปตามที่ต้องการ ซึ่งนักกอล์ฟทั่วไปอาจจะไม่สนใจในเรื่องนี้ เลยคิดว่าเป็นเพราะวงสวิง มากกว่าเป็นเพราะไม้กอล์ฟที่ยังไม่ได้นำมาปรับแต่งเสียใหม่ จึงตัดสินใจเปลี่ยนไม้กอล์ฟทั้งชุดเลยดีกว่า หรือปรับการเล็ง ปรับการยืนแอสเดรส ปรับหน้าไม้จรดลูกให้ปิด หรือเปิดแทน

นักกอล์ฟอาชีพในทัวร์ต่างๆ ไม่มีใครใช้ไม้กอล์ฟที่เป็นมาตรฐานสเปคการผลิตจากโรงงาน (One Size Fit All) ที่วางขายตามชั้นบนห้างต่างๆครับ จะมีการตรวจเช็คหลายๆจุด และวิเคราะห์วงสวิง ความแข็งแรงร่างกาย ว่าควรมีน้ำหนักก้านเท่าไร / ความยาวก้านเท่าไร / มีองศาหน้าไม้เท่าไร / ขนาดกริ๊ปขนาดใด / รูปทรงหัวไม้ หรือใบเหล็ก อย่างไร / Lie Angle และการดีดก้านอย่างไร ต้องประกอบให้ได้สเปคตามที่ต้องการนั้น และเรื่องของวงสวิงจะมีการพัฒนาได้อย่างเป็นมาตรฐาน แต่สเปคไม้กอล์ฟไม่ควรเป็นมาตรฐานนะครับ เพราะสรีระร่างกาย / ทักษะทางกีฬา และความแข็งแรงของนักกอล์ฟแต่ละคนแตกต่างกัน

20 กรกฎาคม 2565

ตีไกล กับการเล่นกอล์ฟแบบลดสกอร์

นักกอล์ฟส่วนใหญ่ยังคงติดกับความคิด หรือกับดักของคำว่า "ตีไกล" (Distance) และพยายามสรรหาไม้กอล์ฟใหม่ๆว่ารุ่นไหน หรือก้านรุ่นไหนเพื่อการ ตีไกล และเพื่มระยะให้ได้ ซึ่งเป็นจุดขายของการตลาดที่บริษัทไม้กอล์ฟทั่วไปทำกัน

การตีไกล กับ การเล่นกอล์ฟเพื่อลดสกอร์ (Lower Score) มันจะไม่ค่อยมาด้วยกันเสมอไปนะครับ เพราะการเล่นเพื่อลดสกอร์นั้น ในทุกๆช๊อตเป็นคะแนน จากแท่นทีจนกว่าลูกกอล์ฟจะลงหลุม ซึ่งการควบคุม/แม่นยำ และสม่ำเสมอจะเข้ามาเกี่ยวข้องในทุกๆช๊อตอย่างแน่นอน ดังนั้นคำว่าตีไกลจะไม่ใช่คำตอบเดียวอย่างแน่นอนในการเล่นให้มีช๊อตตีน้อยที่สุด

ตัวอย่างในการออกรอบ ท่านทีช๊อตด้วยไดร์ฟเวอร์ 14 หลุม (ไม่นับพาร์ 3) ได้ระยะไกลเพียง 2-3 หลุม อยู่ในแฟร์เวย์ ยังถือว่าไม้กอล์ฟนั้นตอบสนองการตีไกลในการเล่นแบบลดสกอร์หรือเปล่าครับ??... แต่นักกอล์ฟบางท่านอาจชอบก็ได้ และจดจำว่าไดร์ฟเวอร์นั้นยังตีไกลได้อยู่ แต่ไปโทษวงฯแทนในหลุมอื่นๆ ที่ไดร์ฟไม่ดี

ซึ่งในทางกลับกัน หากไดร์ฟอยู่ในแฟร์เวย์ 11 หลุม ระยะอาจหายไปสัก 10 หลา แต่สามารถเล่นช๊อตต่อไปง่ายกว่า มี ความแม่นยำสูง (High Accuracy) และสม่ำเสมอ (Consistency) มากกว่า ท่านว่าแบบไหนที่ท่านต้องการในการเล่นแบบลดสกอร์ละครับ

การฟิตติ้งไม้กอล์ฟ (Clubfitting) ไม่ใช่ทำไม้กอล์ฟให้ตีไกล โดยไม่พูดถึงสรีระทักษะความสามารถ และการนำไปใช้จริงของนักกอล์ฟที่แตกต่างกัน.....แต่ถ้าหากต้องการตีไกลเพียงอย่างเดียว Clubfitting ก็สามารถทำให้ได้เช่นกันนะครับ (ก้านที่ยาว / ปลายก้านที่อ่อน / น้ำหนักรวมที่เบา / องศาหน้าไม้ที่น้อยและเพิ่มขึ้น เมื่อรอการดีดสบัดก้านตอนอิมแพค)

8 มิถุนายน 2565

ชุดเหล็กโกงเบอร์ องศาหน้าไม้ต่างกัน แต่เบอร์เหล็กเหมือนกัน

ชุดเหล็กโกงเบอร์ 🤔

⭕ มีนักกอล์ฟหลายๆท่าน และจากการพูดคุยในวงกว้างเรื่องไม้กอล์ฟ บ้างว่าชุดเหล็กจากค่ายญี่ปุ่น (JPN) นั้นตีไกลกว่าค่ายอเมริกา(USA) และทำให้นักกอล์ฟหลายท่านหันมานิยมใช้กันมาก และ บอกต่อกันไปแบบเข้าใจไม่ตรงประเด็นจริงๆ

