31 ธันวาคม 2566

โรงเรียนสอนซ่อมไม้กอล์ฟ/ปรับแต่งไม้กอล์ฟ(Club Making & Advance Club Fitting)

Tomiya Club Fitting School ได้กำหนดเปิดสอนการเรียนรู้เรื่อง Club Fitting สำหรับผู้สนใจ และกำลังหาความรู้เพื่อประกอบอาชีพ หรือเป็นความรู้ส่วนตัวในเรื่องของศาสตร์ไม้กอล์ฟ การเรียนการสอนรวมทั้งหมด 4 วัน คือ Completed Club Making และ Advance Club Fitting  ทั้งนี้การเรียนการสอนทั้งทฤษฎี และปฏิบัติจริงๆตามแบบฉบับ Golfsmith สหรัฐอเมริกา 

** เปิดคอร์สเรียน ในวันที่ 28-31 มีนาคม 2567 นี้ รวมทั้งหมด รวม 4 วัน เวลา 09:30 - 16:00 น. สนใจสอบถามเพิ่มเติม ที่
โทร : 0 8 6 - 5 3 5 - 5 5 7 9 / Line ID : tomiyaclubfitting


เนื้อหาการเรียนการสอนมีดังนี้ (Course Outlines)
  1. พื้นฐานการประกอบไม้กอล์ฟ (Completed Club Making & Assembly)  
  • องค์ประกอบไม้กอล์ฟ (Clubs Component)
  • ประเภทของหัวไม้ / ก้าน และกริ๊ป (Club Head / Shaft & Grip Characteristic)
  • อุปกรณ์ และเครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับงาน (Club Making Tools & Equipment)
  • การถอด และการประกอบกริ๊ป (Grip removal and installation)
  • เทคนิควิธีการปรับเปลี่ยน ถอดและประกอบก้าน (Graphite & Steel shaft removal and installation)
  • วิธิตัดก้าน และการเตรียมก้าน (Shaft Trimming & Preparation)
  • วิธีทำฟิตติ้งขั้นพื้นฐาน (Static Fitting Instruction)
  • เทคนิควิธีการถอดก้านไม้กอล์ฟที่หัก และการต่อก้าน (Extended & Broken shaft removal)
  • วิธีการปรับแต่ง / เพิ่มลดสวิงเวท (Swing weighting) 
  • วิธีการแต่ง Ferrule (Ferrule Finishing)
  • วิธีการวัดองศาหน้าไม้ (Loft & Lie Measuring)
  • เทคนิคการดัด และแต่ง Loft & Lie (Loft and Lie alteration)

2. เทคนิคและวิธีการทำฟิตติ้งไม้กอล์ฟ  (Advance Club Fitting)
  • ลักษณะแนวสวิงที่มีผลต่อไฟท์บอล (Ball Flight Laws Characteristic)
  • องค์ประกอบของไม้กอล์ฟที่มีผลต่อกับวงสวิง (Club Assembly effects to Swing)
  • เทคนิคและขั้นตอนการทำฟิตติ้ง (How to start Club Fitting session)
  • การจัดอุปกรณ์เหมาะสม และมีประสิทธิภาพ (Expert Fitting Method to optimize set make up)
  • เทคนิคและวิธีการวิเคราะห์ไม้กอล์ฟเพื่อทำให้ฟิตติ้งให้เหมาะสม(How to fit each clubs properly)
  • การปรับแต่งขนาดกริ๊ป (Grip Fitting)
  • การเลือกตัดก้านอย่างมีประสิทธิภาพ (Shaft Trimming Instruction)
  • การเลือก และจัดหัวไม้ กับก้านให้เหมาะสมกับวงสวิง (Club Head  & Shaft Optimization)
  • การพิจารณาวิเคราะห์ก้านไม้กอล์ฟที่มีผลต่อวิถีบอล (Shaft Talk & Shaft Fitting)
  • ปฏิบัติการตรวจสอบก้านไม้กอล์ฟ ให้เหมาะกับแนวสวิง (PUREing & Spine alignment)
  • ปฏิบัติการทำฟิตติ้ง ชุดเหล็ก (Iron set Fitting)
  • ปฏิบัติการทำฟิตติ้ง ชุดหัวไม้ (Driver / Fairway and Hybrids Fitting)
  • ขั้นตอนการทำฟิตติ้ง พัตเตอร์ / ลูกกอล์ฟ  (Putter & Ball Fitting)
  • การสรุปการวิเคราะห์ และการจัดชุดไม้กอล์ฟทั้ง 14 ไม้ (Analysis & Suggestion Set make up)
  • การปรับแต่ง และการกระจายน้ำหนักของไม้ฯกับสวิงเวทจ์ (Swing weighting & MOI matching)
  • วิเคราะห์ก้านไม้กอล์ฟ และเลือกใช้ก้านอย่างมีประสิทธิภาพ (Shaft Analysis & Shaft Talk) 
  • การประกอบและคัดเลือกก้านก่อนการประกอบไม้ (CPM matching for most efficiently assembling)
  • วิเคราะห์ไม้แบนด์ และไม้ราคาแพง เท่านั้นหรือคือคำตอบ??  (Why is One Fit All Spec) 
  • ทำไมต้องทำฟิตติ้ง มันดีอย่างไร (Never Standard, Custom Club Fitting Only)
  • การตลาด และการเตรียมเริ่มธุรกิจ (Initial Business & Marketing Talks)

ตำราอ้างอิงต่างๆที่ใช้ประกอบการเรียนการสอน 

การเรียนการสอนทั้งหมดรวมเรียน 4 วันเต็ม (เอกสารประกอบการเรียน + Coffee Break + อาหารกลางวัน + อุปกรณ์ / เสื้อshop / ซื้ออุปกรณ์ราคาพิเศษ)  อัตราค่าเรียนรวม 34,900 บาท  รับเพียงคอร์สละ 3-4 ท่าน เท่านั้น การเรียนการสอนเป็นทั้งทฤษฎี และปฏิบัติ ซึ่งผู้เรียนจะได้ความรู้จากการเรียนการสอน โดยใช้เทคนิค และแบบเรียนเดียวกับ Golfsmith สหรัฐอเมริกา ซึ่งเปิดการเรียนการสอนที่ สโมสรหมู่บ้านลัลลี่วิลล์ ซ.ศรีด่าน 22 ข้างห้างแม็คโคร / บิ๊กซี ถ.ศรีนครินทร์ ใกล้แยกลาซาล (แผนที่สถานที่เรียน คลิก) มีที่พักใกล้สถานที่เรียน สำหรับผู้เรียนที่มาจากต่างจังหวัด

Tomiya Club Fitting ได้ผลิตผู้มีความรู้ในด้านนี้มาแล้วหลายรุ่นมาแล้วที่ให้ความสนใจ และไว้วางใจเข้ามาฝึกอบรมพัฒนาทักษะการปรับแต่งไม้กอล์ฟนี้ ซึ่งผู้เรียนสามารถปฏิบัติ และนำไปใช้ได้จริง ประกอบกับนำความรู้ที่ได้ไปเผยแพร่ / ประกอบอาชีพในพื้นที่ของตนเองแล้วในปัจจุบัน (ภาพบรรยากาศการเรียน-การสอน)

ผู้สนใจเรียนคอร์สดังกล่าว เพียงแจ้งชื่อ-นามสกุล (ไทย / อังกฤษ) สำรองที่เรียน โดยส่ง SMS หรือ โทร : 086-535-5579 หรือที่ Line ID : tomiyaclubfitting (เพียง 3-4 ที่นั่ง / รุ่นเท่านั้น) พร้อมโอนเงินจองเรียน 5,000 บาท (ชำระส่วนที่เหลือในวันที่เรียนวันแรก / สงวนการคืนมัดจำหากไม่สามารถมาเรียนได้)

***สำหรับผู้สนใจเรียนพิเศษ ตัวต่อตัว หรือ One On One นอกเหนือจากตารางเรียนที่กำหนดไว้ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ครับ ที่ โทร : 086-535-5579 ***

Tomiya Club Fitting School & Services ( The First Club Maker School in Thailand ) เป็นผู้ริเริ่มเปิดให้บริการ การเรียนการสอน Club Making & Fitting เต็มรูปแบบในห้องเรียน ตามมาตรฐาน ซึ่งเป็นเจตนาและความตั้งใจตั้งแต่แรกเริ่มก่อตั้ง เพื่อให้เป็นที่เผยแพร่ความรู้ทางด้าน Custom Club Fitting ที่เป็นมาตรฐานที่ควรเป็น ซึ่งยังหาที่เรียนได้ยากในเมื่องไทย เพราะไม่มีสถานที่เปิดสอน และให้โอกาสต่อสาธารณะในขณะนั้น

9 สิงหาคม 2566

ฟิตติ้งไม้กอล์ฟ เปลี่ยนก้านเปลี่ยนกริ็ปไม้กอล์ฟ และปรับแต่งไม้กอล์ฟ (Custom Club Fitting) ย่านสุขุมวิท / บางนา-สำโรง / ศรีนครินทร์ เทพารักษ์ และบริการจัดส่งทั่วประเทศ

บริการซ่อม & ปรับแต่งไม้กอล์ฟ / โมดิฟาย เปลี่ยนกริ๊ป ก้าน และทำ Club fitting มาตราฐาน Golfsmith สหรัฐอเมริกา ด้วยอุปกรณ์ และเครื่องมือมาตรฐานทันสมัยในย่านบางนา / ศรีนครินทร์ / เทพารักษ์ / สำโรง
เปิดบริการเวลา 10:00 - 17:00 น. ( โทรฯพูดคุย และนัดหมายเวลาก่อนเข้ารับบริการ
โทร : 086-535-5579 / Line ID : tomiyaclubfitting
(Updated : สค. 2566)

บริการฟิตติ้งไม้กอล์ฟ(คลิกดูภาพ)


  1. ฟิตติ้งปรับแต่งไม้กอล์ฟ Spec เดิมที่เป็นสเปคโรงงาน (Standard Spec) - นำมา Re-spec หรือโมดิฟายใหม่ให้ใช้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และเหมาะกับจังหวะ และการสวิงของแต่ละบุคคล
  2. ถอดปรับเปลี่ยน-โมดิฟายก้านไม้กอล์ฟ  
  3. ปรับแต่ง Swing weight / Balance weight และ MOI matching
  4. ดัด Loft & Lie และ ปรับความยาวของก้านให้เหมาะกับการสวิง และสรีระร่างกาย
  5. ตรวจวัด จัดวาง แนวดีดก้าน (Spine Alignment) ใหม่สำหรับไม้กอล์ฟเดิม / ใหม่ พร้อมตรวจสอบวัดค่า Shaft Frequency (CPM) ก้านจะทำงานเต็มประสิทธิภาพ
  6. ปรับขนาดกริ๊ป (Fitting Grip Size) ให้ได้เฉพาะกับขนาดมือที่แตกต่างกัน
  7. วัดตัวตัดไม้กอล์ฟชุดใหม่ (Custom Clubs Fitting) ที่เฉพาะกับท่านจริงๆ และหาซื้อไม่ได้ ซึ่งเหมาะกว่า ดีกว่า ไม้กอล์ฟ Standard Spec ที่ขายในท้องตลาด
  8. รับบริการปรับ - แต่ง (Static Club Fitting) ทั่วประเทศ EMS สามารถพูดคุยอาการก่อนปรับแต่ง

สโมสรหมู้บ้านลัลลี่วิลล์ ชั้น 2 เป็นที่ตั้งร้าน (คลิกดูแผนที่)

Tomiya Club Fitting School & Services อยู่ที่ชั้น 2 สโมสรหมู่บ้าน ลัลลี่วิลล์ ซ.ศรีด่าน 22 ถ.ศรีนครินทร์ ใกล้ห้างแม็คโคร / บิ๊กซี (คลิก แผนที่ร้าน)

มาจากบางนา-ตราด กม.4 ข้ามสะพานวัดศรีเอี่ยมข้ามบางนา-ตราด มายัง ถ.ศรีนครินทร์ มุ่งหน้าไปสี่แยกเทพารักษ์ ซ.อยู่ข้างห้าง บิ๊กซี & แม๊คโคร
โทร : 086-535-5579

หรือมาจากห้าง เมกาบางนา ขาเข้าเมืองวิ่งคู่ขนาน ผ่านทางเข้าสนามกอล์ฟเมืองแก้ว เข้าซ.วัดคลองปลัดเปรียง (อยู่พอดีกับเชิงสะพานกลับรถไปชลบุรี กม.6) มาประมาณ 1.5 กม.

Swing & Clubs Analysis & Devices


สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และนัดหมายเวลาก่อนเข้ารับบริการได้ครับ รับรอง และรับประกันว่าเกมส์กอล์ฟของท่านจะดีขึ้น และสนุกขึ้นกว่าเดิมแน่นอน

ติดต่อสอบถามการให้บริการได้ที่
คุณ ทอม
โทร : 086-535-5579 
Line ID : tomiyaclubfitting





