26 มีนาคม 2557

การหาไม้กอล์ฟที่เหมาะกับตัวเอง ไม่ควรเสี่ยง หรือเลือกซื้อไม้ฯที่เป็น Standard spec มาใช้

การทำ Club fitting ที่ให้ได้ความเหมาะสมของไม้กอล์ฟ กับนักกอล์ฟหนึ่งคนนั้นจำเป็นต้องไม่ใช่ไม้กอล์ฟที่ได้มาจากทีวางขายบนชั้นอยู่ทั่วไปตามร้านฯ เพราะต้องทำความเข้าใจว่า ไม้กอล์ฟเหล่านั้นเป็นการประกอบเพื่อขายในตลาดส่วนใหญ่ และเป็นการผลิตที่ละมากๆ (Mass Production) หรือ One Size Fit All หรืออาจมีสเปคเพียง Flex R / S หรือ องศา 9.5 / 10.5 (ในหัวไม้ไดร์ฟเวอร์) เพราะฉนั้นนั้นเปรียบเสมือนเป็นการเสี่ยงดวงเพื่อเลือกซื้อไม้กอล์ฟนั้นมาโดยไม่มีเหตุผลในพิจารณาทางสรีระร่างกาย และความสามารถหรือทักษะในการสวิงฯ นอกจากสรรพคุณจากการโฆษณาในสื่อต่างๆ หรือสปอนร์เซอร์ในนักกอล์ฟมือดีๆใช้ เพราะค่าตัว+ค่าโฆษณาได้รวมไปในราคาไม้กอล์ฟที่วางขายแล้วนั่นเอง

การทำ Club Fitting ที่ดีควรมีส่วนการวิเคราะห์ให้เลือกมากว่านั้น เช่น ความยาวก้าน / องศาหน้าไม้ / Lie Angle / น้ำหนักก้าน / จุดดีดก้าน / ขนาดกริ๊ป ฯลฯ นอกจากนั้น ยังรวมไปถึงการประกอบไม้กอล์ฟ (Club Assembly) ที่ดี ที่การปรับแต่ง และต้องมีความละเอียดบรรจงในการประกอบไม้ฯ เพื่อให้ได้สเปคทีเป็นไปตามการวิเคราะห์ เพื่อให้ได้ไม้กอล์ฟตามต้องการ (Custom Spec) ซึ่งต่างจากการประกอบไม้ฯที่เป็นมาตรฐาน (Standard Spec) ที่นำมาอ้างอิงอยู่ทั่วไป เพราะมันไม่ได้เหมาะสม หรือใกล้เคียงกับความต้องการตามความสามารถการสวิงของนักกอล์ฟในแต่ละคนเลย

อุปกรณ์ดี หากเลือกไม่ดี หรือประกอบไม้ฯไม่ได้อย่างที่เหมาะสมต้องการ กับความต่างในแต่ละคนแล้ว ก็คงไม่ต่างอะไรกับการซื้อไม้กอล์ฟที่เป็น Standard Spec เพื่อไปหาไม้กอล์ฟที่เป็น Standard Spec ของอีกยี่ห้อหนึ่งกลับมาอีก ซึ่งในที่สุดท่านก็จะไม่รู้เลยว่า สเปคของท่านเองเป็น Standard Spec หรือเปล่า หรือเป็นสเปคอะไรก็ไม่รู้ และก็มีไม้กอล์ฟอยู่ในบ้านท่านหลายชุด ที่สามารถเปิดร้านขายไม้กอล์ฟขนาดย่อมๆได้เลยละครับ