⭕ ซึ่งมาจากประสบการณ์ของนักกอล์ฟเองที่เพื่อนก๊วนเดียวกัน ใช้ชุดเหล็กค่าย JPN หยิบเหล็ก 7 ตีเข้าธงระยะ 150 หลา แต่เพื่อนที่ใช้ค่าย USA กลับใช้เหล็ก 6 หรือเหล็ก 5 ด้วยซ้ำ ทำให้คิดว่าเหล็กที่ตัวเองใช้นั้นตีไกลกว่าเพื่อน และเชื่อว่าชุดเหล็กยี่ห้อนั้นดีจริง

⭕ จากที่ได้พบเห็น และตรวจวัดปรับแต่งไม้กอล์ฟมาหลายปีพบว่า เมื่อได้วัด องศาหน้าไม้ (Loft Angle) เช่น ปกติมาตรฐาน เหล็ก 7 มีองศา ประมาณ 33-35 องศา แต่เหล็กJPN จะมีองศาที่ต่ำกว่า คือ 27-29 องศา และที่ ใบเหล็กยังปั๊มตัวเลขว่าเป็นเหล็ก i7 (จริงๆเท่ากับ i6 หรือเกือบ i5 ด้วยซ้ำ) และความยาวก้านก็ยาวกว่าเหล็ก 7 ปกติ ถึง 0.5-1.0"

⭕ซึ่งนักกอล์ฟทั่วไปที่ไม่ได้คำนึงเรื่ององศาหน้าที่ไล่เรียงกันอย่างไรในชุดเหล็ก ก็ชื่นชอบพอใจกับชุดเหล็กที่ใช้ และคิดว่าเหล็กเบอร์เดียวกันตีไกลกว่าเพื่อนในก๊วนก็พอใจแล้ว หรือก็บางท่านทราบแต่รู้สึกดี แค่ต้องการผลทางจิตใจ เมื่อยืนบนแท่นที พาร์ 3 แล้วเรียกเหล็กที่สั้นกว่าเมื่อขณะที่ทีออฟ 😂😁

=======================

✅ติดตามเรื่องฟิตติ้งไม้กอล์ฟน่ารู้✅

https://youtube.com/c/TOMTOMIYACLUBFITTING

6 มิถุนายน 2565

ปรับวงสวิงให้เข้ากับไม้กอล์ฟ หรือ ปรับอุปกรณ์ให้เข้ากับวงฯ

🔺 การปรับตัว / ปรับวงฯให้เข้ากับอุปกรณ์ที่ผลิตเป็นมาตรฐานโรงงาน (One Size Fit All) ซึ่งพบเห็นกันได้อยู่ทั่วไปในนักกอล์ฟสมัครเล่น และระดับโปรฯ เช่น การปรับแนวสวิง / ปรับจุดเล็ง แนวเล็ง / ปรับการยืนจรด / ปรับหน้าไม้ปิด หรือเปิด ฯลฯ

สรีระที่ต่างกันแต่ละบุคคล
ซึ่งสิ่งเหล่านั้นเป็นผลมาจากสเปคไม้กอล์ฟที่ไม่เหมาะสมกับตัวเอง เช่น

ขนาดกริ๊ปใหญ่ หรือเล็กกว่าขนาดมือ จะทำให้ลูกเข้า ซ้ายหรือขวา จะพยายามชดเชยหน้าปิด/เปิดหน้าไม้ และแนวเล็งที่เปลี่ยนไป
ความยาวก้านที่ยาวเกินไป จะชดเชยด้วยเปลี่ยนแนวเล็ง หรือ แนวสวิงให้แบน (Flat) มากขึ้น
▶ ความยาวก้าน กับ Lie Angle ไม่สัมพัธ์กัน หรือไม่เคยตรวจเช็ค ตีปกติอิมแพคดี ลูกจะไปซ้าย และเข้าขวาเอง ก็จะชดเชยการสวิงโดยอัตโนมัติ
นี่ยังไม่รวมถึงสเปคก้าน / หัวไม้-ใบเหล็ก ที่มีผลกระทบต่อวงสวิงนะครับ

🔶 สิ่งเหล่านี้นักกอล์ฟสมัครเล่น หรือแม้แต่ระดับโปรฯที่ยังไม่เข้าใจเรื่องเหล่านี้ ก็ใช้ความสามารถตนเองปรับวง ให้ชดเชยกับอุปกรณ์เองโดยไม่รู้ตัว และคิดว่าเป็นเพราะการสวิงไม่ดีเอง ทำให้การสวิงไม่เป็นอย่างที่ควรเป็น และเมือติดกับวงสวิงทีไปปรับให้เข้ากับอุปกรณ์แล้ว หากเปลี่ยนอุปกรณ์ หรือต้องการพัฒนาให้สูงขึ้นอีกระดับคงเป็นไปได้ลำบากหน่อย

💠 ลองพิจารณาดูนะครับว่า สเปคไม้กอล์ฟที่เป็นมาตรฐานโรงงาน จะช่วยให้ท่านพัฒนาวงสวิงได้มากน้อยอย่างไร และเป้าหมายของเกมส์กอล์ฟท่านอยู่ตรงไหน

✅ติดตามเรื่องฟิตติ้งไม้กอล์ฟน่ารู้✅

https://youtube.com/c/TOMTOMIYACLUBFITTING

25 พฤษภาคม 2565

นักกอล์ฟสมัครเล่น / มือใหม่ ควรทำฟิตติ้งไม้กอล์ฟ (Club Fitting) เมื่อไรดี???