วิสัยทัศน์ (Vision) :
  1. ให้ความรู้ ให้อาชีพ/งานอดิเรก : เผยแพร่ และให้ความรู้ในเรื่องศาสตร์ของไม้กอล์ฟในห้องเรียน โดยเปิดการเรียนการสอนตามแบบมาตรฐานสากล รุ่นแรก ตั้งแต่เดือน มกราคม ปี 2554 ให้กับผู้สนใจ หรือ นักกอล์ฟทั่วไปที่ยังไม่รู้ และต้องการรู้ (เพราะในเวลานั้นการหาแหล่งความรู้ที่ดีๆด้านนี้ได้ยากในเมืองไทย) ซึ่งทำให้ได้รู้ว่าไม้กอล์ฟที่เหมาะสมกับความแตกต่างในแต่ละบุคคล จะไม่เสียเงิน และเวลาโดยที่ยังไม่ได้สิ่งที่ต้องการจริงๆ นอกจากนั้นยังสร้างอาชีพ Club Maker ใหม่ๆไปยังพื้นที่ที่ยังขาดการให้บริการด้านนี้ได้มากขึ้นโดยเฉพาะต่างจังหวัด และเป็นงานอดิเรกสำหรับนักกอล์ฟที่ปรับแต่งไม้ฯเอง เหมือนท่านได้เรียนรู้อย่างถูกต้องตามมาตรฐานสากลในเมืองไทย
  2. บริการคุณภาพแบบเป็นกันเอง และเข้าถึงง่าย : ใช้อุปกรณ์ และเครื่องมือที่เป็นมาตรฐานสากล  พร้อมร่วมวิเคราะห์ข้อมูล Spec ไม้กอล์ฟที่ใช้อยู่ด้วยกันก่อน (Standard Spec)  ถึงเหตุผลว่าเป็นอย่างไร ควร ปรับ / แต่ง ได้ไหม? อย่างไร? เราไม่เน้นงานขาย หรือ ทำยอด ช่วยให้ประหยัดกว่า หากซื้อไม้กอล์ฟที่วางขายอยู่ทั่วไป (Spec โรงงาน) ก็จะได้สเปคคล้ายไม้ฯเดิมมาใช้อีก โดยพูดคุยวิเคราะ และเสนอแนะข้อมูล + ผลที่ได้ + ราคาก่อนด้วยตัวเอง รับงานพอมือ และทำด้วยตัวเอง ไม่มีลูกน้อง ควรโทรพูดคุยกัน และนัดเวลาก่อนเข้าบริการครับ
  3. ปรับ ก่อน เปลี่ยน และ ประหยัด : ไม่เน้นการเปลี่ยนอุปกรณ์ เพื่อซื้อใหม่ทันที ควรตรวจเช็คอุปกรณ์ก่อนว่า "ทำไมถึงตีไม่ได้ หรือไม่ดี/ไม่ชอบ" สามารถ Modify ให้ได้ Spec ใหม่ได้ไหม /  อย่างไร (เช่น จัด Grip Size / จุดดีดก้านที่เต็มที่ (Spine & FLO) / Loft & Lie / สวิงเวทจ์ & น้ำหนักรวม ที่ไม่เหมาะสม มีให้ปรับจาก Standard Spec อีกมากมาย ก่อนตัดสินใจเปลียน ซึ่งประหยัดทั้งเวลา / งบประมาณ และได้ Spec ตรงกับผู้ใช้
  4. ราคาแพงใช่คำตอบที่ถูกต้องเสมอ : อุปกรณ์เล่นกอล์ฟที่ดีไม่จำเป็นต้องมีราคาแพง Standard Spec หรือ Brand Name ที่มีให้เลือกมากมายในตลาด ใช่คือคำตอบสุดท้ายที่ถูกต้องเสมอไป บางท่านอาจโชคดีที่ตีได้ดี และเหมาะสมกับท่าน แต่ก็มีหลายท่านที่ไม่มีโชค ที่ซื้อแล้วจะได้ Spec ตรงใจ และอาจจะอยากขาย หรือไม่ก็เก็บเอาไว้เสียเอง ซึ่ง Standard Spec ย่อมเป็น Standard Spec ที่เป็น Mass Product ตรงมาจากโรงงานนั่นเอง ไม่ใช่เฉพาะบุคคล และโปรโมท โฆษณาตามสื่อ หรือให้นักกอล์ฟมือดีใช้ และทำให้ราคาขายสูงตามไปด้วย
  5. จัดอุปกรณ์ให้ตรงเป้าหมายของเกมส์กอล์ฟ : การเปลี่ยน หรือซื้ออุปกรณ์ยกชุด ก็จะได้อุปกรณ์ ยกชุดที่เป็นมาตรฐานโรงงานคล้ายๆแบบเดิมกับมาใช้นั่นเอง (Standard Spec) หรือไม่ทราบ สเปคที่ตรงกับตัวเราเอง หรือรายละเอียดเชิงลึกของสเปคไม้กอล์ฟ / สเปคก้าน และก็จะซื้อ / เปลี่ยนอุปกรณ์คล้ายๆกันอยู่ร่ำไปมาเก็บไว้ และก็ตีไม่ได้เหมือนเดิม ซึ่งเป็นการพายเรืออยู่ในอ่างนั่นเอง มีไม้กอล์ฟอยู่เต็มบ้าน และยังไม่รู้ว่าไม้กอล์ฟไหนที่เหมาะกับตัวเองที่สุด (หากซื้อมาเพื่อขายต่อ ก็คนละประเด็นนะครับ) ควรปรีกษา Professional Club Fitting เพื่อหา Spec ที่เหมาะกับตัวเองดีกว่าครับ

✅ติดตามเรื่องฟิตติ้งไม้กอล์ฟน่ารู้✅

https://youtube.com/c/TOMTOMIYACLUBFITTING

    13 พฤษภาคม 2566

    ขนาดกริ๊ป (Grip Size) ที่ไม่ได้รับความสนใจและ ถูกละเลย

    🔺 ท่านนักกอล์ฟคงทราบอยู่แล้วว่า กริ๊ปเป็นส่วนเดียวเท่านั้นของไม้กอล์ฟที่ท่านสัมผัส และเป็นส่วนสำคัญในการบอกเรื่องราวของความรู้สึกในการตีกอล์ฟแต่ละครั้งได้ดี แต่มีนักกอล์ฟจำนวนมากที่ละเลย และไม่ให้ความสนใจกับ ขนาดกริ๊ป (Grip Size) ที่จับให้เหมาะสมกับตัวเอง หรือแค่ให้ดูดีสวย / ทน หรือของเแท้ ของเทียมก็พอ


    🔺ท่านคงเคยมีประสบกาณ์แล้วใช่ไหมว่า เมื่อท่านซื้อไม้กอล์ฟมาแต่ละครั้ง หรือเปลี่ยนกริิ๊ปแต่ละครั้ง ท่านไม่ทราบ และไม่สนใจขนาดกริ๊ปที่ใช้กับฝ่ามือตัวของท่านว่ามีขนาดเท่าไร หรืออาจจะไม่รู้และไม่มีใครแนะนำ ซึ่งก็เสียเงินเพื่อเปลี่ยนกริ๊ปไปอย่างนั้น เพราะว่าดูมันเก่าแล้ว หรือ มีการสึกหรอมากแล้ว บางครั้งก็ไม่ยอมเปลี่ยนพร้อมกันทั้งชุดให้เหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะเรื่องราคาที่แพงหาเปลี่ยนทั้งชุด ก็เลยต้องยอมใช้กริ๊ปแบบ Multi sizes & models หรือ กริ๊ปหลายหลากขนาด (จับฉ่าย) ในชุดกอล์ฟที่ท่านเป็นเจ้าของอยู่

    🔺จะมีนักกอล์ฟจำนวนไม่มาก เฉพาะในระดับ Touring Pro หรือ Serious golfer ที่ให้ความสนใจ และใส่ใจกับขนาดของขนาดกริ๊ปเป็นเรื่องแรกๆ พอๆกับเรื่องของก้านเสียด้วยซ้ำ ซึ่งเลือกมีกริ๊ปที่ขนาด และแบบเดียวกัน เหมือนกันทุกๆไม้ (ยกเว้นพัตเตอร์) เขาเหล่านั้นทราบดีเรื่อง ความสำคัญของขนาดกริ๊ป ที่จะสามารถทำให้ผลงานการตีลูกได้ดี หรือไม่อย่างไร เมื่อขณะ Impact ที่จะควบคุมหน้าไม้ให้กลับมา Square ได้ และตีได้หนักแน่นเป็นอย่างดี เพราะฉนั้นทุกครั้งที่เปลี่ยนกริ๊ป ควรพิจารณา ฟิตติ้งขนาดกริ๊ป (Grip Fitting) ที่เหมาะสมกับตัวท่านให้ได้ เพราะเป็นส่วนที่สำคัญส่วนหนึ่งที่จะทำให้ท่านตีกอล์ฟได้ดีขึ้น และไม่ควรเสียเงินเปลี่ยนมาโดยไม่คำนึงถึงความสำคัญที่แท้จริงของมัน โปรดให้ความสำคัญกับสิ่งเล็ก และให้ผลเกินค่า ซึ่งถูกมองข้ามและละเลยมานาน

    🔺ขนาดของกริ๊ปไซด์ ที่ถูกต้องและเหมาะกับมือของนักกอล์ฟแต่ละท่านนั้น ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับตัวกริ๊ป (Grip size) เพียงอย่างเดียวก็ใช้ได้ แต่ต้องทราบขนาดของโคนก้าน (Shaft ฺButt Diameter) ที่จะนำกริ๊ปนั้นไปใส่ด้วยว่ามีขนาดเท่าไร ถึงจะได้ขนาดกริ๊ปสุดท้ายที่จับออกมาได้ขนาดที่ตรงกับคนนั้นนั่นเอง

    เช่น ขนาดกริ๊ปเปล่า = M58 (Men .580") และมีขนาดโคนก้านไม้กอล์ฟที่ .600" (Butt Diameter) หากฝามือจับของท่านต้องการขนาดกริ๊ป .910" (Men Standard Grip Size ของผู้ชายแล้ว คือ .900") ผู้ที่ประกอบกริิ๊ปให้ท่านต้องทราบว่าจะต้องอย่างไร ถึงจะทำให้ได้ขนาดมือที่จับกริ๊ปที่ท่านต้องการที่ .910" มิฉน้้นแล้วท่านจะได้กริ๊ปที่มีขนาดไม่เหมาะสมไปใช้นั่นเอง และมีผลต่อวิถีบอลไฟท์ของการ Impact หน้าไม้กับลูกกอล์ฟ

    🔺และท่านมั่นใจได้ไหมว่าชุดกอล์ฟที่ท่่านซึ้อใหม่มาจากบนชั้นวางในห้าง หรือไม้กอล์ฟของท่านที่มีอยู่ใน Driver ถึง Wedges นั้น มีขนาดกริ๊ป (Grip Size) ที่เหมาะสมกับท่านด้วยเหมือนกัน หรือท่านต้องยอมทนใช้ไปเพื่อไปลองดูว่าตีได้ดีหรือไม่ อาจจะต้องปรับวงสวิงให้เข้ากับไม้กอล์ฟในแต่ละอันที่มีขนาดกริ๊ปที่ไม่เท่ากัน จนสับสนว่า ที่ตีไม่ได้ หรือตีไม่ดีเพราะวงสวิง หรือว่า อุปกรณ์กันแน่

    18 เมษายน 2566

    การเลือกไม้กอล์ฟที่เหมาะสมอย่างที่ Professional Club Fitting ไม่ทำกัน

    1. Professional Club Fitting ไม่ใช่การตอบคำถาม 5 หรือ 6 คำถาม ทางเว๊ปไซด์เพื่อให้ได้สเปคไม้กอล์ฟที่เหมาะสม
    2. Professional Club Fitting ไม่ใช่การใช้ไม้กอล์ฟหลายแบบที่วางอยู่ในร้าน หรือโปรฯช็อปตามสนามไดร์ฟฯ
    3. Professional Club Fitting ไม่ใช่การเข้าร่วมในวัน Demo day ตามสนามไดร์ฟฯต่างๆ เพื่อทดลองไม้กอล์ฟจนกว่าจะได้ไม้กอล์ฟที่ชอบ และพอใจ
    4. Professional Club Fitting ไม่ใช่การสรุปไม้กอล์ฟเพียงการพูดคุย 20 นาที หรือน้อยกว่า โดยไม่มีการทดลองการสวิงโดยผ่านเครื่องวัด และวิเคราะห์วงสวิง
    5. Professional Club Fitting ไม่ใช่การนำไม้กอล์ฟที่ประกอบเป็นสเปค Standard ทีมีจำกัดมาจัดเป็นสเปคที่เหมาะสม
    6. Professional Club Fitting ไม่ใช่การซื้อไดร์ฟเวอร์ที่สามารถปรับแต่งองศาต่างๆ ด้วยการปรับเปลี่ยนที่คอไม้ ซึ่งมีข้อจำกัดอย่างมากในการเลือกสเปคให้ได้ที่เหมาะสม
    • Professional Club Fitting is not answering five or six questions on a web site to be ‘fit’.
    • Professional Club Fitting is not a cart filled with different golf clubs sitting in a pro shop or on the practice range.
    • Professional Club Fitting is not attending a Demo Day at your local driving range and hitting clubs until you find something you like.
    • Professional Club Fitting is not something that can be accomplished from start to finish in 20 minutes or less, regardless if you are hitting balls on a launch monitor.
    • Professional Custom Fitting is not done by altering a limited number of specifications of an existing standard made set of golf clubs.
    • Professional Club Fitting is not buying a driver with an adjustable hosel that can only alter two of the thirteen key clubfitting specifications and only within a very limited range of options.

    6 พฤศจิกายน 2565

    รอวงสวิงดีก่อน แล้วค่อยไปทำฟิตติ้งไม้กอล์ฟ (Clubfitting)

     ⭕ คำถามที่ถูกถามเป็นประจำ และบ่อยมากๆ ซึ่งเป็น คำถามซ้ำๆเดิมๆเกี่ยวกับเรื่องฟิตติ้งไม้กอล์ฟ ที่แรกๆก็ยังไม่มีประสบการณ์ที่จะตอบถามนั้นให้ชัดเจน จนได้เรียนรู้จากประสบการณ์ และศึกษาเพิ่มเติมของการทำฟิตติ้งไม้ฯ ที่นักกอล์ฟหลายๆท่านยังมีสิ่งที่ยังไม่เข้าใจ และสงสัยเกี่ยวกับการทำฟิตติ้งไม้กอล์ฟ

    ⭕ คือ "ต้องรอให้วงสวิงดีก่อนแล้วค่อยทำฟิตติ้งไม้กอล์ฟจะดีกว่าใช่ไหมครับ?" เป็นคำถามที่ถูกถามเป็นประจำโดยเฉพาะจากนักกอล์ฟมือใหม่ถึงมือปานกลาง ซึ่งกีฬากอล์ฟนั้นเป็นกีฬาที่ต้องใช้ การจดจำของกล้ามเนื้อ (Memory Muscle) ที่ต้องการฝึกซ้อมบ่อยๆเป็นประจำ และสม่ำเสมอให้เกิดการสวิงเป็นไปตามอัตโนมัติ ควบคู่กับอุปกรณ์ที่ใช้ฝึกให้มีวงสวิงที่ดีขึ้นได้

    ⭕ สเปคไม้กอล์ฟไม่เหมือนกับสเปคไม้แบดมินตัน ไม้เทนนิส หรือไม้ปิงปอง ที่ไม่จำเป็นต้องมีรายละเอียดซับซ้อน ดังนั้น การฝึกซ้อมกอล์ฟควรมีสเปคไม้ฯที่เหมาะสมของแต่ละคน ที่มีน้ำหนักไม้ฯ หนัก/เบา ก้านอ่อน/แข็ง ขนาดกริ๊ปเล็ก/ใหญ่พอดีกับขนาดมือ หรือ องศามาก/น้อย ที่แตกต่างกันในแต่ระดับความสามารถที่จำเป็นที่จะต้องให้ความสำคัญควบคู่ไปกับวงสวิง ตั้งแต่มือใหม่ จนถึงระดับอาชีพ

    ⭕ คำตอบก็คือ "ท่านจะมีสเปคไม้กอล์ฟแบบไหนอย่างไรที่จะนำไปสร้างวงสวิงที่ดีขึ้นให้ได้" เพราะวงสวิงของท่านจะจดจำสเปคไม้กอล์ฟนั้นที่ท่านใช้ตลอดฝึกซ้อม และหากเมื่อท่านเปลี่ยนสเปคไม้ฯ โดยไม่มี Club Fitter ที่ดีแนะนำได้ถูกต้องต่อการนำไปพัฒนาวงสวิง ก็เท่ากับว่าท่านต้องเปลี่ยนวงฯไปอีกแบบสับสนวนไปวนมา เพราะการปรับวงสวิงเข้าหาไม้กอล์ฟเป็นเรื่องง่ายแบบไม่รู้ตัว และสับสนว่าเป็น เพราะไม้กอล์ฟหรือวงสวิงกันแน่ที่ควรปรับ (Is it me or my equipments?)