16 มีนาคม 2557

ก้านเบาไม่ใช่คำตอบของการเพิ่มระยะ หรือพลังที่ส่งไปยังลูกกอล์ฟ

ก้านไดร์ฟเวอร์ที่เบาใช่คือคำตอบของความเร็วหัวไม้ (Club Head Speed) ที่เพิ่มขึ้น และทำให้เกิดระยะที่เพิ่มขึ้นและเหมาะกับนักกอล์ฟทุกคนเสมอไป ซึ่งน้ำหนักก้านไม้กอล์ฟจะเป็นตัวกำหนดน้ำหนักรวมไม้กอล์ฟ (Total weight) นั่นหมายถึง มวล หรือ เพาร์เวอร์ ที่จะเกิดพลังที่มากกว่ามวลที่เบากว่า รวมถึงการควบคุม (Control) / ความสม่ำเสมอ (Consistency) ซึ่งความแข็งแรง และทักษะในการสวิงของนักกอล์ฟในแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน ที่ต้องต้องการเพียงก้านที่มีน้ำหนักเบาเพียงอย่างเดียว

นอกจากนั้นการประกอบไม้กอล์ฟ (Assembly Club) ยังมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการเลือกน้ำหนักก้านที่เหมาะสม เช่น การจัดความยาวก้าน / การจัดบาลานซ์ หรือสวิงเวท / จัดแนวดีดก้านที่เสถียน และขนาดของกริ๊ป ให้พอดีกับนักกอล์ฟในแต่ละคน

เพราะฉนั้น ควรพิจารณาให้ถ้วนถี่เมื่อต้องการจะปรับแต่งไม้กอล์ฟให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นจริงๆ ไม่ใช่เพราะเสี่ยงโชคในการเปลี่ยนก้านเท่านั้น

1 มีนาคม 2557

องศาหน้าไม้ (Loft angle) และ มุมระนาบสันไม้ (Lie angle) มีผลต่อระยะ และทิศทาง

องศาหน้าไม้ (Loft Angle) ในชุดเหล็กเป็นตัวกำหนดระยะของเหล็กในแต่ละเบอร์ ซึ่งองศาหน้าไม้จะเพิ่มขึ้น เมื่อก้านเหล็กที่สั้นลง และควรมีระยะห่างองศาที่ถูกต้องเหมาะสม เพื่อให้ได้ระยะห่างที่แน่นอนขึ้น ในเหล็กแต่ละเบอร์

มุมระนาบสันไม้ (Lie Angle) เป็นตัวกำหนดทิศทางเมื่อลูกกอล์ฟออกจากหน้าไม้ Lie angle จะค่อยเพิ่มขึ้นเมื่อเหล็กที่สั้นลง และก็ยังมีผลต่อความยาวก้านเช่นเดียวกันที่ทำให้ Lie angle เปลี่ยนไปตามความยาวก้าน เมื่อเทียบกับข้อมือถึงพื้น (Wrist to Floor) ของนักกอล์ฟแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน เมื่อใช้ไม้กอล์ฟที่มีความยาวเป็น Standard มาจากโรงงาน

ความยาวก้านมีผลต่อ Lie angle
เพราะฉนั้นท่านนักกอล์ฟเคยนำเอาชุดเหล็กของท่านมาตรวจวัด Loft & Lie บ้างหรือยังครับว่าเป็นอย่างไร โดยเฉพาะใบเหล็กที่เป็นเหล็กนุ่ม (Forged) เมื่อผ่านการใช้งานมาระยะหนึ่งแล้ว Loft & Lie จะเปลี่ยนไปตามการใช้งาน มิฉนั้นแล้วท่านก็จะไม่ทราบว่าระยะ หรือทิศทางที่เปลี่ยนไปเพราะอะไร อาจไม่ใช่เพราะการสวิงอย่างเดียว

ควรนำไม้กอล์ฟมาตรวจสอบ และทำ fitting บ้างนะครับ เกมส์กอล์ฟของท่านจะสนุกขึ้น อย่าโทษอุปกรณ์ และเปลี่ยนอุปกรณ์โดยยังไม่มีการตรวจเช็คสเปคที่เป็นอยู่ ท่านก็อาจจะต้องเสี่ยงโชคไปเรื่อยๆเพื่อให้ได้ไม้กอล์ฟที่เหมาะสมกับตัวท่านเอง