ในปัจจุบันนี้นักกอล์ฟจะพูดถึงการฟิตติ้งไม้กอล์ฟ #clubfitting กันมากขึ้นเรื่อยๆ จึงอยากอธิบายเรื่อง Custom Clubfitting เพิ่มเติมให้เข้าใจกันมากขึ้น
การทำฟิตติ้งไม้กอล์ฟ หรือการปรับแต่งไม้กอล์ฟให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นนั้น จะพูดถึงคุณสมบัติ หรือส่วนประกอบไม้กอล์ฟ Specification ให้เหมาะสมกับนักกอล์ฟมากกว่าพูดเรื่องชื่อ/ยี่ห้อ (Tread Mark) เพราะชื่อ/ยี่ห้อไม่ได้ตอบโจทย์ทางฟิตติ้ง ที่จะเลือกได้เลย เช่น น้ำหนักรวม/น้ำหนักก้าน/ความยาวไม้ฯ/ขนาดกริ๊ป/ความอ่อน/แข็ง ที่ปลาย/โคนก้าน #CPM /องศาหน้าไม้ ฯลฯ
ชื่อ/ยี่ห้อเป็นเพียงค่าการตลาด ขาย/โฆษณา/สปอนด์เซอร์ให้ติดตลาด และสร้างเอกลักษณ์ที่แตกต่าง เพื่อให้ผู้บริโภคจดจำได้ง่าย แต่แท้ที่จริงส่วนที่สำคัญที่สุด คือคุณสมบัติข้างในมากกว่าชื่อ/ยี่ห้อเสียอีก เช่นตัวอย่างนักกอล์ฟอาชีพสามารถเปลี่ยนชื่อ/ยี่ห้อ ไม้กอล์ฟที่สปอนด์เซอร์ได้ แต่เปลี่ยนสเปคที่เขาชอบนั้นไม่ได้ เพราะยี่ห้ออะไรก็ตีได้หมด แต่ขอทำสเปคที่ชอบมากที่สุดให้ได้เท่านั้น
ดังนั้นผู้ให้บริการ Club fitter จะต้องเข้าใจสรีระ และทักษะความสามารถในเชิงกีฬากอล์ฟของนักกอล์ฟแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน และสามารถวิเคราะห์ตามศาสตร์ของการฟิตติ้งไม้กอล์ฟได้ ว่าควรมีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ความต้องการของนักกอล์ฟได้มากที่สุดนั้นอย่างไร
ไม้กอล์ฟ กับวงสวิงจะเป็นเรื่องที่สัมพันธ์กันอย่างมากๆ วงสวิงเป็นเรื่องหลัก 70% และอุปกรณ์ 30% วงสวิงเป็นเรื่องของการฝึกซ้อม และความชำนาญมีค่าความผิดพลาดเป็นเงาตามตัว ถ้าวงฯดีแล้ว สเปคอะไรก็ตีพอได้ แต่จะมีสเปคที่ชอบเพื่อสร้างเสริมความสามารถให้ถึงขีดสูงสุดได้ และถ้าวงฯยังไม่ดี สเปคก็ไม่รู้ ก็คงหาคำตอบได้นะครับ ว่าจะเหลือกี่เปอร์เซนต์
สเปคอุปกรณ์ที่ดีเป็นตัวช่วยเสริมวงสวิงให้ดีได้ แต่หากได้สเปคที่ดีเหมาะสมแล้ว ขาดการฝึกซ้อม การคุ้นชิน จึงคิดอยากเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ตาม Character ของชื่อ/ยี่ห้อนั้นๆ เพราะคิดว่า ชื่อ/ยี่ห้อใหม่ๆ ที่จดจำนั้นน่าจะเป็นสเปคที่ตอบโจทย์ความต้องการได้ จนไม่รู้ว่าตัวเองเหมาะกับสเปคไหนจริงๆ แต่จำชื่อยี่ห้อที่ติดหูแทนที่สเปคจริงๆไปเสียแล้ว
Clubfitting ไม่ใช่การเปลี่ยนกริ๊ป เปลี่ยนก้าน โดยถามหาชื่อ/ยี่ห้อที่รู้จักมาเพื่อเป็นสเปคตัวเอง แต่ควรถามหาสเปค และคุณสมบัติที่เหมาะกับความสามารถของแต่ละคนที่แตกต่างกันมากกว่าครับ