    ⭕ ข้อแนะนำ : สเปคไม้กอล์ฟอาจเป็นองค์ประกอบส่วนน้อยที่สำคัญของเกมส์กอล์ฟแค่ 30% และวงสวิงเป็นองค์ประกอบหลัก 70% แต่ถ้าหากส่วน 30% ที่จะนำไปเพิ่ม หรือลดในส่วนของ 70% (ที่ระดับโปรฯยังไม่เต็ม) แต่เขาเหล่านั้นไม่กังวลกับสเปคไม้ฯ 30% ที่ทำมาแล้ว ก็จะไปมุ่งมั่นกับการฝึกซ้อมเรื่องวงสวิงอย่างเดียวให้ดี ซึ่งความแตกต่างระหว่าง โปรฯ กับสมัครเล่น ในเรื่องฟิตติ้งไม้กอล์ฟนั้น ท่านลองพิจารณาว่าหลักวิธีคิด และวิธีนำไปใช้นั้นให้มีประสิทธิภาพอย่างไร🏌🎉

    28 ตุลาคม 2565

    "ใช้สเปคไม้กอล์ฟที่ไม่เหมาะสมกับการสวิงของตัวเอง สามารถทำให้เปลี่ยนวงสวิงได้"

    เชื่อไหมครับว่า "ใช้สเปคไม้กอล์ฟที่ไม่เหมาะสมกับการสวิงของตัวเอง สามารถทำให้เปลี่ยนวงสวิงได้" ซึ่งจะพัฒนาวงสวิงได้ยากขึ้น และวงสวิงอาจแย่ลงกว่าเดิมอีกด้วย

    หลายท่านซื้อไม้กอล์ฟตามความเชื่อที่ได้รับข้อมูลจากสื่อต่างๆว่าสรรพคุณรุ่นใหม่นี้จะทำให้ได้ระยะเพิ่มขึ้น ตีไกลขึ้น ตีง่ายขึ้น แต่ลองมองการผลิต และวางจำหน่ายไม้กอล์ฟในแต่ละปีที่ผ่านมาสิครับ ได้ออกวางตลาดในแต่ละรุ่นบ่อยมากๆ เรียกกันว่าเป็นแฟชั่นไม้กอล์ฟกันเลย เพิ่งออกรุ่นนี้ เมื่อต้นปี ปลายปีมาอีกรุ่นแล้ว

    วงสวิงที่เปลี่ยนตามไม้กอล์ฟ
    ประเด็นสำคัญที่ทำให้นักกอล์ฟสวิงไม้กอล์ฟที่ไม่เหมาะกับตัวเอง หลักๆมีอยู่  4 อย่างที่มองเห็นได้ชัดที่สเปคมาตรฐานไม้กอล์ฟตอบโจทย์นักกอล์ฟทุกคนไม่ได้

    1. ความยาวก้าน (Club Length) : ความยาวก้านที่ผลิตมาเหมือนกันส่วนใหญ่ จะมีความยาวก้านเกินความจำเป็น ส่งผลให้ Back swing มีระนาบที่แบน (Flat) เพราะไม่เช่นนั้นตีหลังลูกบ่อย ก็เลยต้องปรับตัวเองให้เข้ากับไม้ฯ โดยชดเชยการยืนแอสเดรสใหม่ หรือเล็งทิศทาง/เป้าหมายเผื่อ ทำให้แนวการเล็งทิศทางก่อนการสวิงไม่ปกติ ซึ่งสูญเสียการควบคุม (Control) หรือการเล็ง กับการสวิง ออกไปไม่เข้าเป้าตามที่เล็งไว้

    2. ขนาดกริ๊ป (Grip size) : มือนักกอล์ฟแต่ละคนนั้น ขนาดมือย่อมไม่เท่ากันทุกคน หากขนาดของกริ๊ปไม้กอล์ฟที่ใหญ่กว่าขนาดมือ ทำให้การจับกริ๊ปได้ไม่กระชับ ส่งผลให้การอิมแพคไม่หนักแน่ หน้าไม้จะเปิดขณะอิมแพคได้ง่ายกว่า ทิศทางไม่เป็นไปตามที่เล็งไว้ ชดเชยด้วยการยืนแอดเดรสที่ปิดมากกว่าปกติ
    สำหรับขนาดกริ๊ปที่เล็กเกินไป จำเป็นต้องจับ/กำกริ๊ปให้มากกว่าปกติ เกิดการเกร็งกล้ามเนื้อ ส่งผลให้หน้าไม้ปิดขณะอิมแพค เพาร์เวอร์การอิมแพคลดลง

    3. องศาหน้าไม้ (Loft Angle) : ในไดร์ฟเวอร์จะมีองศา 9.5-10.5 ซึ่งค่อนข้างจำกัดโดยเฉพาะนักกกอล์ฟมือใหม่ หรือนักกอล์ฟอาวุโสซึ่งความสามารถในการตีให้ลูกกอล์ฟลอยออกจากหน้าไม้นั้นเป็นไปได้ยาก และควบคุมทิศทางได้ยากอีกด้วย ประกอบกับความยาวก้านที่ยาวเกินไป ทำให้มุมปะทะหน้าไม้เป็นมุมกด (Descending) คล้ายการตีในเหล็ก อัตราการหมุนยกตัว (Spin rate) นั้นสูงมากเกินได้

    นอกจากนั้น องศาหน้าไม้ในชุดเหล็กไม่มีให้เลือกในรุ่นเดียวกัน (นักกอล์ฟไม่เคยเลือกซื้อองศาหน้าไม้ในชุดเหล็กด้วยซ้ำ) เพราะมีสเปคเดียวกันหมด ดังนั้นนักกอล์ฟมือใหม่ / อาวุโส / ผู้หญิง จึงตี และควบคุมเหล็กยาว ได้ยากกว่า เพราะองศาหน้าไม้ที่น้อยเกินไปที่ทำให้ลูกกอล์ฟยกตัวในอากาศในง่าย การพัฒนาวงสวิงในเหล็กยาว หรือไม้กอล์ที่ยาวและมีองศาหน้าไม้น้อยให้ดีขึ้นได้ยากกว่า

    4. น้ำหนักรวมไม้กอล์ฟ (Total weight) : น้ำหนักก้านเป็นตัวควบคุมน้ำหนักรวมไม้กอล์ฟ เมื่อน้ำหนักรวมที่เบาเกินไปซึ่งทำให้นักกอล์ฟสวิงได้สบายจริง แต่ต้องการระยะที่เพิ่มขึ้นนั้น ไม่ค่อยจะสัมพันธ์กันเท่าไร เมื่อมวลที่เบาสวิงได้เร็วขึ้นจริง แต่การปะทะกับลูกกอล์ฟที่หนักแน่ มีพลังที่จะส่งลูกกอล์ฟออกไปให้ได้ระยะที่ไกล และควบคุมได้นั้นมาด้วยกันหรือเปล่า

    เพราะน้ำหนักรวมที่เบา หรือหนักเกินไป จะไปปรับจังหวะการสวิง (Swing Tempo) และแนวสวิง (Swing Path)ของแต่ละคน เช่นคนที่มีจังหวะการสวิงที่เร็วกระชับแต่มาใช้มวลที่เบา การอิมแพคจะไม่หนักแน่นที่ควรเป็น การควบคุมทิศทาง และระยะที่ได้จะมาสัมพันธ์กันได้ยาก ซึ่งนักกอล์ฟหลายคนก็เลยต้องปรับจังหวะการสวิงให้ช้าลงแทนเพื่อชดเชยมวลไม้กอล์ฟที่เบา แทนที่จะเปลี่ยนน้ำก้านเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ โดยใช้จังหวะการสวิงแบบเดิมจะดีกว่านะครับ

    สรุปได้สเปคไม้กอล์ฟที่ไม่เหมาะสมหลักๆที่สามารถเปลี่ยนวงสวิงท่านได้ เหล่านี้ยังไม่รวมรายละเอียดอีกหลายอย่างที่ยังไม่ได้กล่าวถึง เช่น Swing Weight / Lie Angle / Club Face Angle / Flex / Shaft Bending Profile / Club Head design ที่ควรเลือก หรือนำมาปรับ/แต่งให้เหมาะสมกับวงสวิงท่านเอง ซึ่งบางครั้งก็เป็นเรื่องยากในการเข้าใจในเรื่อง ตัด/ปรับ/แต่ง ไม้กอล์ฟ (Club Fitting) ได้ในเร็ววัน เพราะนักกอล์ฟส่วนใหญ่มีความคิดว่าไม้กอล์ฟชื่อดังในตลาดที่รู้จักกัน เค้าต้องทำให้ได้คุณภาพที่ดีมาแล้ว ปรับวงสวิงตัวเองดีกว่าไม่ต้องเสียเงินไปกับการปรับ/แต่งไม้กอล์ฟอีก หรือซื้อมาขายไป เปลี่ยนยี่ห้อจนกว่าจะได้ไม้กอล์ฟที่ถูกใจ นั้นก็คงต้องใช้เวลามากหน่อยนะครับ

    ****มีวงสวิงที่เป็นมาตรฐาน ย่อมดีกว่าใช้ไม้กอล์ฟที่เป็นมาตรฐานนะครับ (วงสวิงผิดมาตรฐาน ติดแล้วแก้ยากกว่า แก้สเปคไม้กอล์ฟให้เข้ากับตัวเองนะครับ)****

    18 ตุลาคม 2565

    สเปคหัวไม้ไดร์ฟเวอร์ ไม่สามารถให้ประโยชน์โดยลำพัง

    ⭕ ในเชิง ClubFitting ส่วนผสมที่สัมพันธ์กัน และเป็นที่มาของระยะในไดร์ฟเวอร์นั้น มาจากความสูง-ต่ำของ มุมเหิน (Launch Angle) และ อัตราการหมุนลูกกอล์ฟ (Spin Rate) ที่ดีแล้ว ซึ่งยังจะต้องขึ้นอยู่กับ มุมปะทะบอล (Attack Angle) และ จุดปะทะหน้าไม้ (Impact Position) ที่ดีด้วย ที่เหมาะกับ ความเร็วหัวไม้ (Club Speed) ของทักษะการสวิงแต่ละคน ที่แตกต่างกันที่ทำได้

    ⭕ แต่ถ้าหากมองที่การออกแบบหัวไม้ ( Club Head Design) เพียงอย่างเดียว ประเด็นหลักๆของมุมเหินนั้นก็น่าจะขึ้นอยู่กับ องศาหน้าไม้ (Loft Angle) และ ตำแหน่งจุดศูนย์ถ่วงบนหัวไม้ (Center Gravity) ที่จะสร้างมุมเหินที่แตกต่างกันของแต่ละวงสวิง เพื่อให้ได้ระยะที่มีประสิทธิภาพสูงสุด (หัวไม้มีวัสดุการผลิตที่เหมือนกัน)

    ⭕ นอกจากนั้นอุปกรณ์ที่มีผลกระทบสำคัญอีกส่วนหนึ่งกับสเปคหัวไม้ที่จะทำให้ได้ระยะ และเป็นมุมเหินที่ดีได้นั้น นั่นก็คือ ความอ่อนแข็งปลายก้าน (Tip Flex) ที่จะต้องทำงานร่วมกับองศาหน้าไม้ หรือจุดศูนย์ถ่วงหัวไม้ และมุมปะทะลูก ให้ออกมาเป็น องศาหน้าไม้ขณะอิมแพค (Dynamic Loft Angle) ที่ทำให้ลูกกอล์ฟออกจากหน้าไม้กลายเป็นมุมเหินท้ายสุดนั่นเอง

    ⭕ จากส่วนผสมดังกล่าวที่จะทำให้เกิดเป็นระยะที่ดีนั้น ไม่ใช่มีเพียงเฉพาะสเปคหัวไม้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ที่จะสามารถทำให้เกิดระยะที่ดีที่สุดได้ (Optimum Distance) ซึ่งยังต้องมีส่วนประกอบอื่นๆดังกล่าวข้างต้นที่ดีอีกด้วย ที่เกี่ยวข้องกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับนักกอล์ฟหนึ่งคน

    ⭕ เพราะฉนั้นควรพิจารณาเลือกสเปครวมไม้ไดร์ฟเวอร์ (แทนที่จะเลือกเฉพาะสเปคหัวไดร์ฟเวอร์) ที่ให้เหมาะกับการใช้จริง  เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดกับตัวเอง เพราะลำพัง สเปคหัวไม้ไดร์ฟเวอร์เพียงอย่างเดียว ไม่ได้ช่วยให้บรรลุวัตถุประสงค์ด้วยตัวมันเองได้ครับ

    8 กันยายน 2565

    สเปคไม้กอล์ฟเปลี่ยนวงสวิงได้

    🔺 ท่านทราบหรือไหมครับว่า กีฬากอล์ฟเป็นกีฬาของความคุ้นเคย คุ้นชิน และ การจดจำของกล้ามเนื้อ (Memory Muscle) ที่ทำซ้ำๆ บ่อยๆติดต่อกันมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งทักษะร่างกายก็จะพยายามปรับจดจำการเคลื่อนไหวร่างกายให้สามารถตีได้กับไม้กอล์ฟอันนั้นๆ แต่จะเป็นผลในทางลบ หรือบวก ขึ้นอยู่กับสเปคอุปกรณ์นั้น จะช่วยเสริม หรือบั่นทอนวงสวิง

    🔷 สเปคความยาวก้าน / น้ำหนักรวมไม้ฯ / ขนาดกริ๊ป / แนวดีดก้าน / ความอ่อนแข็งก้าน / ขนาดรูปทรงหัวไม้ใบเหล็ก / องศาหน้าไม้ / มุมหน้าไม้ / สวิงเวท ฯลฯ สเปคเหล่าจะเป็นตัวกำหนดในการพัฒนาวงสวิง หากไม่มีการพิจารณาคัดเลือกที่ดี หรือ ใช้ไม้กอล์ฟสำเร็จรูป แบบ OEM (Original Manufacturer Equipment) ที่วางจำหน่ายสำเร็จรูปทั่วๆไป มาฝึกซ้อมพัฒนาวงสวิง แล้วท่านคงเดาได้เลยครับ ทักษะวงสวิง/สรีระของทุกๆคนที่ใช้ จะออกสำเร็จรูปเหมือนๆกันทั้งหมดนั้นได้อย่างไร??