มีนักกอล์ฟสมัครเล่นส่วนใหญ่ได้โทรมาพูดคุย และสอบถามว่าเมื่อไรควรจะทำฟิตติ้งไม้กอล์ฟ (Clubs  Fitting) เพราะได้รับข้อมูลมาว่า เวลาที่เหมาะสมในการทำฟิตติ้งไม้กอล์ฟนั้น ควรจะต้องมีวงสวิงที่นิ่งเสียก่อน หรือต้องตีกอล์ฟให้ได้คงเส้นคงวาเสียก่อน แล้วค่อยคิดที่จะทำฟิตติ้งไม้กอล์ฟ มิฉนัันแล้วจะเสียเงิน เสียเวลาเปล่า เพราะทำมาแล้วก็จะไม่ได้ประโยชน์ จะต้องมาปรับวง และปรับไม้ฯกันอีก นั้นเป็นเป็นความเข้าใจที่ยังไม่ถูกต้องนักเสียทีเดียว

ต้องทราบเสียก่อนว่า การทำฟิตติ้งไม้กอล์ฟ หรือ Club Fitting นั้นไม่ได้มีไว้บริการเฉพาะนักกอล์ฟมือดี หรือ Touring Prof เท่านั้นครับ ซึ่งการทำ Club Fitting สำหรับนักกอล์ฟสมัครเล่น หรือมือใหม่ทั่วไปนั้น ไม่จำเป็นต้องมาดูเรื่อง อัตราสปินลูกกอล์ฟ (Spin Rate) / มุมเหิน (Launch Angle) หรือ การดัดองศาหน้าไม้ (Loft & Lie Adjustment) เพื่อให้ได้ระยะ หรือทิศทางตามต้องการ แต่นักกอล์ฟสมัครเล่น/มือใหม่ เพียงต้องการให้มีไม้กอล์ฟที่สามารถควบคุมการสวิงทุกๆครั้งให้โดนลูกกอล์ฟตรงกลางหน้าไม้ให้บ่อยที่สุด และให้ลูกลอยออกไปได้ ในทิศทางที่ต้องการ ด้วยการสวิงเข้าหาลูกกอล์ฟ ไม่ใช่การตีด้วยแขน

สิ่งที่ควรทำ Club Fitting ให้กับนักกอล์ฟสมัครเล่น และมือใหม่ทั่วไปที่ควรคำนึง มากกว่าแค่มีไม้กอล์ฟที่เป็น Standard Spec ที่ซื้อมาจากชั้นวางขายในห้างทั่วไปก็คือ

น้ำหนักรวมไม้กอล์ฟ (Total Weight) : ต้องมีน้ำหนักรวมที่เหมาะสม กับความสามารถ / ความแข็งแรงของร่างกาย ในแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน ที่จะสามารถควบคุมไม้กอล์ฟได้ดี ในขณะสวิง ดังนั้นก็ไม่ควรมีน้ำหนักไม้กอล์ฟมากเกินไป โดยเฉพาะมือใหม่ (น้ำหนักก้าน เป็นตัวหลักในการควบคุม น้ำหนักรวมไม้กอล์ฟ)

ความยาวก้าน และน้ำหนักก้าน (Shaft Length & Weight) : ความยาวก้านถือเป็นตัวสำคัญที่สุด เพราะจะเป็นตัวกำหนดความแม่นยำที่จะตีโดนลูกกอล์ฟให้ตรงกลางหน้าไม้ให้ได้บ่อยครั้งที่สุด (Center Impact) เพราะส่วนใหญ่จะเน้นให้ตีได้ไกลเอาไว้ก่อน แล้วก็ผลิตไม้กอล์ฟที่มีความยาวก้านเกินกว่าที่ควรเป็น และนักกอล์ฟสมัครเล่น/มือใหม่ จะชอบชุดเหล็กที่มีก้านป็นเหล็กเสียส่วนใหญ่ จะยากต่อการพัฒนาวงสวิงให้ได้มาตรฐานได้ช้า เพราะก้านกราไฟท์ที่ดีๆก็ไม่ควรมองข้าม (ความยาวก้านที่มาก/น้อยไปมีผลต่อการสวิง ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Lie Angle ที่ทำให้มีผลต่อทิศทางการตี)

แบบหัวไม้ & ใบเหล็ก ( Club Head Design) : การเลือกแบบของหัวไม้ หรือ ใบเหล็กก็จำเป็นไม่น้อยกว่าปัจจัยอื่น ควรมีขนาดใบ/ปริมาตร / Offset / หน้าไม้ปิด/เปิด (Face angle) / องศาหน้าไม้ และขนาดของหน้าไม้ ที่มีตำแหน่งจุดศูนย์ถ่วง (Center Gravity) ที่เหมาะสมกับความสามารถ หากเลือกหัวไม้ & ใบเหล็กตามอย่างนักกอล์ฟอาชีพ หรือตามแบบโฆษณาล่าสุด หรือเลือกเพราะต้องการขายต่อได้ราคา ก็ไม่ควรพูดถึงเรื่องวงสวิงที่ดี หรือ ฟิตติ้งเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพครับ

ขนาดกริ๊ป (Grip Size) : ขนาดฝ่ามือของทุกคนก็จะมีขนาดที่แตกต่างกันอยู่แล้ว แต่ไม้กอล์ฟที่ซื้อมาจากชั้นวางขายนั้นมีขนาดที่เดียวเท่านั้น ไม่สามารถเลือกซื้อให้ได้พอดีกับขนาดมือที่แตกต่างกันได้ เฉกเช่นเดียวกันกับขนาดของ เบอร์รองเท้า!!!! เพราะขนาดกริ๊ปที่ไม่พอดีกับขนาดมือแล้วเป็นการยาก ที่จะควบคุมหน้าไม้ในการตีให้สแควร์ หรือพัฒนาวงสวิงให้ได้ดี อย่างตั้งใจได้ แล้วท่านรู้ไหมล่ะครับ มือท่านมีขนาดกริ๊ปเท่าไร????? ลองใช้ความรู้สึกในการเลือกขนาดกริ๊ป ก่อนตัดสินใจซื้อไม้กอล์ฟจะดีไหมครับ

ความอ่อนแข็งก้าน และ แนวดีดก้าน ( Shaft Flex & Shaft Bend Profile) : ตามที่การผลิตไม้กอล์ฟของแต่ละบริษัท ไม่สามารถทำก้านไม้กอล์ฟที่มีความอ่อนแข็งให้ได้เหมือนกันได้ เช่น ก้านไม้ที่มี Flex R ของบริษัทหนึ่ง ก็จะมีความอ่อนแข็งไม่เหมือนกันอีกบริษัท เพราะความอ่อนก้านจะผันแปรตามความยาวก้าน และน้ำหนักหัวไม้ นอกเสียจากว่าวัดจากเครื่องดีดหาค่าความถี่ก้าน (Frequency Analyzer) หรือหาค่า CPM (Circle Per Minute) นอกจากนั้น จุดดีดที่ให้ความเสถียรที่สุดบนก้านแต่ละก้านก็จำเป็นที่ควรจะมีแนวดีดก้านที่เป็นธรรมชาติที่สุด (Neutral Bending Position) หรือ การจัดวาง Spine ก้านใหม่ (ตามที่นักกอล์ฟในบ้านเราเรียกกัน) เพราะจะทำให้ไม้กอล์ฟมีความรู้สึกการดีดเหมือนกัน และมีประสิทธิภาพสุด

ท่านลองพิจารณาดูสิครับว่า เป็นเหตุเป็นผลหรือไม่ ที่ท่านนักกอล์ฟสมัครเล่น / มือใหม่ ยังไม่ควรทำฟิตติ้งไม้กอล์ฟ (Club Fitting) เพราะสิ่งเหล่านั้นที่กล่าวมา มีความไม่เหมาะสม หรือใกล้เคียงกับท่านแล้ว การพัฒนาวงสวิงของท่านก็ จะปรับวงเข้ากับไม้กอล์ฟ แทนที่จะปรับไม้กอล์ฟให้เข้ากับวงสวิง ใช่ไหมครับ เพราะท่านจะปรับวงสวิงของท่าน ไม่ว่าท่านจะยืนจรดเอียงๆ / หรือเล่งไปคนละทางกับทิศทางที่ต้องการ / หรือจรดเปิด / ปิด หน้าไม้ก่อนตีลูกฯออกไป เพื่อให้ตีลูกกอล์ฟให้อยู่ในแฟร์เวย์ หรือออนบนกรีน เมื่อถึงตอนนั้นวงสวิงของท่านก็ยากต่อการแก้ไขเสียแล้ว ซึ่งอาจเป็นผลมาจากเรียนวงสวิงกับโปรฯเพียงไม่กี่ชั่วโมง และมีไม้กอล์ฟที่ไม่เหมาะสม จากนั้นก็มาหัดเอง และก็ปรับวงตัวเองเข้ากับไม้ฯไปเลย

สำหรับนักกอล์ฟมือดี หรือ อาชีพ การปรับแต่งไม้กอล์ฟ เพียงเล็กๆน้อยๆก็สามารถทำให้เขาเหล่านั้นตีลูกได้อย่างคงที่ หรือตามที่ต้องการได้ เพราะเขามีทักษะที่ดีแล้ว รู้ว่าควรจะแก้ไขตรงจุดไหนบ้างของไม้กอล์ฟให้เข้ากับตัวเขาเอง หรือสามารถบอกกับ Club Fitter ทำให้ได้ตามต้องการ ว่าต้องการอะไรกับไม้กอล์ฟที่มีอยู่นั้น เช่นให้แข็ง/อ่อน หนัก/เบา สั้น/ยาว ต้องการบอลสูง/บอลต่ำ (ซึ่งไม่เหมือนนักกอล์ฟสมัครเล่น/มือใหม่ทั่วไป) เพียงแต่ความไม่แน่นอนของเกมส์กอล์ฟ กับวงสวิงที่ไม่แน่นอนในแต่ละวันนั่นเอง

ฟิตติ้งไม้กอล์ฟ (Club Fitting) ไม่ใช่เพียงแค่นำไม้กอล์ฟไปเปลี่ยนให้เป็นก้านใหม่เท่านั้น ก็เรียกว่าได้ทำฟิตติ้งไม้กอล์ฟแล้ว และ Club Fitting ก็ไม่ได้มีเอาไว้เพื่อนักกอล์ฟมือดีอย่างเดียวใช่ไหมล่ะครับ สอบถาม Professional Club Fitting ที่ไม่ยึดติด หรือขายไม้กอล์ฟที่เป็นมาตรฐานโรงงาน (Standard Spec) จะให้คำตอบที่ตรงประเด็น และใกล้เคียงกับความต้องการของนักกอล์ฟในทุกๆระดับฝีมือได้ดีที่สุดครับ