27 ธันวาคม 2560
5 ธันวาคม 2560
การเล่นกอล์ฟแบบลดสกอร์ ต้องการตีไกลไม่ใช่คำตอบเดียว
นักกอล์ฟสมัครเล่นทั่วไป จะมีความต้องการตีไกล และคิดที่จะเพิ่มระยะเพียงอย่างเดียว จนลืมนึกถึงเรื่องความสม่ำเสมอ (Consistency) และความแม่นยำ (Accuracy) ที่ควรมีตลอดการเล่นออกรอบ ดังนั้นการตีไกลจึงได้นำมาเป็นจุดขายทางการตลาดของบริษัทฯที่ผลิตไม้กอล์ฟออกมาโฆษณาจำหน่ายนั่นเอง
ก้านฯที่อ่อนเกินไป (Weak Flex) องศาหน้าไม้ (Less Loft Angle) ที่น้อยเกิน และความยาวก้าน (Long Club Length) ที่ยาวขึ้น บางครั้งทำให้รู้สึกว่าได้ระยะเพิ่มขึ้นเมื่อทดสอบตีในที่เดิมๆ หรือ ตีทดสอบในสนามไดร์ฟ เหมือนการแข่งตีไกล (ไม่ได้ออกรอบจริง) ซึ่งการออกรอบนั้นแท่นทีออฟจะเปลี่ยนไปในทุกๆหลุม
ซึ่งการเล่นกอล์ฟเพื่อลดสกอร์ (Stroke Play) ควรจะต้องมีความแม่นยำ และความสม่ำเสมอตลอด 18 หลุม โดยมีข้อผิดพลาดในทุกๆช๊อตให้น้อยที่สุด (ไม่ใช่การที่ตีไกลที่สุดเพียงอย่างเดียว) ซึ่งนักกอล์ฟมือดีๆ จนถึงระดับอาชีพจะคิดแบบนี้กันทั้งนั้น จะให้ความสำคัญกับช๊อตต่อไปที่เล่นดีที่สุด เสี่ยงเสียแต้มน้อยที่สุด
เพราะฉนั้นในการทำ Club Fitting จะไม่ได้พูดถึงเรื่องตีไกลเพียงอย่างเดียว จะฟิตติ้งในองค์รวมเพื่อทำให้นักกอล์ฟลดสกอร์ เพิ่มการควบคุมลูก /ความแม่นยำ เพื่อให้การเล่นมีประสิทธิภาพสูงสุดที่ควรจะได้ ตามทักษะ และความสามารถของนักกอล์ฟที่มีอยู่นั่นเอง
ก้านฯที่อ่อนเกินไป (Weak Flex) องศาหน้าไม้ (Less Loft Angle) ที่น้อยเกิน และความยาวก้าน (Long Club Length) ที่ยาวขึ้น บางครั้งทำให้รู้สึกว่าได้ระยะเพิ่มขึ้นเมื่อทดสอบตีในที่เดิมๆ หรือ ตีทดสอบในสนามไดร์ฟ เหมือนการแข่งตีไกล (ไม่ได้ออกรอบจริง) ซึ่งการออกรอบนั้นแท่นทีออฟจะเปลี่ยนไปในทุกๆหลุม
ซึ่งการเล่นกอล์ฟเพื่อลดสกอร์ (Stroke Play) ควรจะต้องมีความแม่นยำ และความสม่ำเสมอตลอด 18 หลุม โดยมีข้อผิดพลาดในทุกๆช๊อตให้น้อยที่สุด (ไม่ใช่การที่ตีไกลที่สุดเพียงอย่างเดียว) ซึ่งนักกอล์ฟมือดีๆ จนถึงระดับอาชีพจะคิดแบบนี้กันทั้งนั้น จะให้ความสำคัญกับช๊อตต่อไปที่เล่นดีที่สุด เสี่ยงเสียแต้มน้อยที่สุด
เพราะฉนั้นในการทำ Club Fitting จะไม่ได้พูดถึงเรื่องตีไกลเพียงอย่างเดียว จะฟิตติ้งในองค์รวมเพื่อทำให้นักกอล์ฟลดสกอร์ เพิ่มการควบคุมลูก /ความแม่นยำ เพื่อให้การเล่นมีประสิทธิภาพสูงสุดที่ควรจะได้ ตามทักษะ และความสามารถของนักกอล์ฟที่มีอยู่นั่นเอง
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)