    🔺ตัดความกังวลใจเรื่อง สเปคไม้กอล์ฟ ออกไปซะที เลือกไม้กอล์ฟที่มีสเปคฯเหมาะกับคุณจริงๆ มาฝึกซ้อม และใส่ใจกับการพัฒนาวงสวิงเพียงอย่างเดียว จะได้ไม่ต้องโทษไม้กอล์ฟ หรือโทษวงสวิง เมื่อเวลาตีไม่ดี ตีไม่ได้ ซึ่งจะทำให้การเล่นนั้นสับสน จับต้นชนปลายไม่ถูกว่าเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ครับ

    🔶 Clubfitting ก็คงไม่มีความหมายใดๆเลยกับนักกอล์ฟในทุกๆระดับที่ต้องการพัฒนาวงสวิงจริงๆ เพราะสเปคไม้กอล์ฟย่อมติดตัวควบคู่ไปกับวงสวิงเสมอ แม้เป็นเพียงเปอร์เซ็นต์ที่น้อยก็ตาม แต่มันจะช่วยพัฒนา หรือบั่นทอนวงสวิงของคุณ ในแต่ละการฝึกซ้อมตลอดการเล่นกอล์ฟของคุณเสมอ อยู่ที่การเลือกใช้ไม้กอล์ฟของคุณนั่นเองครับ

    11 สิงหาคม 2565

    การดีดก้านในชุดเหล็กที่ไม่เหมือนกัน ทำให้ขาดการควบคุมทิศทาง

    ท่านนักกอล์ฟหลายท่านทราบกันดีว่า ช๊อตที่ทำคะแนนคือ ช๊อตที่ 2 ในหลุมพาร์ 4 / ช๊อตที่ 3 ในหลุมพาร์ 5 และ ช๊อตแรกในหลุมพาร์ 3 (ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นไม้ในชุดเหล็กทั้งนั้น) เพราะฉนั้นความแม่นยำ (Accuracy) และ ความสม่ำเสมอ (Consistency) ย่อมเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างยิ่ง ไม่ใช่เฉพาะวงสวิงอย่างเดียว แต่ไม้กอล์ฟที่ใช้ย่อมต้องมีการดีดก้าน และสเปคที่เข้ากับวงสวิงของตัวเราเองเป็นอย่างยิ่ง

    ตามที่ได้ทราบกันมาแล้วว่า "ก้านไม้กอล์ฟ" ไม่ว่าก้านกราไฟท์ หรือ ก้านเหล็ก การผลิตนั้นไม่สามารถผลิตให้ได้กลม เนียนตลอด 360 องศา จึงเป็นสาเหตุให้การจัดวางก้านไม้กอล์ฟให้ตรงกับแนวดีดก้านนั้น จะเป็นสิ่งที่จำเป็นจะต้องทำ โดยเฉพาะในชุดเหล็กซึ่งความผิดพลาดในช๊อคของชุดเหล็กจะทำให้มีการแก้ไขในช๊อตต่อไป และสกอร์ หรือโอกาสการทำคะแนนมีเปอร์เซนต์ที่ไม่น่าจะเป็น

    การดีดก้านที่ต่างแนวกัน ก่อนการอิมแพค
    ทำไมต้องมาจัดแนวดีดก้านฯในชุดเหล็กให้เหมือนกันในทุกๆเบอร์ ก็เป็นเพราะในชุดเหล็กนั้นต้องการ ระยะ และทิศทางที่แม่นยำมากกว่า ไดร์ฟเวอร์หรือแฟร์เวย์วูด ด้วยซ้ำ จึงเป็นสาเหตุในการดีดก้านที่ออกมาให้เหมือนกัน การงอตัวดีดก้าน (Drooping หรือ Bending) นั้นย่อมเกิดขึ้นเมื่อก้านไม่ได้เสียบประกอบก้านในอยู่ในแนวดีดที่ดีที่สุด หรือแนวดีดก้านที่เหมือนกันในทุกๆเหล็ก จึงทำให้ก้านงอตัวดีดเมื่อเข้าสู่จุดอิมแพคที่ไม่เหมือนกัน ทำให้เกิดผลงาน / ทิศทาง และ Feeling ที่ต่างกัน ซึ่งท่านนักกอล์ฟลองสังเกตในชุดเหล็กที่เราใช้อยู่ (ชุดเดิมๆที่ซื้อมาจากห้าง ที่ยังไม่ได้ทำการปรับแต่ง) จะมีความรู้สึกอย่างที่บอกไป ว่า Feeling ไม่เหมือกันในทุกๆเหล็ก บางเหล็กนุ่มมือ ได้ระยะ/ทิศทาง ตามต้องการ แต่บางเหล็กอิมแพคแล้วไม่มั่นใจ หรือไม่อยากหยิบออกมาใช้เลย

    Lie Angle ที่กำหนดทิศทาง
    การดีดตัวก้านก่อนเข้าอิมแพค เป็นได้ทั้งสองแบบ (ตามรูป) งอตัวมาด้านหน้า คือหัวเหล็กนำก้านแนวนอน (Horizon) และ การ Droop ก้านแนวตั้ง (Vertical) หากการดีดที่ต่างกันในเหล็กแต่ละเบอร์ที่ไม่ได้จัดแนวดีด ซึ่งมีผลกับ Lie Angle ที่ทำให้ทิศทางไม่เป็นไปตามที่ต้องการ ซึ่งนักกอล์ฟทั่วไปอาจจะไม่สนใจในเรื่องนี้ เลยคิดว่าเป็นเพราะวงสวิง มากกว่าเป็นเพราะไม้กอล์ฟที่ยังไม่ได้นำมาปรับแต่งเสียใหม่ จึงตัดสินใจเปลี่ยนไม้กอล์ฟทั้งชุดเลยดีกว่า หรือปรับการเล็ง ปรับการยืนแอสเดรส ปรับหน้าไม้จรดลูกให้ปิด หรือเปิดแทน

    นักกอล์ฟอาชีพในทัวร์ต่างๆ ไม่มีใครใช้ไม้กอล์ฟที่เป็นมาตรฐานสเปคการผลิตจากโรงงาน (One Size Fit All) ที่วางขายตามชั้นบนห้างต่างๆครับ จะมีการตรวจเช็คหลายๆจุด และวิเคราะห์วงสวิง ความแข็งแรงร่างกาย ว่าควรมีน้ำหนักก้านเท่าไร / ความยาวก้านเท่าไร / มีองศาหน้าไม้เท่าไร / ขนาดกริ๊ปขนาดใด / รูปทรงหัวไม้ หรือใบเหล็ก อย่างไร / Lie Angle และการดีดก้านอย่างไร ต้องประกอบให้ได้สเปคตามที่ต้องการนั้น และเรื่องของวงสวิงจะมีการพัฒนาได้อย่างเป็นมาตรฐาน แต่สเปคไม้กอล์ฟไม่ควรเป็นมาตรฐานนะครับ เพราะสรีระร่างกาย / ทักษะทางกีฬา และความแข็งแรงของนักกอล์ฟแต่ละคนแตกต่างกัน

    20 กรกฎาคม 2565

    ตีไกล กับการเล่นกอล์ฟแบบลดสกอร์

    นักกอล์ฟส่วนใหญ่ยังคงติดกับความคิด หรือกับดักของคำว่า "ตีไกล" (Distance) และพยายามสรรหาไม้กอล์ฟใหม่ๆว่ารุ่นไหน หรือก้านรุ่นไหนเพื่อการ ตีไกล และเพื่มระยะให้ได้ ซึ่งเป็นจุดขายของการตลาดที่บริษัทไม้กอล์ฟทั่วไปทำกัน

    การตีไกล กับ การเล่นกอล์ฟเพื่อลดสกอร์ (Lower Score) มันจะไม่ค่อยมาด้วยกันเสมอไปนะครับ เพราะการเล่นเพื่อลดสกอร์นั้น ในทุกๆช๊อตเป็นคะแนน จากแท่นทีจนกว่าลูกกอล์ฟจะลงหลุม ซึ่งการควบคุม/แม่นยำ และสม่ำเสมอจะเข้ามาเกี่ยวข้องในทุกๆช๊อตอย่างแน่นอน ดังนั้นคำว่าตีไกลจะไม่ใช่คำตอบเดียวอย่างแน่นอนในการเล่นให้มีช๊อตตีน้อยที่สุด

    ตัวอย่างในการออกรอบ ท่านทีช๊อตด้วยไดร์ฟเวอร์ 14 หลุม (ไม่นับพาร์ 3) ได้ระยะไกลเพียง 2-3 หลุม อยู่ในแฟร์เวย์ ยังถือว่าไม้กอล์ฟนั้นตอบสนองการตีไกลในการเล่นแบบลดสกอร์หรือเปล่าครับ??... แต่นักกอล์ฟบางท่านอาจชอบก็ได้ และจดจำว่าไดร์ฟเวอร์นั้นยังตีไกลได้อยู่ แต่ไปโทษวงฯแทนในหลุมอื่นๆ ที่ไดร์ฟไม่ดี

    ซึ่งในทางกลับกัน หากไดร์ฟอยู่ในแฟร์เวย์ 11 หลุม ระยะอาจหายไปสัก 10 หลา แต่สามารถเล่นช๊อตต่อไปง่ายกว่า มี ความแม่นยำสูง (High Accuracy) และสม่ำเสมอ (Consistency) มากกว่า ท่านว่าแบบไหนที่ท่านต้องการในการเล่นแบบลดสกอร์ละครับ

    การฟิตติ้งไม้กอล์ฟ (Clubfitting) ไม่ใช่ทำไม้กอล์ฟให้ตีไกล โดยไม่พูดถึงสรีระทักษะความสามารถ และการนำไปใช้จริงของนักกอล์ฟที่แตกต่างกัน.....แต่ถ้าหากต้องการตีไกลเพียงอย่างเดียว Clubfitting ก็สามารถทำให้ได้เช่นกันนะครับ (ก้านที่ยาว / ปลายก้านที่อ่อน / น้ำหนักรวมที่เบา / องศาหน้าไม้ที่น้อยและเพิ่มขึ้น เมื่อรอการดีดสบัดก้านตอนอิมแพค)

    8 มิถุนายน 2565

    ชุดเหล็กโกงเบอร์ องศาหน้าไม้ต่างกัน แต่เบอร์เหล็กเหมือนกัน

    ชุดเหล็กโกงเบอร์ 🤔

    ⭕ มีนักกอล์ฟหลายๆท่าน และจากการพูดคุยในวงกว้างเรื่องไม้กอล์ฟ บ้างว่าชุดเหล็กจากค่ายญี่ปุ่น (JPN) นั้นตีไกลกว่าค่ายอเมริกา(USA) และทำให้นักกอล์ฟหลายท่านหันมานิยมใช้กันมาก และ บอกต่อกันไปแบบเข้าใจไม่ตรงประเด็นจริงๆ

    ⭕ ซึ่งมาจากประสบการณ์ของนักกอล์ฟเองที่เพื่อนก๊วนเดียวกัน ใช้ชุดเหล็กค่าย JPN หยิบเหล็ก 7 ตีเข้าธงระยะ 150 หลา แต่เพื่อนที่ใช้ค่าย USA กลับใช้เหล็ก 6 หรือเหล็ก 5 ด้วยซ้ำ ทำให้คิดว่าเหล็กที่ตัวเองใช้นั้นตีไกลกว่าเพื่อน และเชื่อว่าชุดเหล็กยี่ห้อนั้นดีจริง

    ⭕ จากที่ได้พบเห็น และตรวจวัดปรับแต่งไม้กอล์ฟมาหลายปีพบว่า เมื่อได้วัด องศาหน้าไม้ (Loft Angle) เช่น ปกติมาตรฐาน เหล็ก 7 มีองศา ประมาณ 33-35 องศา แต่เหล็กJPN จะมีองศาที่ต่ำกว่า คือ 27-29 องศา และที่ ใบเหล็กยังปั๊มตัวเลขว่าเป็นเหล็ก i7 (จริงๆเท่ากับ i6 หรือเกือบ i5 ด้วยซ้ำ) และความยาวก้านก็ยาวกว่าเหล็ก 7 ปกติ ถึง 0.5-1.0"

    ⭕ซึ่งนักกอล์ฟทั่วไปที่ไม่ได้คำนึงเรื่ององศาหน้าที่ไล่เรียงกันอย่างไรในชุดเหล็ก ก็ชื่นชอบพอใจกับชุดเหล็กที่ใช้ และคิดว่าเหล็กเบอร์เดียวกันตีไกลกว่าเพื่อนในก๊วนก็พอใจแล้ว หรือก็บางท่านทราบแต่รู้สึกดี แค่ต้องการผลทางจิตใจ เมื่อยืนบนแท่นที พาร์ 3 แล้วเรียกเหล็กที่สั้นกว่าเมื่อขณะที่ทีออฟ 😂😁

    =======================

    ✅ติดตามเรื่องฟิตติ้งไม้กอล์ฟน่ารู้✅

    https://youtube.com/c/TOMTOMIYACLUBFITTING

    6 มิถุนายน 2565

    ปรับวงสวิงให้เข้ากับไม้กอล์ฟ หรือ ปรับอุปกรณ์ให้เข้ากับวงฯ

    🔺 การปรับตัว / ปรับวงฯให้เข้ากับอุปกรณ์ที่ผลิตเป็นมาตรฐานโรงงาน (One Size Fit All) ซึ่งพบเห็นกันได้อยู่ทั่วไปในนักกอล์ฟสมัครเล่น และระดับโปรฯ เช่น การปรับแนวสวิง / ปรับจุดเล็ง แนวเล็ง / ปรับการยืนจรด / ปรับหน้าไม้ปิด หรือเปิด ฯลฯ

    สรีระที่ต่างกันแต่ละบุคคล
    ซึ่งสิ่งเหล่านั้นเป็นผลมาจากสเปคไม้กอล์ฟที่ไม่เหมาะสมกับตัวเอง เช่น

    ขนาดกริ๊ปใหญ่ หรือเล็กกว่าขนาดมือ จะทำให้ลูกเข้า ซ้ายหรือขวา จะพยายามชดเชยหน้าปิด/เปิดหน้าไม้ และแนวเล็งที่เปลี่ยนไป
    ความยาวก้านที่ยาวเกินไป จะชดเชยด้วยเปลี่ยนแนวเล็ง หรือ แนวสวิงให้แบน (Flat) มากขึ้น
    ▶ ความยาวก้าน กับ Lie Angle ไม่สัมพัธ์กัน หรือไม่เคยตรวจเช็ค ตีปกติอิมแพคดี ลูกจะไปซ้าย และเข้าขวาเอง ก็จะชดเชยการสวิงโดยอัตโนมัติ
    นี่ยังไม่รวมถึงสเปคก้าน / หัวไม้-ใบเหล็ก ที่มีผลกระทบต่อวงสวิงนะครับ

    🔶 สิ่งเหล่านี้นักกอล์ฟสมัครเล่น หรือแม้แต่ระดับโปรฯที่ยังไม่เข้าใจเรื่องเหล่านี้ ก็ใช้ความสามารถตนเองปรับวง ให้ชดเชยกับอุปกรณ์เองโดยไม่รู้ตัว และคิดว่าเป็นเพราะการสวิงไม่ดีเอง ทำให้การสวิงไม่เป็นอย่างที่ควรเป็น และเมือติดกับวงสวิงทีไปปรับให้เข้ากับอุปกรณ์แล้ว หากเปลี่ยนอุปกรณ์ หรือต้องการพัฒนาให้สูงขึ้นอีกระดับคงเป็นไปได้ลำบากหน่อย

    💠 ลองพิจารณาดูนะครับว่า สเปคไม้กอล์ฟที่เป็นมาตรฐานโรงงาน จะช่วยให้ท่านพัฒนาวงสวิงได้มากน้อยอย่างไร และเป้าหมายของเกมส์กอล์ฟท่านอยู่ตรงไหน

    ✅ติดตามเรื่องฟิตติ้งไม้กอล์ฟน่ารู้✅

    https://youtube.com/c/TOMTOMIYACLUBFITTING

    1 มิถุนายน 2565

    ชุดเหล็กความยาวเท่ากัน (Single Length Irons)

    มีความรู้สึกตื่นเต้นกับวงการกอล์ฟโลกที่จะมีการเปลี่ยนแปลง และยอมรับในเทคโนโลยีใหม่ในวงการ Club Fitting ของโลก ซึ่งจะทำให้ชุดเหล็กมีความยาวเท่ากัน (Single Length Irons) และมีนักกอล์ฟที่เป็นแชมป์ US Amateur 2015, Bryson DeChambeau ผู้ซึ่งนำมาใช้เป็นคนแรกในวงการกอล์ฟยุคใหม่ และในปัจจุบันเขาได้ turn pro ปี 2017 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากจบรายการ The Masters 2016 และได้เป็นนักกอล์ฟสมัครเล่นที่อันดับดีที่สุด ซึ่งหลังจาก Turn Pro ปีแรกก็สามารถคว้าแชมป์ PGA รายการ John Deer Classic 2017 เป็นรายการแรกของอาชีพอีกด้วย