✅ติดตามเรื่องฟิตติ้งไม้กอล์ฟน่ารู้✅

https://youtube.com/c/TOMTOMIYACLUBFITTING

18 พฤษภาคม 2565

กอล์ฟไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่ต้องการจะเล่น

🔷 กอล์ฟเป็นกีฬาที่เล่นไม่ง่าย ซึ่งหากใครอยากจะเล่นแล้ว ใช่ว่าจะสามารถซื้อไม้กอล์ฟแล้วไปออกรอบได้เลยทันที เพราะต้องมีเข้าใจ และฝึกฝนในแต่ละขั้นตอนของมัน เช่น รู้จักวงสวิง / รู้จักอุปกรณ์ และการใช้งาน / รู้จักกฏกติกา และมารยาทในการเล่น / รู้จักอดทนฝึกฝนวงสวิงจนตีได้ในแต่ละระดับ ฯลฯ ซึ่งพูดได้ว่า "กอล์ฟไม่มีทางลัดในการเล่น"

🔶แต่กอล์ฟก็เป็นกีฬาที่มีเสน่ห์น่าหลงใหล หากใครได้ตั้งใจ และตัดสินใจเข้ามาเล่นแล้ว และสามารถเข้าถึงระดับหนึ่งของมัน กีฬากอล์ฟจะให้อะไรๆหลายๆอย่างกับคุณมากกว่าที่คิด ซึ่งไม่สามารถพบได้ในกีฬาประเภทอื่นอย่างแน่นอนครับ หากคุณไม่ล้มเลิก หรือ หมดความพยายามเสียก่อน เพราะว่าเล่นกอล์ฟมาแล้วไม่มีการพัฒนาเกมส์กอล์ฟได้ดีขึ้นเลย

🔷กอล์ฟมีทั้งวันที่ตีดี และตีไม่ได้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ และเป็นธรรมชาติของมัน ซึ่งกีฬากอล์ฟไม่ได้ใช้เพียง ทักษะทางด้านร่างกาย (Physical Skill) เพียงอย่างเดียวแล้วคิดว่าจะเล่นได้ดีในวันแข่งขันได้ แต่หาก ทางด้านจิตใจและความคิด (Mental Skill) ไม่ได้ฝึกฝน และสามารถควบคุมให้เข้ากับร่างกายได้ในแต่ละวัน ก็อย่าคิดว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายได้ในการเล่นได้ดี

วงสวิง กับ อุปกรณ์ ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง !!!!!!
🔶เพราะฉนั้นในวันที่คุณเล่นดี คุณคิดว่ามันเป็นเพราะอะไร และหากในวันที่คุณเล่นไม่ดี ทำสกอร์ไม่ได้ในช๊อตที่สำคัญ คุณคิดว่ามันเป็นเพราะอะไร สิ่งเหล่านี้มันยังคงอยู่ในใจ ในความคิดนักกอล์ฟทุกๆคนตลอดการเล่นกอล์ฟ แล้วแต่ว่าคุณมีแนวทางทางความคิด (Mental Guideline) ที่ดีที่ถูกต้องอย่างไร?? ที่สามารถตัดปัญหาในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป แล้วคุณก็จะทราบว่าปัญหาที่ควรจะแก้ไข คืออะไร เป็นเพราะ เรื่องของวงสวิง / เรื่องเกมส์แพลน / เรื่องจิตใจความกังวล หรือ เรื่องของอุปกรณ์


❎ ซึ่งนักกอล์ฟหลายคนอาจคิดเสียเองว่าเป็นเพราะตัวเองสวิงไม่ดีทำให้เป็นแบบนี้ หรืออาจจะเป็นเพราะอุปกรณ์แน่ๆ รุ่นใหม่กว่า เพิ่งวางจำหน่ายน่าจะตีได้ดีกว่าไกลกว่าอย่างแน่นอน ก็ยังสับสนว่าจะเปลี่ยนอุปกรณ์ หรือจะปรับวงสวิงดี ซึ่งสิ่งวกังวลใจดังกล่าวนี้ ยังคงเป็นปัญหาเรื่องพื้นฐานของนักกอล์ฟทั่วไปที่ยังสรุปไม่ได้ เพื่อที่จะพัฒนาเกมส์กอล์ฟให้ก้าวขึ้นไปอีกระดับต่อไป

14 เมษายน 2565

การเปลี่ยนอุปกรณ์ไม้กอล์ฟควรมีเป้าหมายในการพัฒนาวงสวิง

คนที่ตัดสินใจเล่นกอล์ฟส่วนใหญ่ มีความต้องการที่จะพัฒนาฝีมือตนเองในเกมส์กอล์ฟให้ดีขึ้นๆ ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มจับไม้กอล์ฟ จนถึงวันที่จะก้าวเป็นระดับอาชีพ เพราะกอล์ฟเป็นกีฬาที่เล่นยาก แต่ถ้าได้เล่นถึงจุดหนึ่งแล้วคุณจะรักมันอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะกีฬากอล์ฟมันมีเสน่ห์ และให้อะไรๆคุณได้หลายๆอย่างมากกว่าเกมส์กีฬา