    Single Length Irons
    เทคโนโลยีนี้ได้เคยกล่าวมาแล้ว เมื่อหลายปีแล้ว แต่ยังไม่ได้หยิบนำมาพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนเมื่อ 2 ปีหลังมานี้ Tom Wishon เจ้าพ่อแห่งวงการคลับฟิตติ้งในอเมริกา ได้หยิบยกขึ้นมาปัดฝุ่น และนำมาผลิตชุดเหล็กที่เป็น Single Length Irons ให้เป็นจริงในวงการ Club Fitting ซึ่งเป็นที่น่าตื่นเต้นกับเหล่าบรรดา Club Fitter ทั่วโลก และนับได้ว่าเป็นการปฏิวัติวงการกอล์ฟ ของการผลิตชุดเหล็กที่วางขายในปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง

    ข้อดีของ ชุดเหล็กที่มีความยาวเท่ากันนี้ (Single Length Irons) จะให้ประโยชน์กันนักกอล์ฟได้หลายอย่าง เช่น
    1. ความยาวก้านที่เท่ากัน ความรู้สึกสวิงเหมือนกัน (Feeling)
    2. น้ำหนักรวมไม้กอล์ฟที่เท่ากัน (Same total weight)
    3. สวิงเวท และ MOI เดียวกัน
    4. Lie Angle เดียวกัน แต่มี Loft angle ต่างกัน
    5. ทำให้มีจังหวะในการสวิงที่เหมือนกัน (Same Swing Tempo) 
    6. ทำให้เกิดมีแนวสวิงเดียวกัน (Same Swing Plane) 
    7. ตำแหน่งของการยืนจรดลูกเดียวกัน (Address Ball Position) 
    8. ความแม่นลูกจะมีมากขึ้น (Center Impact more consistency)
    9. มั่นใจขึ้นในการตีเหล็กที่องศาหน้าไม้ต่ำ หรือเหล็กยาว (Low Loft Angle)
    10. ได้ระยะไม่แต่ต่างจากแบบชุดเหล็กเดิม (Conventional Length)
    มีสวิงเพลนเดียวกัน (Same Swing Plane)
    แต่ก็จะมีข้อจำกัดบ้าง สำหรับนักกอล์ฟที่มีความเร็วหัวไม้ (Club Head Speed) ที่แต่ต่างกัน จะให้ความยาวก้านที่เท่าไรจึงจะเหมาะสม ซึ่งจำเป็นจะต้องมาทำการฟิตติ้งไม้กอล์ฟ เพื่อให้ได้ความยาว และ Lie Angle ที่ต่างกันออกไป

    ตำแหน่งลูกกอล์ฟที่เดียวกัน ตอนยืนจรดแอสเดรส







    อย่างไรก็ดี ในตลาดไม้กอล์ฟของค่ายต่างๆ กำลังจรดๆจ้องๆว่าใคร หรือแบนด์ไหน จะเป็นคนนำชุดเหล็กดังกล่าวออกมาโปรโมท หรือวางจำหน่ายต่อจากนี้ ซึ่งคงจะต้องตามหลังวงการ Club Fitting อีกอยู่ดี ก็เพราะทีม R&D ของบริษัทเหล่านั้นก็คือ Professional Club Fitter ในอเมริกาที่เป็นต้นแบบความคิดดังกล่าวนั้นเอง

    Tomiya Club Fitting เป็นหนึ่งในสมาชิก CGA, USA Club fitter ได้นำเอา Single Length Irons มาให้นักกอล์ฟชาวไทยได้เป็นเจ้าของกันแล้ว สามารถสอบถาม และทดสอบได้แล้ววันนี้ ว่าประโยชน์ที่ได้จากชุดเหล็กที่มีความยาวเท่ากันนี้ มันคุ้มค่ากับการรอคอยอย่างไร สามารถลดสกอร์ ความแม่นลูกมากขึ้น และทำให้เกมส์กอล์ฟนี้ง่ายขึ้นมากๆจริงๆ ท่านที่กำลังจะเปลี่ยนชุดเหล็ก หรือกำลังมองหาชุดเหล็กใหม่ ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง เป็นชุดเหล็กที่อินเทรด และทันสมัย สุดๆ ครับตอนนี้ และจะเป็นชุดเหล็กในอนาคตอย่างแน่นอนที่ทำให้นักกอล์ฟเล่นกอล์ฟได้ง่ายขึ้น

    ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม และเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ที่
    โทร : 086-535-5579
    Line ID : tomiyaclubfitting
    เริ่มต้นเพียง : 7,500.-/ชิ้น (รวมก้านเหล็ก+กริ๊ป+ฟิตติ้งประกอบใหม่ทั้งหมด)

                                            
    (คลิกภาพ) ชมภาพเพิ่มเติม 






    ✅ติดตามเรื่องฟิตติ้งไม้กอล์ฟน่ารู้✅

    https://youtube.com/c/TOMTOMIYACLUBFITTING

    25 พฤษภาคม 2565

    นักกอล์ฟสมัครเล่น / มือใหม่ ควรทำฟิตติ้งไม้กอล์ฟ (Club Fitting) เมื่อไรดี???

    มีนักกอล์ฟสมัครเล่นส่วนใหญ่ได้โทรมาพูดคุย และสอบถามว่าเมื่อไรควรจะทำฟิตติ้งไม้กอล์ฟ (Clubs  Fitting) เพราะได้รับข้อมูลมาว่า เวลาที่เหมาะสมในการทำฟิตติ้งไม้กอล์ฟนั้น ควรจะต้องมีวงสวิงที่นิ่งเสียก่อน หรือต้องตีกอล์ฟให้ได้คงเส้นคงวาเสียก่อน แล้วค่อยคิดที่จะทำฟิตติ้งไม้กอล์ฟ มิฉนัันแล้วจะเสียเงิน เสียเวลาเปล่า เพราะทำมาแล้วก็จะไม่ได้ประโยชน์ จะต้องมาปรับวง และปรับไม้ฯกันอีก นั้นเป็นเป็นความเข้าใจที่ยังไม่ถูกต้องนักเสียทีเดียว

    ต้องทราบเสียก่อนว่า การทำฟิตติ้งไม้กอล์ฟ หรือ Club Fitting นั้นไม่ได้มีไว้บริการเฉพาะนักกอล์ฟมือดี หรือ Touring Prof เท่านั้นครับ ซึ่งการทำ Club Fitting สำหรับนักกอล์ฟสมัครเล่น หรือมือใหม่ทั่วไปนั้น ไม่จำเป็นต้องมาดูเรื่อง อัตราสปินลูกกอล์ฟ (Spin Rate) / มุมเหิน (Launch Angle) หรือ การดัดองศาหน้าไม้ (Loft & Lie Adjustment) เพื่อให้ได้ระยะ หรือทิศทางตามต้องการ แต่นักกอล์ฟสมัครเล่น/มือใหม่ เพียงต้องการให้มีไม้กอล์ฟที่สามารถควบคุมการสวิงทุกๆครั้งให้โดนลูกกอล์ฟตรงกลางหน้าไม้ให้บ่อยที่สุด และให้ลูกลอยออกไปได้ ในทิศทางที่ต้องการ ด้วยการสวิงเข้าหาลูกกอล์ฟ ไม่ใช่การตีด้วยแขน

    สิ่งที่ควรทำ Club Fitting ให้กับนักกอล์ฟสมัครเล่น และมือใหม่ทั่วไปที่ควรคำนึง มากกว่าแค่มีไม้กอล์ฟที่เป็น Standard Spec ที่ซื้อมาจากชั้นวางขายในห้างทั่วไปก็คือ

    น้ำหนักรวมไม้กอล์ฟ (Total Weight) : ต้องมีน้ำหนักรวมที่เหมาะสม กับความสามารถ / ความแข็งแรงของร่างกาย ในแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน ที่จะสามารถควบคุมไม้กอล์ฟได้ดี ในขณะสวิง ดังนั้นก็ไม่ควรมีน้ำหนักไม้กอล์ฟมากเกินไป โดยเฉพาะมือใหม่ (น้ำหนักก้าน เป็นตัวหลักในการควบคุม น้ำหนักรวมไม้กอล์ฟ)

    ความยาวก้าน และน้ำหนักก้าน (Shaft Length & Weight) : ความยาวก้านถือเป็นตัวสำคัญที่สุด เพราะจะเป็นตัวกำหนดความแม่นยำที่จะตีโดนลูกกอล์ฟให้ตรงกลางหน้าไม้ให้ได้บ่อยครั้งที่สุด (Center Impact) เพราะส่วนใหญ่จะเน้นให้ตีได้ไกลเอาไว้ก่อน แล้วก็ผลิตไม้กอล์ฟที่มีความยาวก้านเกินกว่าที่ควรเป็น และนักกอล์ฟสมัครเล่น/มือใหม่ จะชอบชุดเหล็กที่มีก้านป็นเหล็กเสียส่วนใหญ่ จะยากต่อการพัฒนาวงสวิงให้ได้มาตรฐานได้ช้า เพราะก้านกราไฟท์ที่ดีๆก็ไม่ควรมองข้าม (ความยาวก้านที่มาก/น้อยไปมีผลต่อการสวิง ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Lie Angle ที่ทำให้มีผลต่อทิศทางการตี)

    แบบหัวไม้ & ใบเหล็ก ( Club Head Design) : การเลือกแบบของหัวไม้ หรือ ใบเหล็กก็จำเป็นไม่น้อยกว่าปัจจัยอื่น ควรมีขนาดใบ/ปริมาตร / Offset / หน้าไม้ปิด/เปิด (Face angle) / องศาหน้าไม้ และขนาดของหน้าไม้ ที่มีตำแหน่งจุดศูนย์ถ่วง (Center Gravity) ที่เหมาะสมกับความสามารถ หากเลือกหัวไม้ & ใบเหล็กตามอย่างนักกอล์ฟอาชีพ หรือตามแบบโฆษณาล่าสุด หรือเลือกเพราะต้องการขายต่อได้ราคา ก็ไม่ควรพูดถึงเรื่องวงสวิงที่ดี หรือ ฟิตติ้งเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพครับ

    ขนาดกริ๊ป (Grip Size) : ขนาดฝ่ามือของทุกคนก็จะมีขนาดที่แตกต่างกันอยู่แล้ว แต่ไม้กอล์ฟที่ซื้อมาจากชั้นวางขายนั้นมีขนาดที่เดียวเท่านั้น ไม่สามารถเลือกซื้อให้ได้พอดีกับขนาดมือที่แตกต่างกันได้ เฉกเช่นเดียวกันกับขนาดของ เบอร์รองเท้า!!!! เพราะขนาดกริ๊ปที่ไม่พอดีกับขนาดมือแล้วเป็นการยาก ที่จะควบคุมหน้าไม้ในการตีให้สแควร์ หรือพัฒนาวงสวิงให้ได้ดี อย่างตั้งใจได้ แล้วท่านรู้ไหมล่ะครับ มือท่านมีขนาดกริ๊ปเท่าไร????? ลองใช้ความรู้สึกในการเลือกขนาดกริ๊ป ก่อนตัดสินใจซื้อไม้กอล์ฟจะดีไหมครับ

    ความอ่อนแข็งก้าน และ แนวดีดก้าน ( Shaft Flex & Shaft Bend Profile) : ตามที่การผลิตไม้กอล์ฟของแต่ละบริษัท ไม่สามารถทำก้านไม้กอล์ฟที่มีความอ่อนแข็งให้ได้เหมือนกันได้ เช่น ก้านไม้ที่มี Flex R ของบริษัทหนึ่ง ก็จะมีความอ่อนแข็งไม่เหมือนกันอีกบริษัท เพราะความอ่อนก้านจะผันแปรตามความยาวก้าน และน้ำหนักหัวไม้ นอกเสียจากว่าวัดจากเครื่องดีดหาค่าความถี่ก้าน (Frequency Analyzer) หรือหาค่า CPM (Circle Per Minute) นอกจากนั้น จุดดีดที่ให้ความเสถียรที่สุดบนก้านแต่ละก้านก็จำเป็นที่ควรจะมีแนวดีดก้านที่เป็นธรรมชาติที่สุด (Neutral Bending Position) หรือ การจัดวาง Spine ก้านใหม่ (ตามที่นักกอล์ฟในบ้านเราเรียกกัน) เพราะจะทำให้ไม้กอล์ฟมีความรู้สึกการดีดเหมือนกัน และมีประสิทธิภาพสุด

    ท่านลองพิจารณาดูสิครับว่า เป็นเหตุเป็นผลหรือไม่ ที่ท่านนักกอล์ฟสมัครเล่น / มือใหม่ ยังไม่ควรทำฟิตติ้งไม้กอล์ฟ (Club Fitting) เพราะสิ่งเหล่านั้นที่กล่าวมา มีความไม่เหมาะสม หรือใกล้เคียงกับท่านแล้ว การพัฒนาวงสวิงของท่านก็ จะปรับวงเข้ากับไม้กอล์ฟ แทนที่จะปรับไม้กอล์ฟให้เข้ากับวงสวิง ใช่ไหมครับ เพราะท่านจะปรับวงสวิงของท่าน ไม่ว่าท่านจะยืนจรดเอียงๆ / หรือเล่งไปคนละทางกับทิศทางที่ต้องการ / หรือจรดเปิด / ปิด หน้าไม้ก่อนตีลูกฯออกไป เพื่อให้ตีลูกกอล์ฟให้อยู่ในแฟร์เวย์ หรือออนบนกรีน เมื่อถึงตอนนั้นวงสวิงของท่านก็ยากต่อการแก้ไขเสียแล้ว ซึ่งอาจเป็นผลมาจากเรียนวงสวิงกับโปรฯเพียงไม่กี่ชั่วโมง และมีไม้กอล์ฟที่ไม่เหมาะสม จากนั้นก็มาหัดเอง และก็ปรับวงตัวเองเข้ากับไม้ฯไปเลย

    สำหรับนักกอล์ฟมือดี หรือ อาชีพ การปรับแต่งไม้กอล์ฟ เพียงเล็กๆน้อยๆก็สามารถทำให้เขาเหล่านั้นตีลูกได้อย่างคงที่ หรือตามที่ต้องการได้ เพราะเขามีทักษะที่ดีแล้ว รู้ว่าควรจะแก้ไขตรงจุดไหนบ้างของไม้กอล์ฟให้เข้ากับตัวเขาเอง หรือสามารถบอกกับ Club Fitter ทำให้ได้ตามต้องการ ว่าต้องการอะไรกับไม้กอล์ฟที่มีอยู่นั้น เช่นให้แข็ง/อ่อน หนัก/เบา สั้น/ยาว ต้องการบอลสูง/บอลต่ำ (ซึ่งไม่เหมือนนักกอล์ฟสมัครเล่น/มือใหม่ทั่วไป) เพียงแต่ความไม่แน่นอนของเกมส์กอล์ฟ กับวงสวิงที่ไม่แน่นอนในแต่ละวันนั่นเอง

    ฟิตติ้งไม้กอล์ฟ (Club Fitting) ไม่ใช่เพียงแค่นำไม้กอล์ฟไปเปลี่ยนให้เป็นก้านใหม่เท่านั้น ก็เรียกว่าได้ทำฟิตติ้งไม้กอล์ฟแล้ว และ Club Fitting ก็ไม่ได้มีเอาไว้เพื่อนักกอล์ฟมือดีอย่างเดียวใช่ไหมล่ะครับ สอบถาม Professional Club Fitting ที่ไม่ยึดติด หรือขายไม้กอล์ฟที่เป็นมาตรฐานโรงงาน (Standard Spec) จะให้คำตอบที่ตรงประเด็น และใกล้เคียงกับความต้องการของนักกอล์ฟในทุกๆระดับฝีมือได้ดีที่สุดครับ

    ✅ติดตามเรื่องฟิตติ้งไม้กอล์ฟน่ารู้✅

    https://youtube.com/c/TOMTOMIYACLUBFITTING

    18 พฤษภาคม 2565

    กอล์ฟไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่ต้องการจะเล่น

    🔷 กอล์ฟเป็นกีฬาที่เล่นไม่ง่าย ซึ่งหากใครอยากจะเล่นแล้ว ใช่ว่าจะสามารถซื้อไม้กอล์ฟแล้วไปออกรอบได้เลยทันที เพราะต้องมีเข้าใจ และฝึกฝนในแต่ละขั้นตอนของมัน เช่น รู้จักวงสวิง / รู้จักอุปกรณ์ และการใช้งาน / รู้จักกฏกติกา และมารยาทในการเล่น / รู้จักอดทนฝึกฝนวงสวิงจนตีได้ในแต่ละระดับ ฯลฯ ซึ่งพูดได้ว่า "กอล์ฟไม่มีทางลัดในการเล่น"

    🔶แต่กอล์ฟก็เป็นกีฬาที่มีเสน่ห์น่าหลงใหล หากใครได้ตั้งใจ และตัดสินใจเข้ามาเล่นแล้ว และสามารถเข้าถึงระดับหนึ่งของมัน กีฬากอล์ฟจะให้อะไรๆหลายๆอย่างกับคุณมากกว่าที่คิด ซึ่งไม่สามารถพบได้ในกีฬาประเภทอื่นอย่างแน่นอนครับ หากคุณไม่ล้มเลิก หรือ หมดความพยายามเสียก่อน เพราะว่าเล่นกอล์ฟมาแล้วไม่มีการพัฒนาเกมส์กอล์ฟได้ดีขึ้นเลย

    🔷กอล์ฟมีทั้งวันที่ตีดี และตีไม่ได้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ และเป็นธรรมชาติของมัน ซึ่งกีฬากอล์ฟไม่ได้ใช้เพียง ทักษะทางด้านร่างกาย (Physical Skill) เพียงอย่างเดียวแล้วคิดว่าจะเล่นได้ดีในวันแข่งขันได้ แต่หาก ทางด้านจิตใจและความคิด (Mental Skill) ไม่ได้ฝึกฝน และสามารถควบคุมให้เข้ากับร่างกายได้ในแต่ละวัน ก็อย่าคิดว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายได้ในการเล่นได้ดี

    วงสวิง กับ อุปกรณ์ ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง !!!!!!
    🔶เพราะฉนั้นในวันที่คุณเล่นดี คุณคิดว่ามันเป็นเพราะอะไร และหากในวันที่คุณเล่นไม่ดี ทำสกอร์ไม่ได้ในช๊อตที่สำคัญ คุณคิดว่ามันเป็นเพราะอะไร สิ่งเหล่านี้มันยังคงอยู่ในใจ ในความคิดนักกอล์ฟทุกๆคนตลอดการเล่นกอล์ฟ แล้วแต่ว่าคุณมีแนวทางทางความคิด (Mental Guideline) ที่ดีที่ถูกต้องอย่างไร?? ที่สามารถตัดปัญหาในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป แล้วคุณก็จะทราบว่าปัญหาที่ควรจะแก้ไข คืออะไร เป็นเพราะ เรื่องของวงสวิง / เรื่องเกมส์แพลน / เรื่องจิตใจความกังวล หรือ เรื่องของอุปกรณ์


    ❎ ซึ่งนักกอล์ฟหลายคนอาจคิดเสียเองว่าเป็นเพราะตัวเองสวิงไม่ดีทำให้เป็นแบบนี้ หรืออาจจะเป็นเพราะอุปกรณ์แน่ๆ รุ่นใหม่กว่า เพิ่งวางจำหน่ายน่าจะตีได้ดีกว่าไกลกว่าอย่างแน่นอน ก็ยังสับสนว่าจะเปลี่ยนอุปกรณ์ หรือจะปรับวงสวิงดี ซึ่งสิ่งวกังวลใจดังกล่าวนี้ ยังคงเป็นปัญหาเรื่องพื้นฐานของนักกอล์ฟทั่วไปที่ยังสรุปไม่ได้ เพื่อที่จะพัฒนาเกมส์กอล์ฟให้ก้าวขึ้นไปอีกระดับต่อไป

    14 เมษายน 2565

    การเปลี่ยนอุปกรณ์ไม้กอล์ฟควรมีเป้าหมายในการพัฒนาวงสวิง

    คนที่ตัดสินใจเล่นกอล์ฟส่วนใหญ่ มีความต้องการที่จะพัฒนาฝีมือตนเองในเกมส์กอล์ฟให้ดีขึ้นๆ ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มจับไม้กอล์ฟ จนถึงวันที่จะก้าวเป็นระดับอาชีพ เพราะกอล์ฟเป็นกีฬาที่เล่นยาก แต่ถ้าได้เล่นถึงจุดหนึ่งแล้วคุณจะรักมันอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะกีฬากอล์ฟมันมีเสน่ห์ และให้อะไรๆคุณได้หลายๆอย่างมากกว่าเกมส์กีฬา

    ปรับวงสวิงให้เข้ากับไม้กอล์ฟ

    🔶 กีฬากอล์ฟเป็นกีฬาที่ต่างจากกีฬาประเภทอื่นๆอย่างมาก ซึ่งมันไม่ได้มีอุปกรณ์ในการเล่นเพียงแค่ 1 หรือ 2 ชิ้น แต่มีให้ใช้ถึง 14 ชิ้นด้วยกัน ขนาดลูก กับขนาดหน้าไม้ก็ต่างกันไม่มาก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องเข้าใจการเล่น และการเลือกใช้อุปกรณ์ในแต่ละสถานการณ์ที่แตกต่างกันให้เป็น และเหมาะสมถูกวิธี

    🔺 หลายคนสับสนระหว่างอุปกรณ์กับวงสวิง ในทุกๆครั้งที่เกิดความผิดพลาด หรือไม่พอใจในผลงานตัวเอง ก็จะพยายามเปลี่ยน/ปรับวงสวิง หรือไม่ก็เปลี่ยนอุปกรณ์ไปเลยง่ายกว่า โดยเฉพาะมือสมัครเล่นที่ไม่รู้สาเหตุว่าเพราะอะไรเหมือนการเสี่ยงโชคไปเรื่อยๆ ซึ่งต่างจากมืออาชีพนั้นจะมีโค้ชดูแล ทั้งทางด้านวงสวิง และอุปกรณ์อย่างใกล้ชิด

    ปรับไม้กอล์ฟให้เข้ากับวงสวิง

    อุปกรณ์สามารถปรับเปลี่ยนได้รวดเร็วทันใจ แต่การเปลี่ยน/ปรับวงสวิงนั้นต้องใช้เวลา มือสมัครเล่นจึงเลือกเปลี่ยนอุปกรณ์เสียมากกว่า และ ส่วนใหญ่จะปรับวงสวิงตัวเองให้เข้ากับไม้กอล์ฟ จะไม่ค่อยพบการปรับไม้กอล์ฟให้เข้ากับตัวเอง หรืออาจเป็นเพราะยังไม่รู้และเข้าใจ ซึ่งไม้กอล์ฟส่วนใหญ่จำหน่ายแต่สเปคมาตราฐานโรงงาน ก็จะไม่พบปัญหาของตัวเองว่าเพราะเหตุใด

    🆗 ระดับอาชีพ นั้นมีสเปคอุปกรณ์ที่ทำมาให้เหมาะเฉพาะตัวที่ต้องการ ซึ่งไม่ต้องกังวลในส่วนนั้นแล้ว เพียงมาใส่ใจเรื่องวงสวิงให้มากขึ้น แต่ถึงแม้อุปกรณ์เดิมที่ดูมาอย่างดีแล้ว ก็ยังมีตกรอบได้ แม้วันแรกตีดีอยู่หน้าแรกของผู้นำ ก็ควรกลับมาซ้อมกับอุปกรณ์เดิมนั้นให้มากขึ้นมากกว่าเปลี่ยนอุปกรณ์ไปเรื่อยๆนะครับ

    ✅ติดตามเรื่องฟิตติ้งไม้กอล์ฟน่ารู้✅

    https://youtube.com/c/TOMTOMIYACLUBFITTING

    22 มีนาคม 2565

    ฟิตติ้งไม้กอล์ฟเป็นส่วนที่จำเป็นน้อยที่สุด สำหรับมือใหม่อย่างไร

    ⭕ เชื่อไหมครับว่า..ไม้กอล์ฟนั้นมีส่วนน้อยมากที่มีผลต่อเกมส์กอล์ฟประมาณ 30% เท่านั้น ส่วนวงสวิงและเกมส์ความคิดเป็นส่วนสำคัญหลัก ถึง 70% หรือมากกว่า ถึงแม้ว่าอุปกรณ์มีส่วนน้อย แต่ก็เป็นส่วนที่นักกอล์ฟให้ความสนใจกันมากที่ ต้องการจะมีและตามหาสเปคไม้กอล์ฟที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด

    สเปคไม้กอล์ฟที่ OEM ตอบให้นักกอล์ฟทุกคนไม่ได้
    ⭕ มีหลายๆคนพูดว่า มีวงสวิงให้ดีก่อนแล้วค่อยตามหาสเปคไม้กอล์ฟ หรือค่อยทำฟิตติ้งไม้กอล์ฟ แต่ถ้าหากมองอีกมุมหนึ่ง กว่าจะมีวงสวิงที่ดีจะต้องมีสเปคอุปกรณ์ที่สนับสนุนในการพัฒนาวงสวิงให้ดีด้วย เพราะนักกอล์ฟมือใหม่ หรือสมัครเล่นทั่วไปไม่มีความสามารถเหมือน บรรดาโปรฯกอล์ฟที่สามารถใช้ไม้กอล์ฟสเปคอะไรก็ได้ และสามารถออกรอบและทำสกอร์ดีได้..ใช่ไหมครับ? แต่มือใหม่หรือมือสมัครเล่นกลับตรงกันข้าม !!!!!

    หากวงสวิงยังไม่ดีแล้วแถมยังไม่รู้ว่าใช้สเปคไม้กอล์ฟแบบไหนเพื่อนำไปฝึกซ้อม ก็เท่ากับว่าในส่วนของอุปกรณ์ 30% แทนที่จะเพิ่ม หรือไปส่งเสริมวงสวิง แต่กลับไปบั่นทอนหรือลดลงไปอีกจาก 70% ซึ่งจะทำให้ไม่เกิดการพัฒนาวงสวิงที่ดีขึ้นได้ซ้ำแย่ลง ซึ่งมือสมัครเล่นวงสวิงดีบ้างไม่ดีบ้าง ไม่เหมือนกับพวกโปรฯอยู่แล้วที่ใช้สเปคอะไรก็ตีได้ แต่เขายังต้องการมีสเปคไม้ที่ฟิตติ้งมาเหมาะสมและถูกใจที่สุด

    ⭕ ก็ลองนำไปพิจารณาดูนะครับว่า ควรหรือไม่ควรอย่างไร และจำเป็นไหมที่ต้องให้ความสนใจและใส่ใจในอุปกรณ์กอล์ฟ ก็เพราะว่าวิธีคิดที่ถูกต้อง (Mental Fitness) จะนำพาไปสู่เกมส์ที่พัฒนาขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ เพราะกีฬากอล์ฟไม่ใช่กีฬาที่เล่นให้ดีได้ง่ายๆครับ แต่หากเล่นได้ดีแล้วมันจะบอกคุณเองว่ากีฬากอล์ฟมันมีเสน่ห์มากเพียงใด

    ✅ติดตามเรื่องฟิตติ้งไม้กอล์ฟน่ารู้✅

    21 กุมภาพันธ์ 2565

    เปลี่ยนสเปคไม้กอล์ฟกอล์ฟบ่อยครั้งให้อะไรกับคุณบ้าง

    กีฬากอล์ฟ เป็นเรื่องของการใช้ความจำกล้ามเนื้อ (Memory Muscle) ซึ่งเป็นการฝึกฝนปฏิบัติซ้ำๆในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เมื่อทำเช่นนั้นแล้วจะเกิดการตอบสนองกล้ามเนื้อเป็นอัตโนมัติ สังเกตง่ายๆคือ เมื่อไรก็ตามมีการเปลี่ยนวงสวิง หรือเรียนรู้วงสวิงใหม่ ต้องมีการฝึกฝน อย่างต่อเนื่องแล้วกล้ามเนื้อ และกลไกจะจดจำ และทำงานอย่างเป็นอัตโนมัติ หรือท่าน หรือแม้กระทั่งทัวร์โปรฯ เปลี่ยนวงสวิงใหม่ ก็จำเป็นต้องใช้เวลาสักระยะหนี่ง แล้วแต่ความสามารถในการจดจำกล้ามเนื้อของแต่ละคนที่แตกต่างกัน

    เช่นเดียวกัน เมื่อไรก็ตามที่ท่านได้เปลี่ยนสเปคไม้กอล์ฟ ซึ่งเคยใช้มาเป็นระยะเวลานานพอสมควร กล้ามเนื้อของท่านก็จะจำ และปฏิบัติวงสวิง และสเปคไม้กอล์ฟนั้นๆ และเมื่อเวลาได้ไม้กอล์ฟสเปคใหม่ ซึ่งต่างไปจากเดิม ท่านก็จำเป็นต้องปรับกลไกของกล้ามเนื้อให้คุ้นเคย ในสเปคไม้กอล์ฟใหม่ กับวงสวิง / จังหวะสวิงเดิมที่เป็นอยู่ เพื่อที่ให้มีความสัมพันธ์สอดคล้องกัน ระยะเวลาก็จะเข้ามาเป็นตัวบ่งบอกทักษะความสามารถของท่านว่าจะทำได้เร็ว หรือช้า

    ดังนั้น....การเปลี่ยนสเปคไม้กอล์ฟใหม่เมื่อไรก็ตาม ควรปรึกษา Professional Club Fitter ให้ได้สเปคไม้กอล์ฟเพื่อตอบสนองวงสวิงให้ได้มีประสิทธิภาพสูงสุด และควรใช้เวลาคุ้นเคยกับสเปคนั้นในระยะเวลาหนึ่งจนความจำกล้ามเนื้อตอบสนอง และในทางกลับกัน นักกอล์ฟที่เปลี่ยนสเปคบ่อยๆ ความจำกล้ามเนื้อก็จะเกิดอาการสับสน ลังเล ไม่รู้ว่าสเปคไหนจะเหมาะและนำมาฝึกฝนพัฒนาวงสวิงได้ดีขึ้นได้

    ผมเคยกล่าวในบทความก่อนๆมาแล้วว่า ไม้กอล์ฟที่ไม่เหมาะสม อาจเปลี่ยนวงสวิงไปในทางลบได้ เช่นไม้กอล์ฟสเปคที่ เบาไป / หนักไป / อ่อนไป / แข็งไป หรือ สั้นไป / ยาวไป มีผลต่อวงสวิง และความจำของกล้ามเนื้อ / การเล็ง / การยืดจรดแอสเดรส / จังหวะดาวสวิง / อัพสวิง และการสเวของ ร่างกาย อย่างแน่นอนครับ ปรับไม้ฯเข้ากับวงสวิง หรือจะปรับวงสวิงให้เข้ากับไม้ฯ อันไหนน่าจะดีกว่ากันครับ