ปรับวงสวิงให้เข้ากับไม้กอล์ฟ

🔶 กีฬากอล์ฟเป็นกีฬาที่ต่างจากกีฬาประเภทอื่นๆอย่างมาก ซึ่งมันไม่ได้มีอุปกรณ์ในการเล่นเพียงแค่ 1 หรือ 2 ชิ้น แต่มีให้ใช้ถึง 14 ชิ้นด้วยกัน ขนาดลูก กับขนาดหน้าไม้ก็ต่างกันไม่มาก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องเข้าใจการเล่น และการเลือกใช้อุปกรณ์ในแต่ละสถานการณ์ที่แตกต่างกันให้เป็น และเหมาะสมถูกวิธี

🔺 หลายคนสับสนระหว่างอุปกรณ์กับวงสวิง ในทุกๆครั้งที่เกิดความผิดพลาด หรือไม่พอใจในผลงานตัวเอง ก็จะพยายามเปลี่ยน/ปรับวงสวิง หรือไม่ก็เปลี่ยนอุปกรณ์ไปเลยง่ายกว่า โดยเฉพาะมือสมัครเล่นที่ไม่รู้สาเหตุว่าเพราะอะไรเหมือนการเสี่ยงโชคไปเรื่อยๆ ซึ่งต่างจากมืออาชีพนั้นจะมีโค้ชดูแล ทั้งทางด้านวงสวิง และอุปกรณ์อย่างใกล้ชิด

ปรับไม้กอล์ฟให้เข้ากับวงสวิง

อุปกรณ์สามารถปรับเปลี่ยนได้รวดเร็วทันใจ แต่การเปลี่ยน/ปรับวงสวิงนั้นต้องใช้เวลา มือสมัครเล่นจึงเลือกเปลี่ยนอุปกรณ์เสียมากกว่า และ ส่วนใหญ่จะปรับวงสวิงตัวเองให้เข้ากับไม้กอล์ฟ จะไม่ค่อยพบการปรับไม้กอล์ฟให้เข้ากับตัวเอง หรืออาจเป็นเพราะยังไม่รู้และเข้าใจ ซึ่งไม้กอล์ฟส่วนใหญ่จำหน่ายแต่สเปคมาตราฐานโรงงาน ก็จะไม่พบปัญหาของตัวเองว่าเพราะเหตุใด

🆗 ระดับอาชีพ นั้นมีสเปคอุปกรณ์ที่ทำมาให้เหมาะเฉพาะตัวที่ต้องการ ซึ่งไม่ต้องกังวลในส่วนนั้นแล้ว เพียงมาใส่ใจเรื่องวงสวิงให้มากขึ้น แต่ถึงแม้อุปกรณ์เดิมที่ดูมาอย่างดีแล้ว ก็ยังมีตกรอบได้ แม้วันแรกตีดีอยู่หน้าแรกของผู้นำ ก็ควรกลับมาซ้อมกับอุปกรณ์เดิมนั้นให้มากขึ้นมากกว่าเปลี่ยนอุปกรณ์ไปเรื่อยๆนะครับ

✅ติดตามเรื่องฟิตติ้งไม้กอล์ฟน่ารู้✅

https://youtube.com/c/TOMTOMIYACLUBFITTING

22 มีนาคม 2565

ฟิตติ้งไม้กอล์ฟเป็นส่วนที่จำเป็นน้อยที่สุด สำหรับมือใหม่อย่างไร

⭕ เชื่อไหมครับว่า..ไม้กอล์ฟนั้นมีส่วนน้อยมากที่มีผลต่อเกมส์กอล์ฟประมาณ 30% เท่านั้น ส่วนวงสวิงและเกมส์ความคิดเป็นส่วนสำคัญหลัก ถึง 70% หรือมากกว่า ถึงแม้ว่าอุปกรณ์มีส่วนน้อย แต่ก็เป็นส่วนที่นักกอล์ฟให้ความสนใจกันมากที่ ต้องการจะมีและตามหาสเปคไม้กอล์ฟที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด

สเปคไม้กอล์ฟที่ OEM ตอบให้นักกอล์ฟทุกคนไม่ได้
⭕ มีหลายๆคนพูดว่า มีวงสวิงให้ดีก่อนแล้วค่อยตามหาสเปคไม้กอล์ฟ หรือค่อยทำฟิตติ้งไม้กอล์ฟ แต่ถ้าหากมองอีกมุมหนึ่ง กว่าจะมีวงสวิงที่ดีจะต้องมีสเปคอุปกรณ์ที่สนับสนุนในการพัฒนาวงสวิงให้ดีด้วย เพราะนักกอล์ฟมือใหม่ หรือสมัครเล่นทั่วไปไม่มีความสามารถเหมือน บรรดาโปรฯกอล์ฟที่สามารถใช้ไม้กอล์ฟสเปคอะไรก็ได้ และสามารถออกรอบและทำสกอร์ดีได้..ใช่ไหมครับ? แต่มือใหม่หรือมือสมัครเล่นกลับตรงกันข้าม !!!!!

หากวงสวิงยังไม่ดีแล้วแถมยังไม่รู้ว่าใช้สเปคไม้กอล์ฟแบบไหนเพื่อนำไปฝึกซ้อม ก็เท่ากับว่าในส่วนของอุปกรณ์ 30% แทนที่จะเพิ่ม หรือไปส่งเสริมวงสวิง แต่กลับไปบั่นทอนหรือลดลงไปอีกจาก 70% ซึ่งจะทำให้ไม่เกิดการพัฒนาวงสวิงที่ดีขึ้นได้ซ้ำแย่ลง ซึ่งมือสมัครเล่นวงสวิงดีบ้างไม่ดีบ้าง ไม่เหมือนกับพวกโปรฯอยู่แล้วที่ใช้สเปคอะไรก็ตีได้ แต่เขายังต้องการมีสเปคไม้ที่ฟิตติ้งมาเหมาะสมและถูกใจที่สุด

⭕ ก็ลองนำไปพิจารณาดูนะครับว่า ควรหรือไม่ควรอย่างไร และจำเป็นไหมที่ต้องให้ความสนใจและใส่ใจในอุปกรณ์กอล์ฟ ก็เพราะว่าวิธีคิดที่ถูกต้อง (Mental Fitness) จะนำพาไปสู่เกมส์ที่พัฒนาขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ เพราะกีฬากอล์ฟไม่ใช่กีฬาที่เล่นให้ดีได้ง่ายๆครับ แต่หากเล่นได้ดีแล้วมันจะบอกคุณเองว่ากีฬากอล์ฟมันมีเสน่ห์มากเพียงใด

✅ติดตามเรื่องฟิตติ้งไม้กอล์ฟน่ารู้✅

21 กุมภาพันธ์ 2565

เปลี่ยนสเปคไม้กอล์ฟกอล์ฟบ่อยครั้งให้อะไรกับคุณบ้าง

กีฬากอล์ฟ เป็นเรื่องของการใช้ความจำกล้ามเนื้อ (Memory Muscle) ซึ่งเป็นการฝึกฝนปฏิบัติซ้ำๆในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เมื่อทำเช่นนั้นแล้วจะเกิดการตอบสนองกล้ามเนื้อเป็นอัตโนมัติ สังเกตง่ายๆคือ เมื่อไรก็ตามมีการเปลี่ยนวงสวิง หรือเรียนรู้วงสวิงใหม่ ต้องมีการฝึกฝน อย่างต่อเนื่องแล้วกล้ามเนื้อ และกลไกจะจดจำ และทำงานอย่างเป็นอัตโนมัติ หรือท่าน หรือแม้กระทั่งทัวร์โปรฯ เปลี่ยนวงสวิงใหม่ ก็จำเป็นต้องใช้เวลาสักระยะหนี่ง แล้วแต่ความสามารถในการจดจำกล้ามเนื้อของแต่ละคนที่แตกต่างกัน

เช่นเดียวกัน เมื่อไรก็ตามที่ท่านได้เปลี่ยนสเปคไม้กอล์ฟ ซึ่งเคยใช้มาเป็นระยะเวลานานพอสมควร กล้ามเนื้อของท่านก็จะจำ และปฏิบัติวงสวิง และสเปคไม้กอล์ฟนั้นๆ และเมื่อเวลาได้ไม้กอล์ฟสเปคใหม่ ซึ่งต่างไปจากเดิม ท่านก็จำเป็นต้องปรับกลไกของกล้ามเนื้อให้คุ้นเคย ในสเปคไม้กอล์ฟใหม่ กับวงสวิง / จังหวะสวิงเดิมที่เป็นอยู่ เพื่อที่ให้มีความสัมพันธ์สอดคล้องกัน ระยะเวลาก็จะเข้ามาเป็นตัวบ่งบอกทักษะความสามารถของท่านว่าจะทำได้เร็ว หรือช้า

ดังนั้น....การเปลี่ยนสเปคไม้กอล์ฟใหม่เมื่อไรก็ตาม ควรปรึกษา Professional Club Fitter ให้ได้สเปคไม้กอล์ฟเพื่อตอบสนองวงสวิงให้ได้มีประสิทธิภาพสูงสุด และควรใช้เวลาคุ้นเคยกับสเปคนั้นในระยะเวลาหนึ่งจนความจำกล้ามเนื้อตอบสนอง และในทางกลับกัน นักกอล์ฟที่เปลี่ยนสเปคบ่อยๆ ความจำกล้ามเนื้อก็จะเกิดอาการสับสน ลังเล ไม่รู้ว่าสเปคไหนจะเหมาะและนำมาฝึกฝนพัฒนาวงสวิงได้ดีขึ้นได้

ผมเคยกล่าวในบทความก่อนๆมาแล้วว่า ไม้กอล์ฟที่ไม่เหมาะสม อาจเปลี่ยนวงสวิงไปในทางลบได้ เช่นไม้กอล์ฟสเปคที่ เบาไป / หนักไป / อ่อนไป / แข็งไป หรือ สั้นไป / ยาวไป มีผลต่อวงสวิง และความจำของกล้ามเนื้อ / การเล็ง / การยืดจรดแอสเดรส / จังหวะดาวสวิง / อัพสวิง และการสเวของ ร่างกาย อย่างแน่นอนครับ ปรับไม้ฯเข้ากับวงสวิง หรือจะปรับวงสวิงให้เข้ากับไม้ฯ อันไหนน่าจะดีกว่ากันครับ