    ที่กล่าวมานั้น การเปลี่ยนสเปคไม้กอล์ฟ หรือ ฟิตติ้งไม้กอล์ฟ ไม่ใช่เพียงแค่เปลี่ยนก้านไม้กอล์ฟรุ่นใหม่ๆออกมาเท่านั้น ก็เรียกว่าได้ทำ ฟิตติ้งมาแล้ว ซึ่งการฟิตติ้งไม้กอล์ฟยังมีรายละเอียดมากกว่านั้นครับ ต้องพูดคุยข้อมูลของนักกอล์ฟที่มีอยู่ / เช็ควงสวิง และทักษะความสามารถ รวมถึงสรีะร่างกาย การฟิตซ้อม และนำมาสรุปวิเคราะห์ให้ได้สเปคไม้กอล์ฟที่เหมาะสม และใกล้เคียงกับนักกอล์ฟให้มากที่สุด สิ่งเหล่านี้ ไม่ได้นำแบนด์ หรือยี่ห้อ หรือสีสรรของไม้กอล์ฟเข้ามาเกี่ยวข้องใดเลย

    ✅ติดตามเรื่องฟิตติ้งไม้กอล์ฟน่ารู้✅

    https://youtube.com/c/TOMTOMIYACLUBFITTING

    10 มกราคม 2565

    การเปลี่ยนอุปกรณ์ หรือสเปคไม้ฯควรมีเป้าหมายที่ชัดเจน

    💢 การเปลี่ยนสเปคอุปกรณ์ไม้กอล์ฟบ่อย  และเปลี่ยนแบบไร้เป้าหมาย (ลองไปเรื่อย) ไม่ส่งผลดีต่อวงสวิงเลย ซึ่งจะทำให้จังหวะสวิง (Swing Tempo) เพี้ยนไปได้ เพราะ กีฬากอล์ฟเป็นทักษะกีฬาของความจำกล้ามเนื้อ (Memory Muscle) ที่ต้องคุ้นชิน กับอุปกรณ์นั้นๆมาระยะเวลาหนึ่ง จึงสามารถจับจังหวะ และควบคุมเล่นชองสเปคไม้ฯได้ ให้มีความผิดพลาดน้อยที่สุด ซึ่งแม้แต่บรรดาทัวร์โปรฯก็ตาม เมื่อสปอนเซอร์ไม้กอล์ฟออกรุ่นใหม่ๆมาให้ใช้  ก็ยังต้องใช้เวลาฝึกซ้อมสักระยะจึงค่อยนำมาใช้แข่งขันจริงเลยครับ


    💢 ดังนั้นเมื่อใดหากท่านต้องการเปลี่ยนอุปกรณ์ หรือสเปคไม้กอล์ฟ ก็ควรมีเป้าหมาย ในเรื่อง สเปคของตัวเองที่ต้องการจริงๆ หรือควรต้องมีข้อมูลในทางฟิตติ้งไม้กอล์ฟ (Clubs Fitting) เช่น ความเร็วหัวไม้ / น้ำหนักรวมไม้ฯ / น้ำหนักก้าน / แนวดีดก้าน / ความอ่อนแข็งตลอดก้าน / ขนาดกริ๊ป  / สวิงเวท / ความยาวก้าน / ขนาดหัวไม้ / องศาหน้าไม้ / จุดศูนย์ถ่วง และรูปทรงของหัวไม้ใบเหล็กแบบไหน รวมถึงการประกอบไม้ฯที่ให้ได้สเปคที่เหมาะที่สุดสำหรับตัวเอง

    💢 การเลือกเปลี่ยนแค่เพียงคำโฆษณา หรือรุ่นใหม่ๆ หรือแบรนด์ที่รู้จักต่างๆ ควรค้นหาและเรียนรู้ว่าอะไรคือสเปคของตัวเอง ว่าทักษะการสวิงของตัวเองจริงๆเป็นอย่างไร หรือ สเปคไม้ฯที่ใช้อยู่มีจุดอ่อนจุดแข็งอย่างไร ควรเลือกปรับเปลี่ยนส่วนไหน เช่น ไดร์ฟเวอร์+แฟร์เวย์ / ไฮบริด กับชุดเหล็ก และชุด เวดจ์ ควรจะต้องมีสเปคที่มีความสัมพันธ์กัน ไม่ควรเลือกเปลี่ยนอย่างใดอย่างหนึ่งโดยไม่คำนึงถึงอุปกรณ์ข้างเคียงที่เหลือว่าจะมีผลกระทบหรือไม่อย่างไร เช่น Driver/Fairway Woods มีสเปคไล่เรียงกัน และควรสัมพันธ์กับสเปคในชุดเหล็กอีกด้วย ซึ่งจะมีผลทำให้จังหวะการสวิงนั้น ออกมาคล้ายๆหรือใกล้เคียงที่สุด

    💢 ควรเลือกเปลี่ยน หรือ ปรับแต่งอุปกรณ์อย่างมีเป้าหมายว่า เพราะเหตุใดที่ต้องการเปลี่ยน แล้วจะหาสเปคอุปกรณ์แบบไหนที่จะมาส่งเสริมการสวิงให้ดีขึ้นกว่าเดิมเพราะอะไร ซึงหากเปลี่ยนสเปคชุดหัวไม้ก็ควรมีสเปคที่ทำให้จังหวะการสวิงไม่เปลี่ยนจากเดิม ที่จะทำให้การเปลี่ยนอุปกรณ์ในครั้งนั้นให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นมากที่สุด

    🔺 ข้อมูลเรื่องฟิตติ้งไม้กอล์ฟ 🔺

    https://tomiyaclubfitting.blogspot.com/?m=1

    ================================

    https://youtube.com/c/TOMTOMIYACLUBFITTING

    ================================

    24 ธันวาคม 2564

    การเลือกไดร์ฟเวอร์ที่ควรพิจารณา

    ⭕ ส่วนใหญ่นักกอล์ฟสมัครเล่นทั่วไป จะคิดว่าใช้ไดร์ฟเวอร์ที่มี องศาหน้าไม้ที่ต่ำ (Low Loft Angle) และมี ความยาวก้านที่ยาวขึ้น (Long Shaft Length) นั้นจะทำให้ได้ระยะที่ไกลขึ้น ซึ่งถ้าหากท่านเป็นนักกอล์ฟที่มีทักษะจังหวะการสวิงที่ราบเรียบแม่นยำ และความเร็วหัวไม้ ที่เฉลี่ยมากกว่า 95+Mph ด้วยพร้อมกัน จึงค่อยนำปัจจัยดังกล่าวมาพิจารณากันครับ

    ⭕ ถ้าความยาวก้านไม้กอล์ฟที่ยาวเกินกว่าทักษะความสามารถ และสรีระของตัวเอง จะทำให้ขาดความแม่นยำในการตีลูกกอล์ฟให้เข้ากลางหน้าไม้ (Solid Impact) ได้บ่อยๆครั้ง เพราะจะทำให้แนวอัพสวิง (Up Swing Path) นั้นเป็นมุมแบน (Flat) กว่าปกติ เพราะจะไม่ทำให้เกิดการตีหลังลูกฯได้ง่าย และนักกอล์ฟจะชดเชยด้วยการ เปลี่ยนแนวการเล็ง หรือ เปลี่ยนการยืนจรดที่ไม่ปกติ เพื่อตีลูกให้ได้บ้าง เกิด Side Spin ง่าย ไม่ได้ระยะ และความแม่นยำที่ไม่สม่ำเสมอที่ควรเป็น

    ⭕ การมีองศาหน้าไม้ที่ต่ำเพื่อคาดหวังว่า จะมีมุมเหินที่ต่ำ (Low Launch Angle) ที่จะทำให้ลูกกอล์ฟตกแล้ววิ่งต่อไปอีก เพื่อได้ระยะที่เพิ่มขึ้นนั้น ซึ่งจะไม่เหมาะสมกับนักกอล์ฟที่มีความเร็วหัวไม้ที่ต่ำ และหากมีความยาวก้านฯที่ยาวเกินไปด้วย ก็จะทำให้มีมุมเข้าบอลเป็นมุมกด ที่จะไม่ช่วยในการยกตัวของลูกกอล์ฟที่มีสปินเรทที่ต่ำเพื่อให้ได้ระยะ และยังขาดความแม่นยำในการควบคุมทิศทางตามมาอีกด้วย

    ⭕ อุปกรณ์ในกีฬากอล์ฟที่ไม่เหมาะสมกับสรีระ และความสามารถ จะทำให้เปลี่ยนวงสวิงเพื่อให้เข้ากับอุปกรณ์โดยไม่รู้ตัว และจะมีความจำของกล้ามเนื้อแบบนั้นกับอุปกรณ์นั้นๆ หรือสับสนกับอุปกรณ์ที่เป็น จับฉ่ายหลายหลากสเปคในชุดไม้กอล์ฟที่ใช้อยู่ ที่ตัวนักกอล์ฟเองก็คาดไม่ถึงแบบไม่ได้ตั้งใจให้เป็นก็ได้ครับ

    18 ตุลาคม 2564

    ความผิดพลาดในชุดเหล็ก ที่ตำแหน่งจรดบอล และแนวสวิงที่เปลี่ยนไป

     ⭕ สิ่งหนึ่งของ ความผิดพลาดบ่อยครั้งของเกมส์กอล์ฟในชุดเหล็ก ที่นักกอล์ฟทั่วๆไปมองข้าม และคิดเป็นเพราะความผิดของวงสวิง หรือเป็นเพราะสเปคชุดเหล็กนั้นไม่ดี ไม่เหมาะสมกับตัวเอง ที่ทำให้ตีบอลได้ไม่หนักแน่น (Solid Impact) หรือขาดการควบคุมไม่ได้ระยะที่ควรได้

    ⭕ คือ ตำแหน่งจรดบอล (Ball Position) และ มีหลายแนวสวิง (Many Swing Path) ที่เปลี่ยนไปของในทุกๆเหล็ก เนื่องจากความยาวก้านฯของแต่ละเหล็กมีความยาวที่ไม่เท่ากัน ที่ เป็นสาเหตุทำให้เกิดความสับสน ว่า การที่ตีบอลในชุดเหล็กในช๊อตขึ้นกรีนที่ต้องการความแม่นยำ ซึ่งหลายๆครั้งก็หาเหตุผลที่แน่นอนไม่ได้ ว่าควรจะแก้ไขที่จุดไหนดี? ที่วงสวิง หรือเปลี่ยนอุปกรณ์ดี😅

    ⭕ ชุดเหล็กความยาวเท่ากัน (Single Length Irons) จึงเป็นทางออกในเกมส์กอล์ฟที่สามารถลบปัญหาที่จุดนี้ได้อย่างชัดเจน เพราะ หากเกิดความผิดพลาดก็จะไม่เกี่ยวกับสเปคไม้ฯอย่างแน่นอน เพราะตำแหน่งบอล หรือแนวสวิงมีแบบเดียว ก็จะไปแก้ไขที่วงสวิงที่ผิดเพี้ยนนั่นเอง ไม่สับสนในการแก้ปัญหาวนไปวนมาแบบที่เคยเป็น

    ⭕ นอกจากมีความยาวก้านที่เท่ากันแล้ว ที่ทำให้มีตำแหน่งจรดบอล และแนวสวิงที่เหมือนกันแล้ว ยังมีสเปคอื่นที่เหมือนกันอีก เช่น น้ำหนักรวมไม้ฯ / Lie Angle / สวิงเวท / MOI value ซึ่ง จะส่งเสริมและพัฒนาวงสวิงให้มีความจดจำกล้ามเนื้อ (Muscle Memory) ของทุกๆเหล็กให้ดีขึ้น ไม่ว่าเหล็กยาว หรือเหล็กสั้น จะให้ความรู้สึกในการสวิงที่เหมือนกันจริงๆ ที่ชุดเหล็กแบบเดิมๆไม่สามารถให้กับนักกอล์ฟได้

    รายละเอียดชุดเหล็กความยาวเท่ากัน

    https://tomiyaclubfitting.blogspot.com/2016/04/sterling-single-length-irons.html?m=1

    https://tomiyaclubfitting.blogspot.com/2020/05/blog-post.html?m=1

    ✅ ทาง You Tube Channel

    https://youtu.be/6htXEA_tnEs


    7 ตุลาคม 2564

    เป็นเพราะวงสวิง หรือ เป็นเพราะอุปกรณ์กันแน่?

    ⭕ มีอยู่ 2 เหตุผลที่ทำให้ผลงานออกมาแบบนี้ (ดังภาพ) คือ เป็นเพราะ วงสวิงไม่ดี หรือเป็นเพราะ สเปคไม้ฯไม่เหมาะสมกับตัวเอง🏌🛠

    ⭕ ซึ่งการแก้ไขเป็นไปได้ 2 แบบ ซึ่งจำเป็นต้องมีการ วิเคราะห์เห็นวงสวิง และ ตรวจสอบสเปคไม้ฯไปพร้อมๆกัน ว่าเป็นอย่างไร แล้วจึงจะสรุปแนวทางการแก้ไขได้อย่างถูกต้องและใกล้เคียงที่สุด✅

    ⭕ไม่ใช่เพียงแค่เห็นภาพ หรือยี่ห้อ/รุ่นหัวไม้ หรือสเปคก้านไม้ฯ แล้วหากสรุปการแก้ไขปัญหานั้นอาจจะไม่ถูกต้องครบถ้วน และไม่ตรงประเด็นในการพัฒนาเกมส์กอล์ฟได้⛳

    ✅เพิ่มเติมเรื่องฟิตติ้งไม้กอล์ฟ

    https://tomiyaclubfitting.blogspot.com/?m=1

    https://youtube.com/c/TOMTOMIYACLUBFITTING


    11 กันยายน 2564

    สปินเรท(Spin Rate)ที่ต้องการลด หรือเพิ่มเพื่อประโยชน์การเพิ่มระยะ

    💢 การลดสปินเรทในไดร์ฟเวอร์นั้น ส่วนใหญ่นิยมทำในคนที่มี Club Speed ที่สูงกว่า>95mph มากกว่าที่จะทำในคนที่มีสปีดต่ำ<90mph เพราะ Clubspeed ที่สูง/เร็วขึ้น จะสร้างอัตราการสปินบนลูกกอล์ฟสูงตามไปด้วย ซึ่งจะทำให้ลูกกอล์ฟลอยยกตัวสูงขึ้นเป็นมุมเหิน (Launch Angle) และหากมีมุมเหินที่สูงเกินไปจะมีผลเสียต่อระยะที่ได้มา จึงจำเป็นต้องลดลงมุมเหิน หรือลดสปินเรทเพื่อให้เกิดระยะที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด

    🌸 ตรงกันข้ามกับผู้ที่มี Clubspeed ที่ต่ำ = ลูกไม่ค่อยลอย/การยกตัวน้อย/สปินเรทต่ำ ควรต้องการเพิ่มการยกตัวลูกกอล์ฟ ให้มีมุมเหิน และสปินเรทที่ดีมาพร้อมกันด้วย