ที่กล่าวมานั้น การเปลี่ยนสเปคไม้กอล์ฟ หรือ ฟิตติ้งไม้กอล์ฟ ไม่ใช่เพียงแค่เปลี่ยนก้านไม้กอล์ฟรุ่นใหม่ๆออกมาเท่านั้น ก็เรียกว่าได้ทำ ฟิตติ้งมาแล้ว ซึ่งการฟิตติ้งไม้กอล์ฟยังมีรายละเอียดมากกว่านั้นครับ ต้องพูดคุยข้อมูลของนักกอล์ฟที่มีอยู่ / เช็ควงสวิง และทักษะความสามารถ รวมถึงสรีะร่างกาย การฟิตซ้อม และนำมาสรุปวิเคราะห์ให้ได้สเปคไม้กอล์ฟที่เหมาะสม และใกล้เคียงกับนักกอล์ฟให้มากที่สุด สิ่งเหล่านี้ ไม่ได้นำแบนด์ หรือยี่ห้อ หรือสีสรรของไม้กอล์ฟเข้ามาเกี่ยวข้องใดเลย

✅ติดตามเรื่องฟิตติ้งไม้กอล์ฟน่ารู้✅

https://youtube.com/c/TOMTOMIYACLUBFITTING

10 มกราคม 2565

การเปลี่ยนอุปกรณ์ หรือสเปคไม้ฯควรมีเป้าหมายที่ชัดเจน

💢 การเปลี่ยนสเปคอุปกรณ์ไม้กอล์ฟบ่อย  และเปลี่ยนแบบไร้เป้าหมาย (ลองไปเรื่อย) ไม่ส่งผลดีต่อวงสวิงเลย ซึ่งจะทำให้จังหวะสวิง (Swing Tempo) เพี้ยนไปได้ เพราะ กีฬากอล์ฟเป็นทักษะกีฬาของความจำกล้ามเนื้อ (Memory Muscle) ที่ต้องคุ้นชิน กับอุปกรณ์นั้นๆมาระยะเวลาหนึ่ง จึงสามารถจับจังหวะ และควบคุมเล่นชองสเปคไม้ฯได้ ให้มีความผิดพลาดน้อยที่สุด ซึ่งแม้แต่บรรดาทัวร์โปรฯก็ตาม เมื่อสปอนเซอร์ไม้กอล์ฟออกรุ่นใหม่ๆมาให้ใช้  ก็ยังต้องใช้เวลาฝึกซ้อมสักระยะจึงค่อยนำมาใช้แข่งขันจริงเลยครับ


💢 ดังนั้นเมื่อใดหากท่านต้องการเปลี่ยนอุปกรณ์ หรือสเปคไม้กอล์ฟ ก็ควรมีเป้าหมาย ในเรื่อง สเปคของตัวเองที่ต้องการจริงๆ หรือควรต้องมีข้อมูลในทางฟิตติ้งไม้กอล์ฟ (Clubs Fitting) เช่น ความเร็วหัวไม้ / น้ำหนักรวมไม้ฯ / น้ำหนักก้าน / แนวดีดก้าน / ความอ่อนแข็งตลอดก้าน / ขนาดกริ๊ป  / สวิงเวท / ความยาวก้าน / ขนาดหัวไม้ / องศาหน้าไม้ / จุดศูนย์ถ่วง และรูปทรงของหัวไม้ใบเหล็กแบบไหน รวมถึงการประกอบไม้ฯที่ให้ได้สเปคที่เหมาะที่สุดสำหรับตัวเอง

💢 การเลือกเปลี่ยนแค่เพียงคำโฆษณา หรือรุ่นใหม่ๆ หรือแบรนด์ที่รู้จักต่างๆ ควรค้นหาและเรียนรู้ว่าอะไรคือสเปคของตัวเอง ว่าทักษะการสวิงของตัวเองจริงๆเป็นอย่างไร หรือ สเปคไม้ฯที่ใช้อยู่มีจุดอ่อนจุดแข็งอย่างไร ควรเลือกปรับเปลี่ยนส่วนไหน เช่น ไดร์ฟเวอร์+แฟร์เวย์ / ไฮบริด กับชุดเหล็ก และชุด เวดจ์ ควรจะต้องมีสเปคที่มีความสัมพันธ์กัน ไม่ควรเลือกเปลี่ยนอย่างใดอย่างหนึ่งโดยไม่คำนึงถึงอุปกรณ์ข้างเคียงที่เหลือว่าจะมีผลกระทบหรือไม่อย่างไร เช่น Driver/Fairway Woods มีสเปคไล่เรียงกัน และควรสัมพันธ์กับสเปคในชุดเหล็กอีกด้วย ซึ่งจะมีผลทำให้จังหวะการสวิงนั้น ออกมาคล้ายๆหรือใกล้เคียงที่สุด

💢 ควรเลือกเปลี่ยน หรือ ปรับแต่งอุปกรณ์อย่างมีเป้าหมายว่า เพราะเหตุใดที่ต้องการเปลี่ยน แล้วจะหาสเปคอุปกรณ์แบบไหนที่จะมาส่งเสริมการสวิงให้ดีขึ้นกว่าเดิมเพราะอะไร ซึงหากเปลี่ยนสเปคชุดหัวไม้ก็ควรมีสเปคที่ทำให้จังหวะการสวิงไม่เปลี่ยนจากเดิม ที่จะทำให้การเปลี่ยนอุปกรณ์ในครั้งนั้นให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นมากที่สุด

🔺 ข้อมูลเรื่องฟิตติ้งไม้กอล์ฟ 🔺

https://tomiyaclubfitting.blogspot.com/?m=1

================================

https://youtube.com/c/TOMTOMIYACLUBFITTING

================================