    💢 การลดสปินเรท ทั่วๆไปมี 2 วิธี

    1. ในอุปกรณ์ โดย เพิ่มมวลไม้กอล์ฟ / เพิ่มน้ำหนักก้าน / เพิ่มความแข็งก้าน หรือลดองศาหน้าไม้ ซึ่งไม่ควรนำไปใช้กับคนที่มี Clubspeed ต่ำ #เพราะจะได้ผลออกมาในทางตรงกันข้าม

    2. ในวงสวิง โดย เพิ่มมุมปะทะบอล ( Ascending Attack Angle) ให้เป็นมุมเสย (+5องศา) และควบคุมองศาหน้าไม้ขณะปะทะลูก (Dynamic Loft Angle) เพื่อลด Spin Loft ซึ่งสิ่งนี้อาจจะมีปัญหาที่ต้องปรับวงสวิงใหม่ และใช้เวลาฝึกนาน สำหรับมือสมัครเล่นทั่วไป และจะมีความยากมากขึ้น หากใช้ไดร์ฟเวอร์ที่ฝึกซ้อม มีความยาวก้านที่ยาวเกินไปกว่าสรีระ และองศาหน้าไม้ที่ต่ำกว่าความสามารถตัวเอง

    💢 มากกว่า 90% ของผู้ที่มี Clubspeed ต่ำ จะมีไดร์ฟเวอร์ที่มีความยาวก้านยาวเกินไป (เพราะคิดว่าจะเพิ่มระยะด้วย Clubspeed ที่เพิ่มขึ้น) และ มีองศาหน้าไม้ที่ต่ำอีกด้วย เพื่อต้องการให้มีมุมเหินที่ต่ำ หรือเพื่อต้องการให้ลูกฯตกพื้นแล้วจะได้วิ่งต่อ เพราะคิดว่านั่นเป็นที่มาของระยะที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจจะไม่ตรงประเด็นนัก

    💢 ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่ในความยาวก้านที่ยาวและองศาหน้าต่ำ จะทำให้ความแม่นยำลดลง และ/หรือ มีสปินเรทที่สูงเกินไป ที่เป็นผลมาจากมุมปะทะลูกเป็นมุมกดง่ายกว่า (Desending Attack Angle) และทำให้มีแนวอัพสวิงแบน (Flat) เกิดสปินเรท/สปินลอฟท์มากเกินไป (More Spin Loft/Rate) ตกแล้วหยุด หรือถอยกลับอีกด้วยซ้ำ ไม่เป็นที่มาของระยะที่ควรได้ควรเป็น

    💢 ดังนั้นการเกิดสปินเรท หรือการลดสปินเรท เพื่อเป็นประโยชน์ที่การเพิ่มระยะนั้น ต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆที่เกี่ยวข้องด้วย เช่น ความเร็วหัวไม้ (Club Speed)  และทักษะความสามารถในการสวิง เพราะปัจจัยที่ทำให้ต้องลดสปินเรทให้อยู่ในอัตราที่ดีที่สุด มิฉนั้นแล้วเป็นการลดปัญหาอย่างหนึ่ง แต่กลับไปเพิ่มปัญหาอีกอย่างหนึ่งได้ ก็เท่ากับไม่ได้ช่วยให้เกิดผลดีต่อเกมส์กอล์ฟที่ต้องการลดสกอร์อย่างแท้จริง

    24 สิงหาคม 2564

    ก้านไม้กอล์ฟที่ยาวขึ้นนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงหรือ ?

    🔷 ไม้กอล์ฟที่มีก้านยาวขึ้นๆ ไล่ระดับกันในถุงกอล์ฟนั้น จะเป็นไม้กอล์ฟที่มีความยากขึ้นเรื่อยๆด้วยเช่นกัน ในการควบคุมการตีลูกกอล์ฟให้ได้เข้ากลางหน้าไม้ (Center Impact) ได้บ่อยครั้ง ยังยากต่อการสแควร์หน้าไม้ในขณะอิมแพค และยังยากต่อจุดเป้าหมายที่เล็งไว้ ซึ่งสรุปได้ว่าจะมีความผิดพลาดมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อความยาวก้านยาวเพิ่มขึ้น

    🔶 ตัวอย่างเช่นในชุดเหล็ก ซึ่งคนเล่นกอล์ฟมาแล้วระดับหนึ่งแล้ว จะไม่ชอบ และไม่มั่นใจในการตีเหล็กที่มีความยาวเพิ่มขึ้น เช่น เหล็กยาว /เหล็ก 4,5 และก็พบได้ว่า ชุดเหล็กที่ออกวางจำหน่ายในปัจจุบันส่วนใหญ่ พยายามจะไม่ผลิตเหล็ก 4 มาเข้าในชุดเหล็กด้วย และบางยี่ห้อชุดเหล็กที่มีก้านยาวที่สุด ก็มีแค่เพียงเหล็ก 5 เท่านั้นเอง เพราะผู้ผลิตรู้ว่า จะไม่ได้รับความนิยม ทำให้ต้นทุนการผลิตสูง / ราคาสูง ทำให้ยอดขายต่ำ

    ก้านยาวขึ้นตีไกลขึ้นเพื่อแข่งลดสกอร์ ??


    🔷 และท่านเคยสงสัยไหมครับว่า ความยาวในไม้กอล์ฟที่ยาวที่สุดในถุงกอล์ฟ คือ ไดร์ฟเวอร์ กลับผลิต และทำให้มีความยาวก้านให้ยาวขึ้นๆ ซึ่งทำให้นักกอล์ฟ และ ช่างไม้กอล์ฟส่วนใหญ่ก็พากันซีเรียส กับไอ้ความยาวก้านไดร์ฟเวอร์นี่มากๆเสียด้วย ว่าหากความยาวที่สั้นลงจะทำให้ ตีแล้วไม่ได้ระยะ และต่างพากันทำก้านไดร์ฟเวอร์ให้ออกมายาวขึ้น และยาวขึ้น ซึ่งผิดกับสเปคของชุดเหล็กที่กลับไม่ชอบไม้กอล์ฟที่มีความยาวมากขึ้นใช้

    🔶 สิ่งเหล่านี้ยังคงเป็นสิ่งที่ทำให้นักกอล์ฟหลายๆคนสับสน และเข้าใจต่างกัน ซึ่งทำให้นักกอล์ฟที่ต้องการเล่นกอล์ฟให้ดีขึ้นจริงๆ และอยากที่พัฒนาเกมส์กอล์ฟของตัวเองสู่ระดับที่สูงขึ้น แต่กลับติดอยู่ที่อุปกรณ์ ที่ไม่ได้ช่วยส่งเสริมการเล่น หรือมีอุปกรณ์ที่ผสมสเปคไม้ฯกัน "แบบจับฉ่าย"


    🔷 ก็เพราะกีฬากอล์ฟเป็นกีฬาที่มีอุปกรณ์มากถึงที่สุดก็ว่าได้ ซึ่งเรื่องสเปคของไม้กอล์ฟทุกชิ้นนั้น เช่น ไม้กอล์ฟความยาวก้าน / น้ำหนักรวมไ้ม้กอล์ฟ / สวิงเวท / ขนาดกริ๊ป / การจัดแนวดีดก้าน ฯลฯ ต้องมีความสัมพันธ์กันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่จะทำให้นักกอล์ฟลดความผิดพลาดให้ได้มากที่สุด ที่จะช่วยทำให้นักกอล์ฟ ก้าวสู่ขีดสูงสุด (Peak Performance) ของความสามารถได้

    7 สิงหาคม 2564

    ค่าสวิงเวท (Swing Weight) กับสิ่งทีควรเป็นในไม้กอล์ฟ

    เคยพูดเรื่อง สวิงเวท (Swing Weight) ในการประกอบไม้กอล์ฟไปบ้างแล้ว แต่ขอนำมาพูดซ้ำ ซึ่งค่าสวิงเวท เป็นค่าของการกระจายน้ำหนักบนไม้กอล์ฟ (Weight Distribution) ว่ามีน้ำหนักไปทางหัวไม้ บนก้านไม้ฯ หรือมาที่ด้านท้ายไม้กอล์ฟ (ด้านกริ๊ป) การกระจายน้ำหนักนี้ ควรมีสัดส่วนที่สมดุล (Balance Weight) ในแต่ละไม้กอล์ฟที่มีน้ำหนักที่ไม่เหมือนกัน และควรเหมาะสมกับนักกอล์ฟในแต่ละคนที่มีความแตกต่างกันทางสรีระร่างกาย และจังหวะการสวิง

    ซึ่งพบเห็นว่านักกอล์ฟหลายท่านยังยึดติด และซีเรียส กับเจ้าสวิงเวทนี้เป็นอย่างมากๆ เช่นตัวอย่าง ที่เคยใช้ Driver ตัวหนึ่ง ซึ่งมีค่าสวิงเวทค่าหนึ่ง (D2) และรู้สึกชอบอย่างเหลือเกิน กับเจ้าสวิงเวทค่านี้ ดังนั้นเมื่อมีโอกาสในการเปลี่ยนไม้กอล์ฟใหม่ หรือเปลี่ยนก้านไม้ใหม่ ก็จะจำและให้ช่างผู้ประกอบว่า ต้องทำสวิงเวทค่านี้ให้ได้เท่านั้น เพราะตัวเองนั้นเหมาะกับสวิงเวทตัวนี้เหลือเกิน ห้ามทำเป็นค่าอื่น ซึ่งร้าน Pro Shop หรือช่างซ่อมตามร้านทั่วไป ก็ง่ายมากไม่ต้องคิดอะไรเลย ทำตามแบบเท่านั้น

    เครื่องชั่งสวิงเวท (Swing Weight Scale)
    เคยยกตัวอย่างไม้กอล์ฟ 2 อัน ซึ่่งอันแรกมีน้ำหนักรวมไม้กอล์ฟ (Total weight) ที 315 กรัม และอีกอันหนึ่งมีน้ำหนักรวมที่ 295 กรัม (น้ำหนักรวมแต่กัน 20 กรัม) แต่ไม้กอล์ฟทั้ง 2 อันนี้มีสวิงเวท (Swing weight) ที่เท่ากันที่ D2 ท่านลองพิจารณาว่าไม้กอล์ฟ 2 อันนี้ทำหน้าที่ในการสวิงที่เหมือนกันไหม  และจะเหมาะกับนักกอล์ฟที่ต้องการเพียงสวิงเวทที่ D2 ที่เคยใช้อยู่ไหมครับ??
    (อันนี้พูดแค่ น้ำหนักรวม (Total weight) ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ยังไม่รวมถึงจุดดีด (Bend Profile) / แบบหัวไม้ (Club Head Design) / น้ำหนักก้าน (Shaft Weight) ที่แตกต่างกันกันออกไปอีก) ยิ่งทำให้เจ้าสวิงเวทที่เหมือนกันนี้ที่ D2 ก็ดูว่าจะไม่เหมือนกันเข้าแล้วใช่ไหมครับ

    Tip weight ที่ทำให้ Swing Weight เพิ่มขึ้น
    การปรับ / แต่งสวิงเวทในไม้กอล์ฟ (หัวไม้+ก้าน+กริ๊ป) ที่มีน้ำหนักเบา หรือมีสวิงเวทที่เบา ช่างซ่อมไม้ฯทั่วไปก็จะเอานำ น้ำหนักถ่วงปลายก้าน (Tip Weight) เช่น ตะกั๋ว / น๊อต / ผงเหล็ก-ทังสเตน เพื่อทำน้ำหนักให้ได้สวิงเวทนั้นหนักขึ้น และมีความรู้สึกการสวิงที่หัวไม้กอล์ฟมากขึ้นตามต้องการ เพราะก้านฯ และหัวไม้ Driver ที่เบามาก (โดยเฉพาะไม้กอล์ฟ Spec ญี่ปุ่น) ซึ่งหากต้องการสวิงเวทที่เพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ จะต้องเพิ่มน้ำหนัก Tip Weight เข้าไปมากเป็นพิเศษเกินความจำเป็น (กว่า 5-6 Swing weight หรืออาจมากกว่านั้น)
    **(ภาพด้านซ้าย : พบน๊อตตัวยาวกว่า 3 นิ้วในปลายก้านฯที่ใส่มา เพื่อให้ได้สวิงเวทที่เพิ่มขึ้นตามต้องการ)

    ซึ่งเป็นเช่นนี้แล้วจะทำให้มีน้ำหนักไปอยู่ที่คอไม้ (Hosel) มากเกินความจำเป็น และทำให้จุดศูนย์ถ่วงหัวไม้ (Center Gravity) ที่ออกแบบมา เปลี่ยนไปมาก ซึ่งจะทำให้ก้านฯไม่ทำงาน หรือไม่ดีดตามที่ควรจะเป็น

    อีกตัวอย่างหนึ่งคือ การเปลี่ยนกริ๊ปให้เบาลง เพื่อประโยชน์ให้มีสวิงเวทที่เพิ่มขึ้น ก็เป็นวิธียอดฮิตในการปรับแต่งไม้กอล์ฟกันอย่างมากอีกอันหนึ่งในปัจจุบัน ลองคิดพิจารณาดูนะครับ เมื่อเปลี่ยนกริ๊ปที่เบาลง น้ำหนักที่หัวไม้กอล์ฟนั้น ไม่ได้เพิ่มขึ้นเลย (เป็นค่าของ Static บนเครื่องชั่งสวิงเวทเท่านั้นที่เห็นว่ามันสวิงเวทเปลี่ยนไป) แต่ท่าง Dynamic แล้วนั้นกริีปที่เบาลง ทำให้น้ำหนักรวม (Total Weight) ลดลงด้วย ซึ่งทำให้มวลลดลง เมื่อมวลลดลง ก็ทำให้พลัง (Power) ลดลงด้วย เพราะน้ำหนักกริ๊ปที่เปลี่ยนไปนั้นอยู่ในมือของท่านนักกอล์ฟ!!!!! ไม่ได้ทำปฏิสัมพันธ์กับการดีดก้านฯ ที่มีน้ำหนักเปลี่ยนไป ที่อยู่ห่างออกไปจากมือ บนก้านไม้กอล์ฟ หรือหัวไม้กอล์ฟเลย (ไม่กระทบต่อการดีดก้านฯที่เปลี่ยนไป) ***ซึ่งอาจจะเหมาะกับนักกกอล์ฟที่ต้องการลดน้ำหนักรวม เท่านั้น***

    การเปลี่ยนน้ำหนักบนไม้กอล์ฟนั้นสำคัญมาก ท่านต้องการเพิ่ม หรือลดน้ำหนักบนไม้กอล์ฟเพื่อวัตถุประสงค์อะไร ควรต้องพิจารณาให้แน่ชัดในแต่ละเรื่อง เช่น ระยะ (Distance) / มุมเหิน (Trajectory) / ความแม่นยำ (Accuracy) / ความสม่ำเสมอ (Consistency) หรือเพื่อความรู้สึก (Feel)  เลือกให้เหมาะสม ถูกวัตถุประสงค์ และควรปรึกษาร้านที่เป็น Professional Club Fitting จริงๆจะได้ผลที่ใกล์เคียง และเป็นเหตุเป็นผลมากกว่า สุ่มเปลี่ยนน้ำหนักสวิงเวทตามความเชื่อ หรือการบอกต่อๆกันมา
    ***น้ำหนักที่เบาลง อาจไม่ใช่คำตอบของการได้ระยะ และความแม่นยำ เสมอไปนะครับ***

    ✅ติดตามเรื่องฟิตติ้งไม้กอล์ฟน่ารู้✅

    https://youtube.com/c/TOMTOMIYACLUBFITTING